“อนุชา” มอบโล่และตรารับรองมาตรฐานศูนย์ราชการสะดวกปี 63

“อนุชา” รมต.สำนักนายกฯ มอบโล่และตรารับรองมาตรฐานศูนย์ราชการสะดวกปี 63 หวังให้พัฒนาการบริการสู่ความเป็นเลิศในรูปแบบของราชการดิจิทัล

นราธิวาสบึ้ม! 2 ลูกซ้อนถนนสายบาเจาะ ไม่มีเจ็บ

นราธิวาส 2 ต.ค.- เกิดเหตุลอบวางระเบิด 2 ลูกซ้อนเช้านี้ ถนนสายบาเจาะ-นราธิวาส ขณะ ผบ.ร้อย ฉก.ทพ.นย.ที่ 2 จะไปประชุมปลอดภัย รวมถึงเจ้าหน้าที่อีก 2 นาย ส่วนรถแฉลบลงไหล่ทางเสียหายเล็กน้อย เมื่อเวลา 07.30 น. (2 ต.ค.) พ.ต.ท.ยุทธพงศ์ ทองจีน สารวัตร (สอบสวน) สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุระเบิดริมถนนบ้านจำปากอ ม.1 ต.บาเระเหนือ จึงประสานชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส รวมทั้งกำลังทหารและฝ่ายปกครอง เพื่อเข้าที่เกิดเหตุ ระหว่างเดินทางได้รับแจ้งอีกครั้งเวลา 08.30 น. เกิดเหตุระเบิดอีกลูก ห่างจากจุดแรกประมาณ 50 เมตร จากการตรวจสอบทั้งสองบริเวณพบชิ้นส่วนชนิดแสวงเครื่องกระจายเกลื่อน และถนนเป็นหลุมลึก 1 ฟุต กว้าง 3 ฟุต ก่อนหน้านี้ เรือเอกกันหา บุญยงค์ ผบ.ร้อย ฉก.ทพ.นย.ที่ 2 […]

พบแล้ว! ศพหนุ่ม ผจก.แบงก์ลำปาง ลอยแม่น้ำวัง

ลำปาง 2 ต.ค.- พบแล้ว! ศพหนุ่มผู้จัดการธนาคารที่ลำปาง หลังหายจากบ้านนาน 3 วัน ลอยริมฝั่งแม่น้ำวัง ไกลจากตัวสะพาน 4 กม. ญาติเผยคงเครียดป่วยโรคไตจากข้อความบอกลาครอบครัวในโทรศัพท์มือถือ กรณีญาติแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ให้ช่วยตามหานายวัชชรากร (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ผู้จัดการธนาคารแห่งหนึ่งในจังหวัดลำปาง หลังพบข้อความบอกลาในโทรศัพท์มือถือและหายตัวไปจากบ้านตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา เกรงว่าจะคิดสั้นจากความเครียดป่วยเป็นโรคไต ไม่อยากเป็นภาระของครอบครัว และพบร่องรอยน่าสงสัยอยู่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำวัง ต.แม่ถอด อ.เถิน เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แม่ถอด รวมทั้งนักประดาน้ำสมาคมกู้ภัยลำปาง และชาวบ้านช่วยกันค้นอย่างเต็มที่ ล่าสุด (2 ต.ค.) ชุดเจ้าหน้าที่ตระเวนลัดเลาะทั้งสองริมฝั่งแม่น้ำวัง กระทั่งเวลาประมาณ 09.00 น. พบร่างนายวัชชรากร ลอยอยู่ในพื้นที่บ้านสบแก่ง หมู่ 6 ต.แม่ถอด ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 4 กิโลเมตร จึงประสานตำรวจ สภ.เถิน และแพทย์มาตรวจพิสูจน์ในเบื้องต้น ก่อนนำศพไปชันสูตรอีกครั้งที่โรงพยาบาลเถิน เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

