กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – แม่ร้องหา “ไทเกอร์” อดีตดาราเด็ก วิงวอนลูกกลับมาลงทะเบียนเรียนวิชาสุดท้ายให้จบเพื่ออนาคตตัวเอง
น.ส.ปรายรุ่ง อายุ 61 ปี มารดานายธนกร หรือน้องไทเกอร์ อายุ 22 ปี อดีตดาราเด็ก และนิสิตมหาวิทยาลัยดังย่านสามย่าน เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน บก.ปคม. เพื่อร้องขอให้ช่วยติดตามคนหาย
น.ส.ปรายรุ่ง ระบุตนทราบจากทางมหาวิทยาลัยที่น้องไทเกอร์ บุตรชายเรียนอยู่คณะวิศวะฯ ซึ่งยังเหลือติดอยู่รายวิชาเดียวก็จะสำเร็จจบเป็นบัณฑิต ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 16 ส.ค.64 ตนเคยไปติดต่อขอทางมหาวิทยาลัยฯ ให้ช่วยติดตามบุตรชายมาลงเรียน ตอนนั้นเหลือติดอยู่ 2 วิชา ก่อนจะต้องพ้นสภาพฯ เพื่ออนาคตของลูก
น.ส.ปรายรุ่ง เล่าต่อเมื่อตอนที่ไทเกอร์ เพิ่งเข้าศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 1 ใหม่ ๆ ขณะที่ตนไปปฏิบัติธรรมที่ต่างจังหวัดและกลับมาถึงที่บ้าน พบว่าไทเกอร์ได้ออกจากบ้านไปโดยที่ตนไม่ทราบและไม่ได้ยินยอม โดยได้สอบถามเพื่อนบ้านว่าเห็นบุตรชายหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าเห็นขนของออกจากบ้านในช่วงที่ตนไม่อยู่บ้าน พร้อมทั้งมาลาเพื่อนบ้านและกล่าวว่าอาจารย์สั่งให้ไปอยู่ที่หอพักของมหาวิทยาลัย เมื่อตนติดตามไปที่หอพักของมหาวิทยาลัยก็ไม่ให้ความร่วมมือใด ๆ ตลอดระยะเวลา 4 ปี ไม่มีโอกาสได้พบลูกเลย
ตนอยู่กับน้องไทเกอร์มาตลอดตั้งแต่เด็ก เขาเป็นเด็กดี เรียนเก่ง แต่มาเกิดปัญหาเพราะหลังสอบเข้ามหาวิทยาลัย ทางมหาวิทยาลัยได้ให้ทุนการศึกษาในตอนอยู่ปี 1 และให้ย้ายไปพักในพอพักของมหาวิทยาลัย ก่อนจะมีคนยุยงให้เขาเห็นผิดทิ้งแม่ไป พรากลูกของตนไปโยนบาปใส่ร้ายแม่ ตนได้แต่ทุกข์ทรมานเป็นห่วงอนาคตลูก อยากจะให้ลูกตั้งใจใฝ่เรียนดีจนสำเร็จตลอดชีวิตของตน มีอนาคตสดใส ตนจะได้ตายตาหลับ ตนไม่ได้หวังอะไรจากลูกชาย แต่ลูกไปโดนกลุ่มคนอื่นที่ปลุกปั่นหัวให้เกลียดแม่ ลูกยังเด็กแม่ให้อภัยเสมอ ตอนนี้แม่อายุก็มาก เป็นซี๊ดเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็ง โรคหัวใจก็เป็น
อยากจะให้ลูกกลับมาตั้งใจเรียนที่เหลืออยู่แค่วิชาเดียว เพื่ออนาคตลูก มาลงทะเบียนให้จบเถอะ แม่หมดหนทางแล้วที่จะติดต่อลูกได้ ถ้าลูกเห็นสิ่งที่แม่ถ่ายทอดออกไปขอให้รู้ว่าแม่อยากให้ไทเกอร์รับผิดชอบตัวเอง แม่อยากเห็นลูกประสบความสำเร็จ ไม่ต้องมาเลี้ยงแม่ ทิ้งแม่ไปไม่เป็นไร แต่แม่ขอให้กลับมาเรียนให้จบ
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนตรวจสอบข้อมูลที่ น.ส.ปรายรุ่ง แล้วไม่เข้าข่ายบุคคลสูญหาย จึงไม่รับแจ้งความก่อนจะแนะนำให้ติดต่อมูลนิธิกระจกเจา ประกาศคนหายแทน และหลังจากได้โทรคุยกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงาก็ไม่มีมีคำแนะนำที่ช่วยเหลือได้ น.ส.ปรายรุ่ง ร้องไห้เดินมาร้องขอความช่วยเหลือสื่อมวลชน ช่วยสื่อสารไปถึงลูกชายด้วย. -สำนักข่าวไทย