รวบต่างด้าว 73 คน เดินเท้าผ่าน อ.สังขละบุรี เตรียมขึ้นรถขนย้าย

8 เม.ย. – ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) บูรณาการร่วมหลายหน่วยงาน รวบต่างด้าวชาวเมียนมา 73 คน เดินเท้าผ่าน อ.สังขละบุรี เตรียมขึ้นรถขนย้าย


กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวง (ทล.) และทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า ค่ายสุรสีห์, ฝ่ายปกครองอำเภอทองผาภูมิ ร่วมกันจับกุม แรงงานต่างด้าว 73 คน ผู้ติดตาม 4 คน พร้อมตรวจยึดของกลาง 1. รถยนต์กระบะคอก ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็ค สีขาว จำนวน 1 คัน 2. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ไอ สีน้ำเงิน จำนวน 1 คัน 3. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ไอ สีน้ำเงิน จำนวน 1 คัน 4. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 ไอ สีน้ำเงิน จำนวน 1 คัน 5. อาวุธปืนสั้น ชนิดกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ SIGSAUER รุ่น P320 ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก 6. แม็กกาซีน ขนาด 9 มม. จำนวน 2 อัน 7. กระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 22 นัด (บรรจุอยู่ภายในแม็กาซีน จำนวนแม็กละ 11 นัด) พบของกลางลำดับที่ 5–7 ซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องเก็บของด้านข้างเบาะผู้ขับขี่ภายในรถยนต์กระบะคอก

พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ตั้งจุดสกัด เพื่อป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าวและป้องกันการลักลอบขนยาเสพติดตามนโยบายนายกรัฐมนตรี ต่อมาในระหว่างออกตรวจไปถึงบริเวณภายในสวนยางพารา ซอย 4 ม.4 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้พบรถยนต์กระบะคอก 1 คัน และรถจักรยานยนต์ 3 คัน จอดอยู่และเห็นกลุ่มคนลักษณะคล้ายกลุ่มแรงงานต่างด้าวกำลังเดินขึ้นรถยนต์กระบะคอก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเกรงว่าอาจจะเป็นการแอบลักลอบขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เพื่อทำการเข้าตรวจสอบ แต่กลุ่มคนดังกล่าวพยายามวิ่งจะหลบหนีเข้าไปในป่า เจ้าหน้าที่จึงวิ่งติดตามไป และสามารถควบคุมตัวกลุ่มคนดังกล่าวไว้ได้ทัน แต่ไม่สามารถควบคุมตัวผู้ขับขี่ไว้ได้


จากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มคนดังกล่าวเป็นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง จำนวน 73 คน (เป็นชายจำนวน 55 คน และ หญิงจำนวน 18 คน) และผู้ติดตาม จำนวน 4 คน (เป็นชาย จำนวน 4 คน) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงขอตรวจสอบเอกสารและบัตรประจำตัว แต่ผู้ต้องหาที่ 1 – 73 ซึ่งไม่สามารถนำมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ จากการตรวจสอบพบว่าแรงงานต่างด้าวดังกล่าวไม่สามารถพูดและรับฟังภาษาไทยได้เลย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ประสานกับ นายยามิน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ อส.ตร. มาเป็นล่ามแปลภาษา ทำการสอบถามผู้ต้องหาที่ 1 – 73 ได้แจ้งกับเจ้าที่ชุดจับกุมว่าพวกตนไม่มีเอกสารหรือบัตรประจำตัวใดๆ ทั้งสิ้น และยังไม่เคยได้รับเอกสารประจำตัวใดๆ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเกรงว่าอาจจะมีสิ่งผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ภายในรถคันดังกล่าวอีก จึงได้ทำการตรวจค้นภายในรถและบริเวณรอบข้างอย่างละเอียด ผลการตรวจค้นพบอาวุธปืนสั้น ชนิดกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ SIGSAUER รุ่น P320 ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมด้วย แม็กกาซีน จำนวน 2 อัน (บรรจุกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวนแม็กละ 11 นัด) ซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องเก็บของด้านข้างเบาะผู้ขับขี่ภายในรถยนต์กระบะคอก

จากการสอบถามแรงงานต่างด้าวผ่านล่าม ให้การว่า สำหรับจักรยานยนต์ 3 คัน ที่อยู่ในที่เกิดเหตุเป็นรถที่ใช้สำหรับรับแรงงานต่างด้าวที่นั่งเรือมาส่งที่ฝั่ง ตามแนวชายฝั่งแม่น้ำบ้านขนุนคลี่ จากนั้นแรงงานต่างด้าวจะนั่งรถจักรยานยนต์ ทยอยทีละ 3-4 คน ไปลงที่บริเวณภายในสวนยางพารา ซอย 4 หมู่ 4 ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อนั่งรถยนต์กระบะพาไปส่งในพื้นที่ชั้นในต่ออีกที สำหรับรถยนต์, รถจักรยานยนต์ และอาวุธที่ชุดจับกุมยึดมาได้ จะทำการตรวจสอบหาตัวผู้ครอบครอง เพื่อสอบปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการนำแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองในครั้งนี้หรือไม่

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าขบวนการดังกล่าวเป็นขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยมีการเตรียมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในลำเลียงแรงงานต่างด้าวจากประเทศเมียนมา โดยมีนายหน้าคนไทยในการติดต่อกับนายหน้าเมียนมาเพื่อลักลอบขนแรงงานต่างด้าว