ดันกฎหมายอวกาศ เพิ่มขีดการแข่งขันดิจิทัล

กรุงเทพฯ 2 ต.ค. รองนายกฯ มั่นใจ พ.ร.บ.กิจการอวกาศ ช่วยวางโครงสร้างพื้นฐาน ด้านเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2563 กล่าวว่า ตามที่สถาบันการจัดการนานาชาติ (International Institute for Management Development: IMD) ได้ประกาศผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลของเขตเศรษฐกิจทั่วโลก ประจำปี 2563 ซึ่งประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้สูงขึ้นกว่าเดิม 1 ลำดับ มาอยู่ที่อันดับที่ 39 จาก 63 ประเทศ โดยดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา จึงสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จในการพัฒนาด้านดิจิทัลของประเทศไทย ซึ่งพร้อมที่จะผลักดันนโยบายและสามารถขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เป็นรูปธรรม เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลของประเทศให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ คณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ยังได้จัดทำนโยบายและแผนการดำเนินการเฝ้าระวังและบริหารจัดการการจราจรทางอวกาศ รวมทั้ง (ร่าง) พระราชบัญญัติกิจการอวกาศ พ.ศ. …. ที่จะทำให้ประเทศไทยมีองค์กรกลางในการกำหนดนโยบายและแผนกิจการอวกาศในภาพรวม มีกลไกสอดคล้องกับพันธกรณีของไทยภายใต้บังคับของกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งที่ประเทศไทยเป็นภาคีแล้วและอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าเป็นภาคี และให้ประเทศไทยมีขีดความสามารถเพิ่มขึ้นในการแข่งขันทางอุตสาหกรรมและบริการด้านอวกาศ พลเอกประวิตรฯ กล่าวอีกว่า การดำเนินงานด้านกิจการอวกาศของประเทศขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันบูรณาการการทำงานโดยคำนึงถึงเป้าหมายที่ได้กำหนดในนโยบายรัฐบาล นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ และไม่ให้เกิด ผลกระทบต่อทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง สิ่งแวดล้อมประชาชนผู้ใช้บริการ และเพื่อประโยชน์สาธารณะต่อไป-สำนักข่าวไทย.

“พล.อ.ประวิตร” หนุน พ.ร.บ.กิจการอวกาศเพื่อพัฒนาทุกมิติ

ทำเนียบรัฐบาล 2 ต.ค.- “พล.อ.ประวิตร” หนุน พ.ร.บ.กิจการอวกาศ วางโครงสร้างพื้นฐาน ด้านเศรษฐกิจ สังคม ความั่นคง สิ่งแวดล้อม เพื่อประชาชน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2563 ณ ห้องประชุม 301ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 2 ตุลาคม 2563 พลเอกประวิตร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2563 สถาบันการจัดการนานาชาติ (International Institute for Management Development: IMD) ได้ประกาศผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลของเขตเศรษฐกิจทั่วโลก ประจำปี 2563 ซึ่งประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้สูงขึ้นกว่าเดิม 1 ลำดับ มาอยู่ที่อันดับที่ 39 จาก 63 ประเทศ โดยดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา จึงสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จในการพัฒนาด้านดิจิทัลของประเทศไทย ซึ่งพร้อมที่จะผลักดันนโยบายและสามารถขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เป็นรูปธรรม […]

ดีอีเอสประสานตำรวจจับเครือข่ายเว็บพนันนอนไลน์

กรุงเทพฯ 1 ต.ค. ตำรวจบุกรวบ เครือข่ายเวปไซต์พนันออนไลน์  8 เวปไซต์ ได้ผู้ต้องหา รวม 28 คน เงิน นายพุทธิพงษ์  ปุณณกันต์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับ พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุขผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  ได้สั่งดำเนินการปราบปรามเวปพนันออนไลน์อย่างเร่งด่วน โดยบังคับใช้กฎหมายตามพ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 4 ,12 และพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 อย่างเคร่งครัด วันนี้ (1 ต.ค.2563) พล.ต.ท. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถผบก.สส.สตม. นำเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปอส.ตร.)ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา ได้รวม  28 คน  พร้อมของกลาง คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค 16 เครื่อง  โทรศัพท์มือถือ54 เครื่อง  ซึ่งทั้งหมดเกี่ยวข้องกับเวปพนัน จำนวน 8 เวปไซต์ เครือข่ายเวปไซต์ UFA คิดเป็นเงินหมุนเวียนกว่า 5,000 ล้านบาท  ทั้งนี้ นายพุทธิพงษ์  กล่าวว่า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมอนิเตอร์ สืบสวนเพื่อติดตามจับกุมเวปพนันออนไลน์เมื่อพบการกระทำความผิด ให้เข้าจับกุมทันที  และที่ผ่านมาได้ ขอคำสั่งศาล เพื่อขอความร่วมมือไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และโอเปอร์เรเตอร์ทุกเครือข่าย ดำเนินการปิดกั้นการเข้าถึงเวปพนันออนไลน์ ของประชาชน ในช่วงเดือนส.ค.- ก.ย.ที่ผ่านมา ศาลมีคำสั่งปิดรวม 1,414 รายการ  ซึ่งหากโอเปอร์เรเตอร์และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตไม่ให้ความร่วมมือปิด ภายใน 15 วัน เจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินคดีกับทางผู้ดูแลระบบการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตตามกฎหมายพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 27 ทันที หากประชาชนพบเห็นการกระทำความผิดการชักชวนเล่นพนันออนไลน์ แจ้งสายด่วน 1155 และ1599 หรือ ทางเพจอาสา จับตา ออนไลน์ m.me/DESmonitor ได้ตลอด 24 ชั่วโมง-สำนักข่าวไทย.

