เปิดยุทธการทลายรังมังกรเทา กวาดล้างธุรกิจนอมินีบริษัทม้าในไทยครั้งใหญ่

4 ธ.ค. – เปิดยุทธการการทลายรังมังกรเทา การกวาดล้างธุรกิจนอมินีบริษัทม้าในไทยครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ พบมี 442 บริษัทเอี่ยว จับผู้ต้องหาได้มากกว่าพันคน เงินหมุนเวียนกว่า 3 พันล้านบาท

ชุดปฏิบัติการกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เปิดปฏิบัติการตรวจค้น 46 จุดทั่วประเทศ ดำเนินคดีนิติบุคคล 442 บริษัท รวมมูลค่าทุนจดทะเบียนทั้งหมด 1,189 ล้านบาท ตรวจพบเงินหมุนเวียนกว่า 3,600 ล้านบาท ผู้ต้องหากว่า 1,000 คน เป็นชาวจีนกว่า 250 คน ร่วมกันจดบริษัทเพื่ออำพรางการประกอบธุรกิจต่าง ๆ อาทิ ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านซูเปอร์มาร์เก็ตจีน ธุรกิจนำเที่ยว โกดัง/คลังสินค้า ร้านรับแลกเงินต่างประเทศ/เงินดิจิทัล ถือครองอสังหาริมทรัพย์โดยผิดกฎหมาย และหลายบริษัทไม่มีกิจการอยู่จริง จดทะเบียนบริษัทเพื่อเปิดบัญชีม้า รับโอนเงินจากแก๊งมิจฉาชีพในคดีอาชญากรรมออนไลน์ คอลเซ็นเตอร์ และฟอกเงิน ของกลางและทรัพย์สินที่ตรวจยึด อาทิ สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 34 เล่ม เอกสารการถือครองที่ดิน 22 ฉบับ รวมมูลค่า 254 ล้านบาท, ตราประทับบริษัทต่างๆ จำนวน 494 ชิ้น ฯลฯ

จากการตรวจสอบแผนประทุษกรรมขบวนการดังกล่าว พบว่ามี 2 รูปแบบ คือการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง หรือนอมินีคนต่างด้าว เปิดธุรกิจบริษัทในไทย และการจดทะเบียนบริษัทในลักษณะของบริษัทม้า เพื่อนำไปเปิดบัญชีธนาคารรับโอนผลประโยชน์จากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และใช้ในการฟอกเงิน

พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทน จเรตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า น่าตกใจมากพบมีทนายความ ผู้ตรวจบัญชี สำนักงานบัญชี ร่วมตกแต่งเอกสารในการจดทะเบียนบริษัท ถือเป็นภัยความมั่นคงชาติอย่างมาก โดยคนไทยจะได้เงินค่าจ้างเพียงเล็กน้อย แต่เปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติเข้ามาหาประโยชน์และหลอกลวงในไทยสร้างความเสียหลายพันล้านบาท

ด้านนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุจากการตรวจสอบพบว่า เครือข่ายนี้ ส่วนหนึ่งเป็นขบวนการที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายธุรกิจผิดกฎหมายและอาชญากรรมออนไลน์ ใช้เป็นช่องทางในการฟอกเงิน ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน คอนโด และโครงการบ้านหรู ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ

ทั้งนี้ ทางกระทรวงฯ จะมีการตรวจสอบความเสี่ยงด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างต่อเนื่อง และตอนนี้เร่งตรวจสอบย้อนหลังบริษัทจีนทั้งหมดอีกด้วย โดยเฉพาะชื่อใดที่มีการจดทะเบียนซ้ำ ศักยภาพของบุคคลในการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ตรวจสอบประวัติทำธุรกิจประเภทนี้หรือไม่ สถานที่ตั้งมีความผิดปกติหรือไม่ โดยเฉพาะร้านค้า บริษัท โกดังต่าง ๆ โดยทางกระทรวงฯ มีการยืนยันตัวตนตรวจสอบอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ทางรัฐบาลได้มีการตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจบูรณาการร่วมกันจากหน่วยงานต่างๆ เพื่อตรวจสอบและติดตามผลอย่างต่อเนื่อง. -416- สำนักข่าวไทย