จับหนุ่มใหญ่ชาวฝรั่งเศสส่งออกโคคาอีน

กทม. 29 พ.ค.-สตม.แถลงข่าวรวบหนุ่มสัญชาติฝรั่งเศส ส่งออกโคคาอีนซ่อนในกล่องพัสดุ รับเพิ่งทำครั้งแรก จะส่งให้เพื่อนที่อยู่กัมพูชา ส่วนอีกคดีรวบหัวหน้าแก๊งปลอมหนังสือเดินทางหนีหมายจับกบดานไทย พบใช้หนังสือเดินทางปลอม พร้อมทำธุรกรรมในไทยหลายรายการ

พล.​ต.ต.พันธนะ​ นุชนารถ​ รอง ผบช.สตม. พร้อมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกับแถลงข่าว 2 คดี คดีแรกกรณี​ กก.1 บก.สส.สตม. จับกุมนายมาซองซ์ (นามสมมติ) อายุ 39 ปี สัญชาติฝรั่งเศส ความผิดฐาน “พยายามส่งออกซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๒ (โคคาอีน) โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า อันเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน” สถานที่จับได้บริเวณหมู่บ้านจัดสรรย่าน ถ.พัฒนาการ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ


โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการประสานจากพนักงานของบริษัทจัดส่งพัสดุ ว่ามีการตรวจเอกซเรย์พัสดุเพื่อคัดแยกก่อนนำส่ง พบพัสดุระหว่างประเทศปลายทางประเทศกัมพูชาต้องสงสัยว่ามีสิ่งผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ภายใน พบกล่องพัสดุมีขนาดน้ำหนักรวม 1.0 กิโลกรัม จำนวน 1 กล่อง ระบุชื่อผู้ส่งและผู้รับที่หน้ากล่องชัดเจน จากการเปิดกล่องพัสดุพบภายในเป็นกล่องรถบังคับวิทยุสีแดง จำนวน 1 คัน รีโมทบังคับ จำนวน 1 ชิ้น และกล่องกระดาษสายชาร์จ พอแกะดูด้านในไม่มีสายชาร์จ แต่เป็นผงสีขาวจับตัวเป็นก้อนห่อด้วยพลาสติกปิดด้วยความร้อน จำนวน 1 ห่อ น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 10 กรัม เมื่อนำตัวอย่างผงสีขาวดังกล่าวทดสอบกับน้ำยาตรวจสารเสพติดเบื้องต้น ให้ผลเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) จึงทำการตรวจยึดเป็นของกลาง

ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนติดตามหาตัวนายมาซองซ์ จนกระทั่งพบว่า นายมาซองซ์พักอาศัยอยู่กับหญิงไทยย่านสวนหลวง จึงวางแผนจับกุม ในชั้นจับกุมนายมาซองซ์ ให้การรับว่ากล่องพัสดุและโคคาอีนของกลางเป็นของตนเอง โดยได้ซื้อโคคาอีนมาจากชายผิวสีไม่ทราบชื่อและสัญชาติ ซึ่งพบกันในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และการส่งพัสดุครั้งนี้เป็นการทดลองส่งไปให้เพื่อนที่อยู่ในประเทศกัมพูชาครั้งแรกแต่เพื่อนไม่ได้รับ จึงเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจของไทยได้ตรวจพบโคคาอีนในกล่องพัสดุแล้ว แต่ไม่คิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะรู้ว่าตนเป็นผู้ส่ง เนื่องจากได้จัดส่งโดยใช้ชื่อของคนอื่น หากครั้งนี้ส่งผ่านก็จะหาโคคาอีนทยอยส่งไปให้เพื่อนอีก จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีตามกฎหมาย


ส่วนอีกคดีกรณี​ กก.4 บก.สส.สตม. จับกุมนายเฉิน อายุ 52 ปี สัญชาติซูรินัม ในความผิดฐาน “ปลอมและใช้หนังสือเดินทางปลอม” จับกุมได้บริเวณ ถนนสวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ โดยเจ้าหน้าที่ สตม.​ได้ทำการสืบสวนกลุ่มขบวนการปลอมหนังสือเดินทาง จนทราบว่ามีขบวนการทำหนังสือเดินทางปลอม และพาคนเข้าออกประเทศอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงทำการขอหมายค้นต่อศาลอาญากรุงเทพใต้เข้าทำการตรวจค้นห้องพักในคอนโดแห่งหนึ่งย่านสาทร ผลการตรวจค้นพบนายเฉิน อายุ 52 ปี สัญชาติซูรินัม แสดงตนเป็นผู้ครอบครองห้องพัก และได้พบเอกสารราชการไทย เช่น ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ เอกสารการเปิดบัญชีธนาคารหลายรายการ และสำเนาหนังสือเดินทาง และได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไต้หวัน ตรวจสอบพบว่า เป็นหนังสือเดินทางปลอม พร้อมกับได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจีนตรวจสอบสัญชาติ พบว่า นายเฉินเป็นคนสัญชาติจีน มีพฤติการณ์เป็นหัวหน้าขบวนการในการปลอมหนังสือเดินทางของสาธารณรัฐประชาชนจีน ไต้หวัน และปลอมบัตรผู้อาศัยถาวรของประเทศต่างๆ และเป็นหัวหน้าขบวนการนำคนจีนเดินทางออกจากสาธารณรัฐประชาชนจีน หลบหนีเข้าประเทศต่างๆ อย่างผิดกฎหมาย โดยการใช้หนังสือเดินทางปลอมหรือการใช้บัตรผู้อยู่อาศัยถาวรในการแสดงตัวตนในการทำธุรกรรมต่าง ๆ เพื่อทำการปิดบังตัวตน หลังจากการรวบรวมพยานหลักฐานจึงได้ขออนุมัติหมายจับต่อศาลอาญาทำการจับกุมนายเฉินดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินคดีตามกฎหมาย.-420-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : “ทรัมป์ 2.0” นำไปสู่กาลอวสานระเบียบโลก ?

นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวคิดมองโลกแบบแหวกแนว ส่วนหนึ่งทำให้ได้ใจคนอเมริกัน แต่ส่วนหนึ่งทำให้ทั้งโลกปั่นป่วน วันนี้มีคำกล่าวจากผู้นำรัสเซียว่า ระเบียบโลกใหม่กำลังเริ่มต้นขึ้น

มอบรางวัล “หมูเด้ง” ทายผล “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง

มอบรางวัลผลไม้ถาดยักษ์ให้ “หมูเด้ง” หลังทำนายทายถูกว่า “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง ด้าน ผอ.สวนสัตว์ฯ อวยยศให้เป็น “อาจารย์เด้ง”

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น