หนองคายพร้อม! รับนักท่องเที่ยวชมบั้งไฟพญานาค

หนองคาย 1 ต.ค.- รับความคึกคัก! ชมบั้งไฟพญานาคผุดน้ำโขงคืนวันออกพรรษา 2 ต.ค. กองร้อย อส.หนองคาย จัดเต็นท์นอนครบชุดไว้บริการหากไม่มีที่พัก ส่วนโพนพิสัยจะมีพิธีบวงสรวงพร้อมนางรำกว่าพันคน ปีนี้ก็มีนางเอกละครดังร่วมด้วย นายธวัชชัย กงเพชร ผู้บังคับกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดหนองคาย อำนวยการทำงานของชุด อส. ในการจัดเตรียมพื้นที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนฯ รองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาพักแรมรอชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคผุดขึ้นจากแม่น้ำโขงในวันออกพรรษา 2563 โดยคาดว่าลูกไฟจะเกิดขึ้นในคืนวันศุกร์ที่ 2 ต.ค. และทุกปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาพักที่กองร้อยฯ อย่างคึกคัก ส่วนปีนี้ได้กางเต็นท์ไว้จำนวน 5 หลัง หากนักท่องเที่ยวนำเต็นท์มาเองก็จะมีพื้นที่ไว้บริการเช่นกัน ขณะที่ภายในอาคารมีเครื่องนอนครบชุดจัดไว้รองรับอีก 50 ชุด นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัย และสถานที่จอดรถกว้างขวาง รวมถึงห้องน้ำ และห้องประกอบอาหาร ซึ่งสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 300 คน ทั้งนี้ หากนักท่องเที่ยวมาแล้วยังไม่มีที่พักหรือไม่ได้จองโรงแรมไว้ล่วงหน้า สามารถแจ้งความประสงค์เพื่อใช้บริการได้ที่กองอำนวยการบริการที่พักแรมนักท่องเที่ยว เทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาค กองร้อย อส.จังหวัดหนองคาย โทรศัพท์ 042-468068 ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วน อ.โพนพิสัย ที่วัดไทย เทศบาลตำบลโพนพิสัยได้ปรับภูมิทัศน์ตลอดริมฝั่งแม่น้ำโขงไว้อย่างสวยงาม […]

