หนุ่มฆ่าหั่นศพกิ๊กสาว สารภาพเลียนแบบหนัง

กทม. 2 ต.ค.-หนุ่มทำร้ายกิ๊กสาวอายุ 30 ปี เสียชีวิต นอนกับศพ 1 คืน ก่อนหั่นเป็น 7 ส่วน นำไปฝังข้างฐานเสาตอม่อทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา หลังฝังศพเสร็จก็กลับมาที่ห้องใช้ชีวิตปกติ สารภาพได้เเนวทางมาจากหนังฆาตกรรมเเนวสืบสวนสอบสวน

ผู้ก่อเหตุคือนายชาญวิทย์ หรือดอน อายุ 35 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร ซึ่งตำรวจแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นและลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือชิ้นส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย และควบคุมตัวไปชี้จุดประกอบคำรับสารภาพบริเวณจุดฝั่งชิ้นส่วนศพ โดยผู้เสียชีวิต คือ น.ส.อรนันท์ หรือพิน อายุ 30 ปี คบหาเป็นกิ๊กกับผู้ก่อเหตุ


ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงสายวันที่ 1 ตุลาคม แม่บ้านของอาคารคอนโดแห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท 115 ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ได้เข้าไปทำความสะอาดภายในห้องพัก พบขวาน มีดเลื่อย ถุงดำ และน้ำยาทำความสะอาด โดยเปิดน้ำทิ้งเอาไว้ นอกจากนี้ยังพบคราบหยดเลือดที่พื้น รวมถึงร่องรอยการทำความสะอาด จึงแจ้งให้เจ้าของคอนโดทราบ พร้อมทั้งแจ้งให้ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบข้อมูลว่า วันที่ 28 กันยายน 2565 นายชาญวิทย์ อายุ 35 ปี และ น.ส.อรนันท์ อายุ 30 ปี เข้ามาเช่าห้องพักรายวันดังกล่าวต่ออีก 5 วัน

เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดของคอนโดพบว่า ช่วงประมาณ 20.10 น. วันที่ 30 กันยายน นายชาญวิทย์ เดินออกจากลิฟต์ พร้อมถุงขยะสีดำขนาดใหญ่จำนวน 2 ถุง เลี้ยวไปทางขวา ซึ่งเป็นที่จอดรถของคอนโด เมื่อตรวจสอบภาพวงจรปิดในช่วงเวลาอื่นๆ ก็ไม่ปรากฏภาพ น.ส.อรนันท์ ออกมาจากห้อง


หลังทำการฝังอำพรางชิ้นส่วนศพเรียบร้อยแล้ว ช่วงสายวันที่ 1 ตุลาคม นายชาญวิทย์กลับเข้ามาที่คอนโดอีกครั้ง จึงถูกตำรวจรวบตัว จากการตรวจสอบภายในห้องพัก พบร่องรอยคราบเลือด ตลอดจนร่องรอยการทำความสะอาด ตำรวจได้ตรวจร่องรอยหาพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งภายในห้องพักและรถยนต์ที่ใช้ขนชิ้นส่วนศพไปอำพราง จากนั้นได้ควบคุมตัวนายชาญวิทย์ มาสอบสวน และพาไปชี้จุดที่นำชิ้นส่วนศพไปฝังบริเวณข้างฐานเสาตอม่อทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา บริเวณแยกตัดกับถนนเกษตร นวมินทร์ ใกล้ๆ กับตลาดนัดหัวมุม โดยพบมีด เลื่อย และขวาน ที่ใช้ในการก่อเหตุมาทิ้ง จากนั้นจึงประสานขอกำลังอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มาร่วมขุดหาชิ้นส่วนพบศีรษะ ท่อนมือแขนข้างซ้ายและอวัยวะอื่นๆ รวม 7 ชิ้น

จากสอบสวนนายชาญวิทย์ ผู้ก่อเหตุ ยอมรับว่าปัจจุบันว่างงาน ก่อนหน้านี้ประกอบอาชีพขายอสังหริมทรัพย์ กับผู้เสียชีวิต โดยแอบคบหากันมากว่า 2 ปี ต่อมาระยะหลังผู้เสียชีวิตเริ่มตีตัวออกห่าง เพราะรู้ว่าตนเองมีภรรยาอยู่ก่อนเเล้ว ทำให้เกิดความคับแค้นใจ วันที่ 28 กันยายน ได้นัดให้ฝ่ายหญิงมาหาที่ซอยลาซาล จากนั้นได้เปิดห้องพักรายวันที่ย่านสำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ (ที่เกิดเหตุ) เพื่อเคลียร์ปัญหา แต่เคลียร์ไม่ได้ ซ้ำยังมีปากเสียงเรื่องความหึงหวง จึงใช้มีดแทงฝ่ายหญิงจนเสียชีวิต หลังก่อเหตุยังได้นอนเฝ้าศพทั้งคืน กระทั่งวันต่อมา (29 ก.ย.65) จึงลากศพเข้าไปในห้องน้ำเพื่อหั่นแยกชิ้นส่วน และบรรจุใส่ถุงดำ กระทั่งคืนวันที่ 30 ก.ย.65 ขับรถนำไปฝังอำพรางข้างฐานเสาตอม่อทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา บริเวณแยกตัดกับถนนเกษตร นวมินทร์ ใกล้ๆ กับตลาดนัดหัวมุม

พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตมีความสัมพันธ์กัน และมักมาเปิดห้องพักรายวันภายในซอยสุขุมวิท 115 อาศัยอยู่ด้วยกัน โดยผู้ก่อเหตุมีความแค้นไม่พอใจที่ฝ่ายหญิงไม่เปิดเผยว่าคบหากัน เเละมีความหึงหวงฝ่ายหญิง เกรงว่าจะปันใจให้ชายอื่น จึงมีปากเสียงทะเลาะกัน เเละลงมือทำร้ายร่างกาย ซึ่งฝ่ายชายมีการเตรียมอุปกรณ์ เช่น เลื่อย มีด ค้อน ไว้ล่วงหน้า ก่อนจะมีการนัดฝ่ายหญิงมาเจอที่ห้องที่เกิดเหตุ จนกระทั่งวันที่ 28 กันยายน ทั้งคู่มีปากเสียงกัน ฝ่ายหญิงถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต หลังจากนั้น ผู้ก่อเหตุก็ยังใจเย็นนอนอยู่กับผู้ตายภายในห้องพักหนึ่งคืน จนช่วงเช้าวันที่ 29 กันยายน ผู้ก่อเหตุได้ออกไปด้านนอกห้องพักและซื้ออุปกรณ์ในการหั่นศพเพิ่มเติม ก่อนกลับห้องมา นำร่างของผู้ตายเข้าห้องน้ำ แล้วใช้ทั้งมีด เเละเลื่อยหั่นศพออกเป็น 7 ส่วน และช่วงเย็นของวันที่ 30 กันยายน ผู้ก่อเหตุได้นำชิ้นส่วนผู้ตายใส่ถุงนำมาฝังไว้บริเวณใต้ทางด่วนฉลองรัช


เบื้องต้นจากการสอบปากคำผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุเพียงลำพัง ส่วนการจับกุมครั้งนี้ต้องยอมรับว่า เเม่บ้านของที่พักแห่งนี้มีไหวพริบเเละช่างสังเกต เนื่องจากเเม่บ้านจะเข้าไปทำความสะอาดห้องพักที่อยู่ติดกับห้องเกิดเหตุ เเต่เปิดห้องผิด ตอนนั้นผู้ก่อเหตุไม่ได้อยู่ภายในห้องพัก เมื่อเเม่บ้านเข้าห้องไป ก็ได้กลิ่นคาวเลือด เเละในห้องน้ำมีการเปิดน้ำทิ้งไว้ จึงสงสัยว่าห้องนี้ต้องเกิดเหตุไม่ดี จึงรีบเเจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในช่วงเช้า ตำรวจจึงเข้าไปตรวจสอบที่ห้องพักดังกล่าว เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไป ก็พบผู้ก่อเหตุนั่งอยู่ในห้องใช้ชีวิตปกติ ไม่มีท่าทีขัดขืน เเละยอมรับกับตำรวจว่าฆ่าเเละหั่นศพแฟนตนเองเเละนำมาฝังดิน ผู้ก่อเหตุยอมรับได้เลียนแบบก่อเหตุมาจากการดูภาพยนตร์ฆาตกรรมเเนวสืบสวนสอบสวนของฝรั่ง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

น้ำปิงล้นตลิ่ง

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน เตรียมรับมือน้ำ หลังน้ำปิงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

เชียงใหม่ 27 ก.ย. – ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกประชุมทุกหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัย หลังระดับน้ำปิงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดสูงถึง 4.15 เมตร ในคืนนี้ ประเมินเบื้องต้นยังสามารถบริหารจัดการได้ และสั่งทุกหน่วยเตรียมพร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ค่ำวันนี้ (27 ก.ย. 68) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ สำนักงานชลประทานที่ 1 (SWOC1) อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมือระดับน้ำในแม่น้ำปิงหลังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของจังหวัด ส่งผลให้ให้มวลน้ำจำนวนมากจะไหลลงมาผ่านตัวเมืองที่เป็นย่านเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงเวลา 22.00-24.00 น. คืนนี้ ชลประทานเชียงใหม่คาดการณ์ว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 3.9 เมตร เป็น 4.0-4.15 เมตร และจะส่งผลให้น้ำปริ่มและเอ่อล้นตลิ่งเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการสถานการณ์ได้ เนื่องจากมีการเสริมคันกันน้ำทั้งสองฝั่งแม่น้ำปิง ซึ่งสามารถรองรับน้ำได้สูงถึง 4.2 เมตร สำหรับสถานการณ์ฝนในพื้นที่อำเภอต่างๆ โดยเฉพาะที่อำเภอแม่แตง ทางอำเภอได้รายงานว่าตลอดทั้งวันยังมีฝนตกในพื้นที่ […]

