กรุงเทพฯ 8 ธ.ค. – ตำรวจ ปคม.ร่วมกับกรมการจัดหางานจับกุมขบวนการหลอกขายฝัน พาแรงงานไทยไปทำงานนวดแผนไทย ท้ายสุดบังคับค้ากาม 200 ครั้งที่ดูไบ ใช้หนี้ที่เกิดจากการเดินทางไปทำงาน
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ร่วมกับตัวแทนกรมการจัดหางาน แถลงจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย คือ น.ส.นันทพรฯ อายุ 45 ปี นายภานุวัฒน์ฯ อายุ 37 ปี และ น.ส.จรรยาฯ หรือปุ้ย อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในข้อหาสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ฯลฯ เมื่อต้นเดือน พ.ย. 2564 นายภาณุวัฒน์ ได้ชักชวนนายบี ผู้เสียหาย ไปทำงานที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยอ้างว่างานดังกล่าวมีรายได้ดีได้เงิน 80,000 บาท/เดือน เป็นงานนวดสปาแผนไทย มีที่พักอาหารให้ หากสนใจจะดำเนินการเรื่องหนังสือเดินทางค่าเครื่องบิน ให้ก่อนซึ่งเมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจะให้พูดคุย น.ส.จรรยาฯ หรือปุ้ย (แม่แทรค/นายหน้า) เกี่ยวกับการไปทำงานต่างประเทศ และเมื่อตกลงไปทำงานนวดสปาแผนไทยดังกล่าวโดยกลุ่มผู้ต้องหาได้นัดให้ผู้เสียหายไปพบกับ น.ส.นันทพรฯ เพื่อรับเทรนงานก่อนที่ผู้เสียหายจะเดินทางไปทำงาน
ด้าน พ.ต.ท.ภคพล สุชล รอง ผกก.ปคม กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ย.2564 ผู้เสียหายเดินทางถึงประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีหญิงไทยและชายอินเดียมารอรับที่สนามบิน ซึ่งได้ยึดหนังสือเดินทางของผู้เสียหายไว้ และพาผู้เสียหายไปพบหญิงชาวจีนไม่ทราบชื่อสกุล เพื่อไปเริ่มงานที่ร้านนวดที่เมืองดูไบ โดยผู้เสียหายพบว่าร้านนวดดังกล่าวมีการค้าประเวณี มีนายนิกกี้ ชาวปากีสถาน และนายอาหลิว ชาวจีน (ผู้จัดการร้าน) บังคับให้ขายบริการทางเพศ โดยจะให้ค่าตัวครั้งละ 100 ดีแฮห์ม หรือประมาณ 900 บาท แต่จะต้องจ่ายให้ทางร้านครั้งละ 50 ดีแฮห์ม หรือ 450 บาท เป็นการหักชำระหนี้ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ คิดเป็นเงินกว่า 71,000 บาท ซึ่งทางผู้เสียหายถูกกลุ่มผู้ต้องหาบังคับ ข่มขู่ ให้ขายบริการทางเพศเรื่อยมา เนื่องจากผู้เสียหายไม่มีเงินชดใช้หนี้ดังกล่าว โดยผู้เสียหายจะต้องทำงานขายบริการมากถึง 200 ครั้ง เพื่อใช้หนี้จนกระทั่งภายหลังผู้เสียหายถูกส่งตัวไปทำงานที่ร้านนวดเเห่งใหม่ ซึ่งเป็นร้านของนายอีซี่ ชาวไนจีเรีย ผู้เสียหายจึงได้ปรึกษาเพื่อนในร้าน และติดต่อขอความช่วยเหลือจากทางญาติ จนได้รับการช่วยเหลือกลับไทย จากนั้นจึงได้มาร้องทุกข์กับตำรวจ ปคม.เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งตำรวจรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับขบวนการดังกล่าว 7 คน จับได้แล้ว 3 คน
สอบสวนนายภานุวัฒน์ฯ ให้การว่า พบโฆษณาเชิญชวนคนไปทำงานที่เมืองดูไบของ น.ส.จรรยาฯ ในกลุ่มเพจ Facebook ชื่อ “ร้านนวดสปา หางานต่างประเทศและในประเทศ” จึงได้ชักชวนให้ผู้เสียหายไปทำงานดังกล่าว โดยให้ผู้เสียหายติดต่อโดยตรงกับ น.ส.จรรยาฯ ซึ่งตนจะได้ค่านายหน้า 10,000 บาท ส่วน น.ส.จรรยาฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าว
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าช่วงเดือนพ.ค.–พ.ย.65 น.ส.จรรยา ผู้ต้องหา มีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 4 ล้านบาท อีกทั้งยังพบข้อมูลการเดินทางของเหยื่อที่ถูกหลอกไปทำงานอีกเป็นจำนวนมาก สำหรับ ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว และจะเร่งขยายผลติดตามตัวผู้ร่วมขบวนการรายอื่น ๆ อีกต่อไป
ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยและป้องกันการถูกหลอกลวง เจ้าหน้าที่กรมการจัดหางานเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง หากมีคนมาชวนทำงานที่ต่างประเทศโดยใช้วีซ่าท่องเที่ยวอาจถูกหลอกได้ง่าย แนะ 5 ช่องทาง ในการไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกกฎหมาย เช่น ให้ติดต่อกับกรมการจัดหางานโดยตรง หรือติดต่อกับบริษัทจัดหางานที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย หรือเป็นบริษัทในประเทศไทยได้งานต่างประเทศแล้วพาคนไปทำงานหรือฝึกงาน ฯลฯ.-สำนักข่าวไทย