ห่วงพระธาตุเจดีย์เก่าแก่ลำปางร้าวทั้ง 4 ทิศ

ลำปาง 1 ต.ค.- เจ้าอาวาสวัดเวียงประสานศิลปากรที่ 7 เร่งบูรณะองค์พระธาตุเจดีย์เก่าแก่คู่เมืองล้านนา หวั่นทรุดหนัก พบรอยร้าวทั้ง 4 ทิศ หลังฝนกระหน่ำลำปาง ต้องใช้เหล็กค้ำยันปิดพลาสติกใสกันน้ำซึม พระครูจันทธรรมวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดเวียง ม.2 ต.ล้อมแรด อ.เถิน จ.ลำปาง เปิดเผยถึงปัญหารอยร้าวองค์พระธาตุเจดีย์วัดเวียงว่า หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พบรอยร้าวบริเวณด้านบนขององค์พระธาตุทั้ง 4 ทิศ โดยเฉพาะด้านทิศตะวันออกและทิศเหนือมีรอยปริแตกเป็นทางยาวกว่าด้านอื่น ทางวัดจึงเร่งแก้ปัญหาเบื้องต้นนำเหล็กมาค้ำยันไว้ รวมถึงนำพลาสติกใสมาคลุมจุดที่แตกร้าวป้องกันน้ำฝนซึมเข้าองค์พระธาตุ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายเพิ่มขึ้น และหมั่นตรวจสอบทุกวันว่ามีรอยร้าวมากกว่าเดิมหรือไม่ เพราะเป็นองค์พระธาตุเก่าแก่ อายุราว 1,500 ปี พระครูจันทธรรมวัฒน์ กล่าวว่าได้ประสานสำนักศิลปากรที่ 7 จังหวัดเชียงใหม่ กรมศิลปากรที่ดูแลโบราณสถานในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อเร่งสำรวจบูรณะซ่อมแซมโดยเร็ว เพราะหากปล่อยไว้เกรงว่าอาจทรุดตัวหรือพังลงมาได้.-สำนักข่าวไทย

เปิดแล้ว! ท่องเที่ยวภูกระดึง หลังปิดยาวโควิด

เลย 1 ต.ค.- ฤดูกาลท่องเที่ยวภูกระดึงเปิดอย่างเป็นทางการแล้ว 1 ต.ค. 2563 หลังปิดมานานกว่าปกติถึง 6 เดือน จากผลกระทบโควิด-19 กลายเป็นผลดีต่อธรรมชาติได้ฟื้นตัวเต็มที่ และรูปแบบยังเน้น New Normal วันนี้ (1 ต.ค.) นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นประธานเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวภูกระดึง ประจำปี 2563 ที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง หลังจากปิดพื้นที่มานานถึง 6 เดือน จากปกติปิดพื้นที่เพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟูเป็นเวลา 4 เดือน คือ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน-กันยายนของทุกปี ประกอบกับที่ผ่านมาเกิดสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องปิดพื้นที่ในช่วงเดือนมีนาคม 2563 เป็นต้นมา สำหรับการเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวครั้งนี้ทางอุทยานฯ คำนึงถึงความปลอดภัย โดยยังคงมาตรการตามกระทรวงสาธารณสุขในการป้องกันโควิด-19 นักท่องเที่ยวที่ประสงค์เดินทางเข้าพื้นที่อุทยานฯ ภูกระดึง ต้องปฏิบัติตามกฎการท่องเที่ยววิถีใหม่ (New Normal) ด้วยการลงทะเบียนล่วงหน้าผ่านแอพพลิเคชั่น QueQ เช็กอิน-เช็กเอ้าท์ ผ่านแอพพลิเคชั่นไทยชนะ นายสมบัติ พิมพ์ประสิทธิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง กล่าวว่า อุทยานแห่งชาติภูกระดึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นภูเขาหินทรายสูงใหญ่โดดเด่น […]

ไทยขึ้นอันดับ 39ของโลก ความสามารถทางดิจิทัล

กรุงเทพฯ 1 ต.ค. – ดีอีเอส ปลื้ม อันดับความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลของประเทศไทยดีขึ้น นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า สถาบันการจัดการนานาชาติ ประกาศผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลของเขตเศรษฐกิจทั่วโลก ประจำปี 2563 โดยประเทศไทยถูกจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลอยู่ในอันดับที่ 39 จาก 63 ประเทศ ดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา 1 อันดับ ทั้งนี้การจะรักษาอันดับความสามารถในการแข่งขันให้คงที่หรือถูกจัดอันดับให้ดีขึ้นเพียง 1 อันดับเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะนั่นหมายถึงการที่ประเทศนั้นจะต้องเร่งพัฒนาประเทศด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลในทุกด้านให้ก้าวหน้าเท่าทันกับประเทศล้วนยกให้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นแกนหลักสำคัญจึงเป็นที่น่ายินดีว่าประเทศไทยทำได้ การจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลนั้น IMD ประเมินจากปัจจัยหลัก 3 ด้าน ได้แก่ 1. ด้านองค์ความรู้(Knowledge) 2. ด้านเทคโนโลยี (Technology) และ 3. ด้านความพร้อมรองรับอนาคต (Future readiness)ปัจจัยหลักที่ดีขึ้นและช่วยยกอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย ได้แก่ ปัจจัยด้านเทคโนโลยี (Technology) และปัจจัยด้านความพร้อมรองรับอนาคต (Future readiness) โดยปี 2563 ดีขึ้นจากปีที่ 2562 อย่างก้าวกระโดดถึง 5 อันดับทั้ง 2 ปัจจัย โดยอยู่ในอันดับที่ 22 และอันดับที่ 45 ตามลำดับ เป็นการสะท้อนความสำเร็จในการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมผ่านกองทุนดีอีการผลักดันเมืองอัจฉริยะ (Smart City) การส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลการเตรียมความพร้อม Disruptive Technology ให้กับภาคส่วนต่าง ๆ ของประเทศไทย การพัฒนาระบบคลาวด์กลางภาครัฐ (GDCC) เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลภาครัฐสู่การที่ทุกภาคส่วนสามารถนำข้อมูลภาครัฐไปใช้ประโยชน์ได้ในอนาคตและการผลักดันนโยบายและแผนด้านดิจิทัลในประเด็นต่าง ๆ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม สำหรับปัจจัยหลักด้านองค์ความรู้ (Knowledge) ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 43 ซึ่งเป็นอันดับเดิมของปีที่ผ่านมา แต่ไม่ได้หมายความว่า ประเทศไทยไม่ได้พัฒนาด้านองค์ความรู้ แต่หมายถึง เราพัฒนา แต่เป็นแรงขับเคลื่อนที่คงตัว ดังนั้น จึงเป็นโอกาสที่ดีที่ชี้เป้าให้ประเทศไทยจะได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาปัจจัยดังกล่าวให้มากยิ่งขึ้น นางวรรณพร เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  (สดช.) กล่าวว่าการเพิ่มอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยและติดตามผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของสถาบัน IMD อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ประเด็นที่ประเทศไทยต้องเร่งปรับปรุงจากผลการจัดอันอันดับความสามารถในการแข่งขันในครั้งนี้อยู่ที่ปัจจัยย่อยด้านระดับและคุณภาพของการศึกษาและการฝึกอบรม (Training and education) ในหมวดของปัจจัยหลักด้านองค์ความรู้ (Knowledge) ซึ่งปี 2563 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 55 ลดลง 5 อันดับจากปี 2562 และปัจจัยย่อยด้านความสามารถในการปรับตัวของภาคธุรกิจ (Business agility) ในหมวดของปัจจัยหลักด้านความพร้อมรองรับอนาคต (Future readiness) ซึ่งปี 2563 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 44 ลดลง 14 อันดับจากปี 2562 แสดงให้เห็นว่า การผลักดันด้านคุณภาพการศึกษา การฝึกอบรม และการสร้างทักษะดิจิทัลของประเทศไทย และการเตรียมความพร้อมในการปรับตัวด้านดิจิทัลของภาคธุรกิจยังไม่เพียงพอ จึงเป็นประเด็นที่กระทรวงดีอีเอสต้องให้ความสำคัญ โดยปัจจุบัน สดช. เร่งส่งเสริมการเรียนรู้ การค้าขายแบบ e-commerce และการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลผ่านศูนย์ดิจิทัลชุมชนที่มีการปรับปรุงให้ทันสมัยและตอบรับกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ นอกจากนี้ สดช. ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนากำลังคนดิจิทัล เช่น การส่งเสริมการพัฒนาทักษะที่มีอยู่ (Re-skill) และการพัฒนากำลังคนด้วยการเสริมทักษะใหม่ (Up-skill) ผ่านการจัดทำหลักสูตรการพัฒนาทักษะดิจิทัล และหลักสูตรผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูงสำหรับผู้บริหารภาครัฐ (CIO)  อีกทั้ง สดช. ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะและสร้างกำลังคนดิจิทัลอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม เห็นได้จากการที่ สดช. ได้ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพผู้ต้องขังให้พร้อมเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งงานการมีรายได้ที่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต และสามารถกลับสู่สังคมได้อย่างปกติสุข ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสังคมที่ทั่วถึงและเท่าเทียมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลต่อไป-สำนักข่าวไทย.