จากการสอบถามผู้ต้องหาที่ 1–73 โดยให้นายยามิน เป็นล่ามแปลภาษา ให้การยอมรับว่า พวกตนได้เดินทางหลบหนีเข้าเมืองมาจากประเทศเมียนมา มาตามช่องทางธรรมชาติ บ้านพระเจดีย์สามองค์ อำเภอสังขละบุรี และได้นั่งเรือมากจากอำเภอสังขละบุรี จนมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อรอขึ้นรถที่จะเดินทางเข้าไปทำงานในตัวเมืองชั้นใน โดยจะเสียค่าเดินทางให้กับนายหน้าประมาณคนละ 15,000 ถึง 30,000 บาท จะจ่ายก็ต่อเมื่อเดินทางถึงที่หมาย ได้ให้นายยามิน ล่าม แจ้งให้ ผู้ต้องหาที่ 1–73 กระทำความผิดฐาน (ข้อหา) “เป็นบุคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต” และผู้ต้องหาที่ 74 – 87 นำส่ง สต.กาญจนบุรี เพื่อผลักดันกลับประเทศเมียนมาต่อไป และควบคุมตัวพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ ภ.จว.กาญจนบุรี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา .-414-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. ยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติ

ทำเนียบ 1 ก.ค.-นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมชี้แจงเต็มที่ ยืนยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติและรักษาอธิปไตย ไม่มีเจตนาอยากได้อะไรเป็นของตัวเอง พร้อมขอโทษ หากวิธีการไม่ถูกใจใครหลายคน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุนเซ็น และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 7:2 ว่า ขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลต่อจากนี้ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งระยะเวลานั้นไม่แน่ใจ แต่มีเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำให้เต็มที่ในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาว่า ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ เกิน 100% ว่าตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้เพื่ออธิปไตยของเรา เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพและทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนมั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ตนเองทำ อาจจะมีทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ ว่าเป็นความตั้งใจ เป็นความพยายามเกิน 100% ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เจตนาไม่มีอยากได้อะไรของตัวเองเลย และคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวายและ ทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และตนก็คงรับไม่ได้หากพูดอะไรกับทางผู้นำและทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะหรือโกรธเคือง อันนั้นเป็นความตั้งใจจริงๆ ถ้าลองฟังดูจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เพราะฉะนั้นนี่คือ […]

ศาล รธน. สั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​

ศาลรัฐธรรมนูญ 1 ก.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​ หลังรับคำร้อง 36 สว. ยื่นถอดถอน ปมคลิปเสียงคุย “ฮุน เซน” ผิดจริยธรรม​ เปิดชื่อ 2 ตุลาการเสียงข้างน้อย “นครินทร์-อุดม” ไม่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แค่ห้ามใช้อำนาจหน้าที่ด้านความมั่นคง-การต่างประเทศ-การคลัง ศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุมปรึกษาคดีที่นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้ยื่นคำร้องของ 36 สว. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 ว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กระทำฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ รวมทั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นางสาวแพทองธารหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย จากกรณีคลิปเสียงสนทนาเรื่องข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชากับสมเด็จ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและและเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 […]

รวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ยึดของกลาง 1.9 ล้าน

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ผบช.น. แถลงรวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ตามยึดของกลางคืนแล้ว 1.9 ล้านบาท ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 5 คน ขออนุมัติศาลออกหมายจับบ่ายนี้ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวเปิดเผยความคืบหน้าการจับกุมผู้ต้องหาปล้นเงินสดจำนวน 3.4 ล้านบาท ภายในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าวเมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว และ น.ส.นานา โดยสามารถตามจับกุมได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงเวลา 01.00 น.ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ยังสามารถตรวจยึดของกลางเป็นเงินสดจำนวน 1.9 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนแบ่งจากการกระทำความผิด เสื้อผ้าที่สวมใส่ในขณะก่อเหตุ บัญชีธนาคารและบัตร ATM รวมทั้งสิ่งของที่ได้มาจากการทำความผิดก่อนหน้านี้ของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองให้การยอมรับสารภาพจากการจำนวนต่อหลักฐาน โดยอ้างว่า นายเฌอพัชญ์ จะทำหน้าที่เป็น Agent หรือตัวแทนหลอกซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่ผ่านกลุ่ม Facebook […]

“สรวงศ์” ยันเร่งแก้ระบบล่ม หลังแห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง”

ทำเนียบ 1 ก.ค.- “สรวงศ์” ยันเร่งแก้ปัญหาแอปฯ ล่ม หลังปชช.แห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เผยอาจมีการเพิ่มสิทธิมากขึ้น นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึง การเปิดลงทะเบียนโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ในวันนี้ เป็นวันแรก (1 ก.ค.) หลังเปิดให้ลงทะเบียนเวลา 08.00 น. ปรากฏว่าแอปฯ ล่ม ว่า ในเรื่องของแอปฯ ล่มกำลังแก้ไขอยู่ โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งยอมรับว่าเมื่อเปิดให้มีการลงทะเบียน มีประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก นายสรวงศ์ ยืนยันว่าเรื่องของระบบการลงทะเบียนได้มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้แล้ว แต่บางครั้งเป็นปัญหาทางเทคนิค แต่ก็จะพยายามแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด นายสรวงศ์ มองว่า การที่ประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก เป็นเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนอยากจะเที่ยวอยู่ ซึ่งก็จะมีการพิจารณาอีกครั้งว่า หากมีประชาชนลงทะเบียนจนครบตามสิทธิแล้ว นายกรัฐมนตรีเคยบอกแล้วว่า จะเพิ่มสิทธิตรงนี้ให้.-315 -สำนักข่าวไทย