ปาเจโรหลับในชนเก๋ง-รถเมล์ เจ็บ 5 ราย

กรุงเทพฯ 2 พ.ย. – หนุ่มขับปาเจโรสปอร์ตหลับใน พุ่งชนเก๋ง รถเมล์ เสาไฟฟ้าหัก 2 ต้น บาดเจ็บ 5 ราย บริเวณสุขุมวิท 101/1 เบื้องต้นแจ้งข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย พร้อมส่งตรวจแอลกอฮอล์-สารเสพติด


ตำรวจ สน.พระโขนง เข้าตรวจสอบเหตุรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต เฉี่ยวชนกับรถเก๋งเชฟโรเลตก่อนพุ่งไปชนกับรถโดยสารประจำทาง สาย 132 (การเคหะบางพลี–พระโขนง) สีชมพู ก่อนจะเสียหลักไปชนกับเสาไฟฟ้าหัก 2 ต้น บริเวณปากซอยสุขุมวิท 101/1 ถนนสุขุมวิทขาออก ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

คนขับรถเมล์และพนักงานเก็บค่าโดยสาร เล่าว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ขณะให้บริการกับผู้โดยสารประมาณ 30 คน มุ่งหน้าเคหะบางพลี ถึงที่เกิดเหตุได้ยินเสียงดังลักษณะรถเบรกและสังเกตเห็นว่ารถปาเจโรสีดำพยายามจะขับแซงซ้ายแซงขวาก่อนที่จะเฉี่ยวชนกับรถเก๋งเชฟโรเลต สีบอร์นเงิน บริเวณเลนขวาสุด ส่วนตนเองขับมาตามเลนซ้ายปกติ แต่ปรากฏว่ารถ 2 คัน กระเด็นมากระแทกด้านหน้ารถ ทำให้เสียหลักพุ่งเข้าชนเสาไฟฟ้าข้างทาง ส่งผลให้ผู้โดยสารหญิง 1 คน นั่งอยู่เบาะหน้าได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนอื่นปลอดภัย


ส่วนคนขับรถปาเจโรสีดำ ยอมรับหลับในและยินดีที่จะรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ พร้อมยกมือขอโทษ โดยไม่มีท่าทีที่จะหลบหนีแต่อย่างใด นอกจากนี้ ยังมีหัวหน้าเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดของ กทม.ที่จอดรถอยู่ริมถนนถูกชนอีก 2 คน ได้รับบาดเจ็บ ส่วนรถเก๋งเชฟโรเลตโดยสารมา 3 คน กำลังไปส่งลูกที่โรงเรียน ปรากฏว่าแม่ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย รวมมีผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุดังกล่าว 5 ราย ทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว

ส่วนที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง หรือ กฟน. และเจ้าหน้าที่เทศกิจ กทม.และตำรวจ สน.พระโขนง อยู่ระหว่างนำรถเครนมาเคลื่อนย้ายและซ่อมแซมเสาไฟฟ้าที่หักโค่น รวมทั้งอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ใช้เส้นทาง ล่าสุดเคลื่อนย้ายรถและเปิดการจราจรตามปกติแล้ว

ด้าน พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลพระโขนง เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาคนขับปาเจโร ฐานความผิดขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย ส่วนเสาไฟฟ้า รถโดยสารประจำทาง และรถเก๋งเชฟโลเลต ที่ได้รับความเสียหายจะต้องฟ้องแพ่งกับคนขับรถปาเจโร ทางตำรวจส่งตัวคนขับปาเจโรไปตรวจหาสารเสพติดในเลือดและปริมาณแอลกอฮอล์ พร้อมยอมรับว่าในส่วนของคนขับรถปาเจโร เจ้าหน้าที่ไม่ได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในที่เกิดเหตุทันที เนื่องจากได้รับบาดเจ็บต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่แจ้งโรงพยาบาลตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์และตรวจหาสารเสพติดในร่างกายแล้ว โดยอยู่ระหว่างรอผล


เบื้องต้นจากการสอบปากคำคนขับรถปาเจโร ให้การว่ารถเสียหลักไปชนกับเมล์สาย 132 และรถเก๋ง รวมถึงรถจักรยานยนต์ รวม 4 คัน ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่จะเก็บหลักฐานสอบปากคำคนขับ รวมถึงคนเจ็บและพยานแวดล้อม เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทรัมป์” เดินทางถึงกรุงวอชิงตัน เตรียมเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เดินทางถึงสนามบินในกรุงวอชิงตันแล้วในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ้น เพื่อเตรียมตัวเข้าพิธีสาบานตน

พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ลูกชายคนเล็กถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชน

พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังสูญเสียลูก 2 คน ถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชนตกสะพาน ย่านสายไหม กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อ 10 ต.ค.67

รถน้ำมันระเบิดไนจีเรียหลังพลิกคว่ำ เสียชีวิต 77 ราย

รถบรรทุกน้ำมันระเบิดหลังจากพลิกคว่ำในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไนจีเรีย คร่าชีวิตชาวบ้านอย่างน้อย 77 คนที่กำลังเอาถังมารองน้ำมันที่รั่วไหลจากรถบรรทุก

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ร่วมประชุม World Economic Forum ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

นายกรัฐมนตรีมีกำหนดเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum ประจำปี 2568 เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และตอกย้ำให้นักลงทุนและภาคเอกชนเชื่อมั่นใน “โอกาสของประเทศไทย” ตามแคมเปญ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง”

วันแรก กทม.ขอประชาชน Work From Home

หลังวันแรก กทม. ขอความร่วมมือประชาชน Work From Home พบว่าการจราจรบางจุดคล่องตัว รถลดลง แต่หลายจุดรถยังหนาแน่น โดยการประกาศขอความร่วมมือของ กทม. หลังค่าฝุ่น PM 2.5 ตลอดสัปดาห์เป็นสีส้ม ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาคส่วนต่างๆ จำนวนมาก

ยื่นดีเอสไอรับคดีแตงโมเป็นคดีพิเศษ ขีดเส้น 1 เดือน

“อาจารย์ปานเทพ-บอสณวัฒน์” พาตัวแทนมิสแกรนด์ 2025 ทั้ง 77 จังหวัด ยื่นดีเอสไอขอรับคดีแตงโมตกเรือเป็นคดีพิเศษ ขีดเส้น 1 เดือน

คนร้ายอุกอาจยิงระเบิด M79 ใส่ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี 2 ลูก

คนร้ายอุกอาจยิงระเบิด M79 ใส่ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี จำนวน 2 ลูก โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ด้าน รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี กำชับเจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบกล้องวงจรปิด พร้อมวางมาตรการคุมเข้มในพื้นที่