แกรปดีป้าคลาซี่เปิดอะคาเดมี่เพิ่มความรู้ให้เอสเอ็มอี

กรุงเทพฯ 1 ต.ค. แกร็บผนึกดีป้า จับมือแพลตฟอร์มคลาซี่เปิด แกรปอะคาเดมี่ สร้างอาชีพติดอาวุธไฮเทคให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดแกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า แกรปอยู่ในประเทศไทยมา7 ปี มีคนที่อยู่ร่วมกันทั้งร้านอาหาร คนขับ ผู้ใช้บริการคนขับ การมีความรู้และทักษะที่เพิ่มขึ้นจะช่วยเพิ่มพูนความรู้และพัฒนาบริการให้ดียิ่งขึ้น แกรปมีหลักสูตรให้ความรู้อยู่ 80 หลักสูตร  เมื่อได้รับการรับรองจากดีป้าและมีแพลตฟอร์มอย่างคลาซี่ทำให้การเรียนรู้ทำได้อย่างสมบูรณ์ ตอบสนองพันธกิจ Grab For Good หรือแกร็บ .. เพื่อชีวิตที่ดีกว่า ที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคมไทย ส่งเสริมและเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กพาร์ทเนอร์ร้านอาหารและคนขับแกร็บซึ่งถือเป็นกลุ่มคนทำงานอิสระให้สามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยีเพื่อสร้างโอกาสในการหารายได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกทั้งยังสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดเล็กโดยการให้ความรู้ด้านการทำการตลาดออนไลน์ในการทำธุรกิจให้สามารถเพิ่มยอดขายอย่างยั่งยืนและสามารถที่จะพัฒนาทักษะและเสริมศักยภาพในการแข่งขันเพื่อก้าวทันเศรษฐกิจในยุคดิจิทัล นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) กล่าวว่า การพัฒนาคนถ้าทำแบบเดิมคงลำบากการมีแพลตฟอร์มที่เข้าถึงได้อย่างทั่วถึงทุกเวลาสามารถผลิตคอนเทนท์แล้วมีช่องทางให้คนที่เข้าร่วมไปต่อได้ คลาซี่ แกรบ มีเจตนารมณ์ตรงกับดีป้าที่จะช่วยให้คนเข้าถึงคอนเทนท์ที่ข่วยปรับตัวและสร้างโอกาสได้ช่องทางนี้จะช่วยหาโอกาสใหม่ทำให้มีรายได้และดำรงอยู่ได้ ดีป้าตระหนักดีว่ากลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็กหรือ คือฟันเฟืองสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศส่งผลให้ดีป้าเร่งพัฒนาศักยภาพให้กับเอสเอ็มอี ผ่านการทำงานร่วมกับภาคเอกชนอย่างแกร็บและภาคประชาชนในการเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจอีกทั้งเสริมศักยภาพการเรียนรู้และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลในการประกอบอาชีพ นางสาวหทัยพร เจียมประเสริฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า คลาสซี่เป็นแพลตฟอร์มการเรียนรู้ของธนาคารกสิกรไทยมีเป้าหมายเพื่อขยายโอกาสการเข้าถึงความรู้และยกระดับคุณภาพทักษะความสามารถให้แก่สังคมสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของธนาคารที่ต้องการเพิ่มอำนาจให้ทุกชีวิตและธุรกิจของลูกค้าซึ่งรวมไปถึงในมุมของการสร้างความรู้ทักษะที่สำคัญเพื่อเป็นอีกฟันเฟืองในการส่งเสริมและสนับสนุนด้านการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลคลาซี่ในฐานะแพลตฟอร์มคอร์สเรียนออนไลน์ที่ออกแบบให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่เป็น Digital Native มีจุดประสงค์ในการสร้างการเข้าถึงความรู้ได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านช่องทางออนไลน์อย่างเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นของ Hasssi โดยเน้นไปที่ทักษะจำเป็นในปัจจุบันและอนาคตอย่าง Business Technology และทักษะทาวดิจิทัล โครงการ “GrabAcademy powered by depa สร้างอาชีพกับมือโปรประกอบไปด้วยคอร์สออนไลน์เพื่อพัