กทม. 9 มิ.ย.-“ทนายเดชา” ยันเป็นทนายว่าความให้ “แพรรี่ ทิดไพรวัลย์” จริง มั่นใจคดีไม่มีมูล “แพรรี่” แสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เพราะเป็นพระมาก่อน รู้กฎระเบียบและพระธรรมวินัยเป็นอย่างดี พร้อมระบุไม่ให้ราคาทนายขี้คุย เตือนแพ้คดีระวังเป็นหมา
นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ เปิดเผยว่าเมื่อวานที่ผ่านมา นายไพรวัลย์ วรรณบุตร หรือแพรรี่ ยูทูปเบอร์ชื่อดังได้ทำหนังสือแต่งตั้งตนเองเป็นทนายความหลังถูกนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ยื่นฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาหลังจากที่แพรรี่โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นว่า “สอนธรรมมะไปด้วยสูบบุหรี่ไปด้วยทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเป็นของเสพติดให้โทษ เอาอะไรมามั่นว่าชนะกิเลสตัณหา” โดยข้อความดังกล่าวถูกโพสต์เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ทนายอนันต์ชัย ได้ยื่นฟ้อง “แพรรี่” ในฐานะผู้โพสต์และแฟนคลับที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นอีกสองคน
ทนายเดชา ระบุว่าหลังจากดูสำนวนคำฟ้องของโจทก์แล้วไม่พบสาระสำคัญแต่อย่างใดจึงไม่เป็นการหมิ่นประมาทกรณีนี้ “แพรรี่” ไม่ได้ระบุชื่อของโจทก์หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งเลยแต่โจทก์คิดไปเอง การแสดงความคิดเห็นของแพรรี่เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยชอบตามกฎหมาย อย่าลืมว่าจำเลยเคยบวชเป็นพระอยู่ในผ้าเหลือง จบเปรียญธรรม 9 ประโยค ย่อมรู้กฎระเบียบของสงฆ์เป็นอย่างดี จากที่ตนเองดูแล้วจึงไม่เข้าข่ายหมิ่นประมาทแต่เป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตใจ ส่วนกรณีจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นแฟนคลับที่ถูกฟ้องด้วยนั้น โจทก์อ้างว่าถูก “แพรรี่” ว่าจ้างมาแสดงความคิดเห็น เป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลเป็นไปไม่ได้ สุดท้ายเชื่อว่าคดีนี้ไม่มีมูล
ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ตนเองกับทนายอนันต์ชัย เป็นคนละชั้นกันจะส่งทนายฝึกหัดมาสู้กับตน นั้นสำหรับตนไม่ให้ราคากับทนายพวกนี้ พวกขี้โม้ พวกขี้คุยมักไปไม่รอด สุดท้ายกลายเป็นทนายไร้ราคา พร้อมฝากถามไปปยังทนายอนันต์ชัย ผ่านสื่อมวลชน ถ้าคดีนี้แพ้ขึ้นมาเป็นถึงหมาขี้เรื้อนได้เลย ก่อนทิ้งท้ายด้วยคำว่า “โฮ่งๆ” และ “จุ๊กกรู๊” ที่เป็นวลีประจำตัวของทนายเดชา.-สำนักข่าวไทย