การรถไฟฯ แจ้งน้ำท่วมทำ “ทางรถไฟขาด” สั่งปรับแผนเดินรถ

27 ก.ย. – การรถไฟแห่งประเทศไทย ประกาศแจ้งเหตุน้ำท่วมหนัก “ทางรถไฟขาด” ที่บ้านเหลื่อม จ.นครราชสีมา สั่งปรับแผนเดินรถ ขณะนี้ได้สั่งการและดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ พร้อมปรับแผนการเดินรถเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ดังนี้ 1.ขบวนรถด่วนที่ 75/76 กรุงเทพอภิวัฒน์ – หนองคาย – กรุงเทพอภิวัฒน์2.ขบวนรถสินค้าที่ 553 มาบตาพุด – บัวใหญ่3.ขบวนรถสินค้าที่ 532 สำราญ – บางละมุงให้เปลี่ยนการเดินขบวนรถในเส้นทางชุมทางแก่งคอย – นครราชสีมา – ชุมทางบัวใหญ่ – หนองคาย 4.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 439 ชุมทางแก่งคอย – ชุมทางบัวใหญ่ เดินถึงสถานีบ้านเหลื่อม5.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 434 ชุมทางบัวใหญ่ – ชุมทางแก่งคอยรอสถานการณ์น้ำที่สถานีชุมทางบัวใหญ่ จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่สามารถประมาณการเวลาในการเปิดทางได้ เนื่องจากระดับน้ำยังคงท่วมสูงและยังไม่มีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้ การรถไฟฯ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมให้ทราบ เมื่อมีความคืบหน้าในการเปิดเส้นทางเดินรถ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้.-513-สำนักข่าวไทย

กองทัพภาคที่ 2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อุบลราชธานี 27 ก.ย.-กองทัพภาคที่2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า ย้ำรู้ทันแผนโฆษณาชวนเชื่อต่อนานาชาติ เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 27 ก.ย. 68 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 27 ก.ย. ณ เวลา 14.00 น. ว่าสถานการณ์โดยรวมเมื่อเวลา 12.02 น. ฝ่ายกัมพูชาได้พยายามสร้างสถานการณ์ความตึงเครียด ขึ้นอีกครั้งบริเวณพื้นที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยใช้อาวุธสงครามยิงเข้ามายังพื้นที่ ของฝ่ายไทยจากบริเวณเนิน 677 มายังเนิน 600 และ เนิน 527 พร้อมทั้งใช้อาวุธปืนเล็กยิงปะทะเป็นระยะ ก่อนที่สถานการณ์จะยุติลง ทั้งนี้ การปะทะจำกัดวงอยู่เฉพาะบริเวณดังกล่าว แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังควบคุมพื้นที่อย่างใกล้ชิด ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ฝ่ายไทยได้รับแจ้งจากกัมพูชา ว่า คณะสังเกตการณ์ระหว่างประเทศ (IOT) ของกัมพูชา จะเดินทางเข้าพื้นที่ช่องอานม้า กองทัพภาคที่ 2 ประเมินว่าเป็นความพยายามของกัมพูชา ในการสร้างเงื่อนไขและยั่วยุให้เกิดสถานการณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่คณะ IOT […]

นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมอยุธยาฯ

พระนครศรีอยุธยา 27 ก.ย.-นายกฯ ลงพื้นที่พระนครศรีอยุธยา ตรวจน้ำท่วม เร่งเยียวยาแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน เดินหน้าบูรณาการหน่วยงานใช้งบแสนล้านบาท พัฒนาระบบชลประทานและการจัดการน้ำ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.ของพรรค ให้การต้อนรับ และในโอกาสนี้ นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พรรคประชาชน เขต1 ที่มาร่วมงานด้วย ทันทีที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาถึงบริเวณวัดโคกหิรัญ มีประชาชนมารอให้การต้อนรับ มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ พร้อมร้องเพลง มาร์ช อสม.ต้อนรับนายกรัฐมนตรี พร้อมกับถ่ายรูปเซลฟี่ อย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะรับฟังการรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยืนยันว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ไม่ใช่พื้นที่ทุ่งรับน้ำ พื้นที่มีโฉนดที่ดินทั้งหมด ไม่ใช่ที่สาธารณะ หรือแก้มลิง พร้อมขอให้มีการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเพื่อบรรเทาปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกในการประกอบอาชีพ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มาในสถานะนายกรัฐมนตรี ถือว่าสามารถที่จะมาตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกๆ มิติ รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันเป็นทีมเดียวกัน กับพรรคร่วมรัฐบาล เป้าหมายคือประโยชน์สูงสุดของประชาชน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ทราบดีอยู่แล้วว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้ มีน้ำท่วมทุกปี น้ำท่วมซ้ำซาก […]