หนุ่มฆ่าหั่นศพกิ๊กสาว สารภาพเลียนแบบหนัง

กทม. 2 ต.ค.-หนุ่มทำร้ายกิ๊กสาวอายุ 30 ปี เสียชีวิต นอนกับศพ 1 คืน ก่อนหั่นเป็น 7 ส่วน นำไปฝังข้างฐานเสาตอม่อทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา หลังฝังศพเสร็จก็กลับมาที่ห้องใช้ชีวิตปกติ สารภาพได้เเนวทางมาจากหนังฆาตกรรมเเนวสืบสวนสอบสวน

ผู้ก่อเหตุคือนายชาญวิทย์ หรือดอน อายุ 35 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร ซึ่งตำรวจแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นและลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือชิ้นส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย และควบคุมตัวไปชี้จุดประกอบคำรับสารภาพบริเวณจุดฝั่งชิ้นส่วนศพ โดยผู้เสียชีวิต คือ น.ส.อรนันท์ หรือพิน อายุ 30 ปี คบหาเป็นกิ๊กกับผู้ก่อเหตุ


ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงสายวันที่ 1 ตุลาคม แม่บ้านของอาคารคอนโดแห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท 115 ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ได้เข้าไปทำความสะอาดภายในห้องพัก พบขวาน มีดเลื่อย ถุงดำ และน้ำยาทำความสะอาด โดยเปิดน้ำทิ้งเอาไว้ นอกจากนี้ยังพบคราบหยดเลือดที่พื้น รวมถึงร่องรอยการทำความสะอาด จึงแจ้งให้เจ้าของคอนโดทราบ พร้อมทั้งแจ้งให้ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบข้อมูลว่า วันที่ 28 กันยายน 2565 นายชาญวิทย์ อายุ 35 ปี และ น.ส.อรนันท์ อายุ 30 ปี เข้ามาเช่าห้องพักรายวันดังกล่าวต่ออีก 5 วัน

เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดของคอนโดพบว่า ช่วงประมาณ 20.10 น. วันที่ 30 กันยายน นายชาญวิทย์ เดินออกจากลิฟต์ พร้อมถุงขยะสีดำขนาดใหญ่จำนวน 2 ถุง เลี้ยวไปทางขวา ซึ่งเป็นที่จอดรถของคอนโด เมื่อตรวจสอบภาพวงจรปิดในช่วงเวลาอื่นๆ ก็ไม่ปรากฏภาพ น.ส.อรนันท์ ออกมาจากห้อง


หลังทำการฝังอำพรางชิ้นส่วนศพเรียบร้อยแล้ว ช่วงสายวันที่ 1 ตุลาคม นายชาญวิทย์กลับเข้ามาที่คอนโดอีกครั้ง จึงถูกตำรวจรวบตัว จากการตรวจสอบภายในห้องพัก พบร่องรอยคราบเลือด ตลอดจนร่องรอยการทำความสะอาด ตำรวจได้ตรวจร่องรอยหาพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งภายในห้องพักและรถยนต์ที่ใช้ขนชิ้นส่วนศพไปอำพราง จากนั้นได้ควบคุมตัวนายชาญวิทย์ มาสอบสวน และพาไปชี้จุดที่นำชิ้นส่วนศพไปฝังบริเวณข้างฐานเสาตอม่อทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา บริเวณแยกตัดกับถนนเกษตร นวมินทร์ ใกล้ๆ กับตลาดนัดหัวมุม โดยพบมีด เลื่อย และขวาน ที่ใช้ในการก่อเหตุมาทิ้ง จากนั้นจึงประสานขอกำลังอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มาร่วมขุดหาชิ้นส่วนพบศีรษะ ท่อนมือแขนข้างซ้ายและอวัยวะอื่นๆ รวม 7 ชิ้น

จากสอบสวนนายชาญวิทย์ ผู้ก่อเหตุ ยอมรับว่าปัจจุบันว่างงาน ก่อนหน้านี้ประกอบอาชีพขายอสังหริมทรัพย์ กับผู้เสียชีวิต โดยแอบคบหากันมากว่า 2 ปี ต่อมาระยะหลังผู้เสียชีวิตเริ่มตีตัวออกห่าง เพราะรู้ว่าตนเองมีภรรยาอยู่ก่อนเเล้ว ทำให้เกิดความคับแค้นใจ วันที่ 28 กันยายน ได้นัดให้ฝ่ายหญิงมาหาที่ซอยลาซาล จากนั้นได้เปิดห้องพักรายวันที่ย่านสำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ (ที่เกิดเหตุ) เพื่อเคลียร์ปัญหา แต่เคลียร์ไม่ได้ ซ้ำยังมีปากเสียงเรื่องความหึงหวง จึงใช้มีดแทงฝ่ายหญิงจนเสียชีวิต หลังก่อเหตุยังได้นอนเฝ้าศพทั้งคืน กระทั่งวันต่อมา (29 ก.ย.65) จึงลากศพเข้าไปในห้องน้ำเพื่อหั่นแยกชิ้นส่วน และบรรจุใส่ถุงดำ กระทั่งคืนวันที่ 30 ก.ย.65 ขับรถนำไปฝังอำพรางข้างฐานเสาตอม่อทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา บริเวณแยกตัดกับถนนเกษตร นวมินทร์ ใกล้ๆ กับตลาดนัดหัวมุม

พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตมีความสัมพันธ์กัน และมักมาเปิดห้องพักรายวันภายในซอยสุขุมวิท 115 อาศัยอยู่ด้วยกัน โดยผู้ก่อเหตุมีความแค้นไม่พอใจที่ฝ่ายหญิงไม่เปิดเผยว่าคบหากัน เเละมีความหึงหวงฝ่ายหญิง เกรงว่าจะปันใจให้ชายอื่น จึงมีปากเสียงทะเลาะกัน เเละลงมือทำร้ายร่างกาย ซึ่งฝ่ายชายมีการเตรียมอุปกรณ์ เช่น เลื่อย มีด ค้อน ไว้ล่วงหน้า ก่อนจะมีการนัดฝ่ายหญิงมาเจอที่ห้องที่เกิดเหตุ จนกระทั่งวันที่ 28 กันยายน ทั้งคู่มีปากเสียงกัน ฝ่ายหญิงถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต หลังจากนั้น ผู้ก่อเหตุก็ยังใจเย็นนอนอยู่กับผู้ตายภายในห้องพักหนึ่งคืน จนช่วงเช้าวันที่ 29 กันยายน ผู้ก่อเหตุได้ออกไปด้านนอกห้องพักและซื้ออุปกรณ์ในการหั่นศพเพิ่มเติม ก่อนกลับห้องมา นำร่างของผู้ตายเข้าห้องน้ำ แล้วใช้ทั้งมีด เเละเลื่อยหั่นศพออกเป็น 7 ส่วน และช่วงเย็นของวันที่ 30 กันยายน ผู้ก่อเหตุได้นำชิ้นส่วนผู้ตายใส่ถุงนำมาฝังไว้บริเวณใต้ทางด่วนฉลองรัช


เบื้องต้นจากการสอบปากคำผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุเพียงลำพัง ส่วนการจับกุมครั้งนี้ต้องยอมรับว่า เเม่บ้านของที่พักแห่งนี้มีไหวพริบเเละช่างสังเกต เนื่องจากเเม่บ้านจะเข้าไปทำความสะอาดห้องพักที่อยู่ติดกับห้องเกิดเหตุ เเต่เปิดห้องผิด ตอนนั้นผู้ก่อเหตุไม่ได้อยู่ภายในห้องพัก เมื่อเเม่บ้านเข้าห้องไป ก็ได้กลิ่นคาวเลือด เเละในห้องน้ำมีการเปิดน้ำทิ้งไว้ จึงสงสัยว่าห้องนี้ต้องเกิดเหตุไม่ดี จึงรีบเเจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในช่วงเช้า ตำรวจจึงเข้าไปตรวจสอบที่ห้องพักดังกล่าว เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไป ก็พบผู้ก่อเหตุนั่งอยู่ในห้องใช้ชีวิตปกติ ไม่มีท่าทีขัดขืน เเละยอมรับกับตำรวจว่าฆ่าเเละหั่นศพแฟนตนเองเเละนำมาฝังดิน ผู้ก่อเหตุยอมรับได้เลียนแบบก่อเหตุมาจากการดูภาพยนตร์ฆาตกรรมเเนวสืบสวนสอบสวนของฝรั่ง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” บอกฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว-เร่งเดินหน้าแก้ปัญหา

พรรคภูมิใจไทย 5 ก.ย.-“อนุทิน” ขอบคุณเสียงโหวตนั่งนายกฯ คนที่ 32 เร่งเดินหน้าแก้ปัญหาทดแทนโอกาสที่เสียไป เผย วินาทีกราบพ่อ เป็นสิ่งแรกที่อยากทำ ฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว บอกผมโอเค พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องโอเค นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภายหลังร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร พร้อมเปิดใจเป็นครั้งแรก หลังจากได้รับการโหวตเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยนายอนุทินได้กล่าวขอบคุณประชาชน ในโอกาสที่ได้รับเสียงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะถือเป็นเสียงของประชาชนที่ได้ใช้สิทธิ์ ผ่านสส. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สส.พรรคประชาชน และพรรคการเมืองที่ได้ลงคะแนนให้กับตน หรือพรรคที่ไม่ได้ลงคะแนนให้กับตน โดยการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่มีนายชัยเกษม นิติสิริ ได้รับการเสนอชื่อโหวตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อการโหวตผ่านพ้นไปแล้ว ก็อยากให้ทุกอย่างมันจบไปด้วยดี และอยากให้เราหันหน้าเข้าหากัน เพื่อทำงานให้กับประชาชน ให้กับประเทศ ในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้า ด้วยความรวดเร็ว เพื่อทดแทนโอกาสที่เสียไป ซึ่งตนเชื่อว่าหากเราหันหน้าทำงานด้วยกัน ก็จะทำให้ทะลุเป้าหมายต่างๆ ได้ ส่วนจะผลักดันนโยบายอะไรต่อขอยังไม่ลงรายละเอียด เมื่อถามถึงการเข้าพบนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ผู้เป็นบิดา หลังจากได้รับการโหวตเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทินเล่าว่า นายชวรัตน์ ไม่ค่อยสบาย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งตนก็คิดว่านายชวรัตน์ ก็อยากให้ไปหา จึงเร่งไปกราบเป็นอันดับแรก เมื่อถามว่านายชวรัตน์ให้พรอะไรบ้าง […]

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย