หนุ่มฆ่าหั่นศพกิ๊กสาว สารภาพเลียนแบบหนัง

กทม. 2 ต.ค.-หนุ่มทำร้ายกิ๊กสาวอายุ 30 ปี เสียชีวิต นอนกับศพ 1 คืน ก่อนหั่นเป็น 7 ส่วน นำไปฝังข้างฐานเสาตอม่อทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา หลังฝังศพเสร็จก็กลับมาที่ห้องใช้ชีวิตปกติ สารภาพได้เเนวทางมาจากหนังฆาตกรรมเเนวสืบสวนสอบสวน

ผู้ก่อเหตุคือนายชาญวิทย์ หรือดอน อายุ 35 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร ซึ่งตำรวจแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นและลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือชิ้นส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย และควบคุมตัวไปชี้จุดประกอบคำรับสารภาพบริเวณจุดฝั่งชิ้นส่วนศพ โดยผู้เสียชีวิต คือ น.ส.อรนันท์ หรือพิน อายุ 30 ปี คบหาเป็นกิ๊กกับผู้ก่อเหตุ


ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงสายวันที่ 1 ตุลาคม แม่บ้านของอาคารคอนโดแห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท 115 ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ได้เข้าไปทำความสะอาดภายในห้องพัก พบขวาน มีดเลื่อย ถุงดำ และน้ำยาทำความสะอาด โดยเปิดน้ำทิ้งเอาไว้ นอกจากนี้ยังพบคราบหยดเลือดที่พื้น รวมถึงร่องรอยการทำความสะอาด จึงแจ้งให้เจ้าของคอนโดทราบ พร้อมทั้งแจ้งให้ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบข้อมูลว่า วันที่ 28 กันยายน 2565 นายชาญวิทย์ อายุ 35 ปี และ น.ส.อรนันท์ อายุ 30 ปี เข้ามาเช่าห้องพักรายวันดังกล่าวต่ออีก 5 วัน

เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดของคอนโดพบว่า ช่วงประมาณ 20.10 น. วันที่ 30 กันยายน นายชาญวิทย์ เดินออกจากลิฟต์ พร้อมถุงขยะสีดำขนาดใหญ่จำนวน 2 ถุง เลี้ยวไปทางขวา ซึ่งเป็นที่จอดรถของคอนโด เมื่อตรวจสอบภาพวงจรปิดในช่วงเวลาอื่นๆ ก็ไม่ปรากฏภาพ น.ส.อรนันท์ ออกมาจากห้อง


หลังทำการฝังอำพรางชิ้นส่วนศพเรียบร้อยแล้ว ช่วงสายวันที่ 1 ตุลาคม นายชาญวิทย์กลับเข้ามาที่คอนโดอีกครั้ง จึงถูกตำรวจรวบตัว จากการตรวจสอบภายในห้องพัก พบร่องรอยคราบเลือด ตลอดจนร่องรอยการทำความสะอาด ตำรวจได้ตรวจร่องรอยหาพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งภายในห้องพักและรถยนต์ที่ใช้ขนชิ้นส่วนศพไปอำพราง จากนั้นได้ควบคุมตัวนายชาญวิทย์ มาสอบสวน และพาไปชี้จุดที่นำชิ้นส่วนศพไปฝังบริเวณข้างฐานเสาตอม่อทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา บริเวณแยกตัดกับถนนเกษตร นวมินทร์ ใกล้ๆ กับตลาดนัดหัวมุม โดยพบมีด เลื่อย และขวาน ที่ใช้ในการก่อเหตุมาทิ้ง จากนั้นจึงประสานขอกำลังอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มาร่วมขุดหาชิ้นส่วนพบศีรษะ ท่อนมือแขนข้างซ้ายและอวัยวะอื่นๆ รวม 7 ชิ้น

จากสอบสวนนายชาญวิทย์ ผู้ก่อเหตุ ยอมรับว่าปัจจุบันว่างงาน ก่อนหน้านี้ประกอบอาชีพขายอสังหริมทรัพย์ กับผู้เสียชีวิต โดยแอบคบหากันมากว่า 2 ปี ต่อมาระยะหลังผู้เสียชีวิตเริ่มตีตัวออกห่าง เพราะรู้ว่าตนเองมีภรรยาอยู่ก่อนเเล้ว ทำให้เกิดความคับแค้นใจ วันที่ 28 กันยายน ได้นัดให้ฝ่ายหญิงมาหาที่ซอยลาซาล จากนั้นได้เปิดห้องพักรายวันที่ย่านสำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ (ที่เกิดเหตุ) เพื่อเคลียร์ปัญหา แต่เคลียร์ไม่ได้ ซ้ำยังมีปากเสียงเรื่องความหึงหวง จึงใช้มีดแทงฝ่ายหญิงจนเสียชีวิต หลังก่อเหตุยังได้นอนเฝ้าศพทั้งคืน กระทั่งวันต่อมา (29 ก.ย.65) จึงลากศพเข้าไปในห้องน้ำเพื่อหั่นแยกชิ้นส่วน และบรรจุใส่ถุงดำ กระทั่งคืนวันที่ 30 ก.ย.65 ขับรถนำไปฝังอำพรางข้างฐานเสาตอม่อทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา บริเวณแยกตัดกับถนนเกษตร นวมินทร์ ใกล้ๆ กับตลาดนัดหัวมุม

พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตมีความสัมพันธ์กัน และมักมาเปิดห้องพักรายวันภายในซอยสุขุมวิท 115 อาศัยอยู่ด้วยกัน โดยผู้ก่อเหตุมีความแค้นไม่พอใจที่ฝ่ายหญิงไม่เปิดเผยว่าคบหากัน เเละมีความหึงหวงฝ่ายหญิง เกรงว่าจะปันใจให้ชายอื่น จึงมีปากเสียงทะเลาะกัน เเละลงมือทำร้ายร่างกาย ซึ่งฝ่ายชายมีการเตรียมอุปกรณ์ เช่น เลื่อย มีด ค้อน ไว้ล่วงหน้า ก่อนจะมีการนัดฝ่ายหญิงมาเจอที่ห้องที่เกิดเหตุ จนกระทั่งวันที่ 28 กันยายน ทั้งคู่มีปากเสียงกัน ฝ่ายหญิงถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต หลังจากนั้น ผู้ก่อเหตุก็ยังใจเย็นนอนอยู่กับผู้ตายภายในห้องพักหนึ่งคืน จนช่วงเช้าวันที่ 29 กันยายน ผู้ก่อเหตุได้ออกไปด้านนอกห้องพักและซื้ออุปกรณ์ในการหั่นศพเพิ่มเติม ก่อนกลับห้องมา นำร่างของผู้ตายเข้าห้องน้ำ แล้วใช้ทั้งมีด เเละเลื่อยหั่นศพออกเป็น 7 ส่วน และช่วงเย็นของวันที่ 30 กันยายน ผู้ก่อเหตุได้นำชิ้นส่วนผู้ตายใส่ถุงนำมาฝังไว้บริเวณใต้ทางด่วนฉลองรัช


เบื้องต้นจากการสอบปากคำผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุเพียงลำพัง ส่วนการจับกุมครั้งนี้ต้องยอมรับว่า เเม่บ้านของที่พักแห่งนี้มีไหวพริบเเละช่างสังเกต เนื่องจากเเม่บ้านจะเข้าไปทำความสะอาดห้องพักที่อยู่ติดกับห้องเกิดเหตุ เเต่เปิดห้องผิด ตอนนั้นผู้ก่อเหตุไม่ได้อยู่ภายในห้องพัก เมื่อเเม่บ้านเข้าห้องไป ก็ได้กลิ่นคาวเลือด เเละในห้องน้ำมีการเปิดน้ำทิ้งไว้ จึงสงสัยว่าห้องนี้ต้องเกิดเหตุไม่ดี จึงรีบเเจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในช่วงเช้า ตำรวจจึงเข้าไปตรวจสอบที่ห้องพักดังกล่าว เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไป ก็พบผู้ก่อเหตุนั่งอยู่ในห้องใช้ชีวิตปกติ ไม่มีท่าทีขัดขืน เเละยอมรับกับตำรวจว่าฆ่าเเละหั่นศพแฟนตนเองเเละนำมาฝังดิน ผู้ก่อเหตุยอมรับได้เลียนแบบก่อเหตุมาจากการดูภาพยนตร์ฆาตกรรมเเนวสืบสวนสอบสวนของฝรั่ง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก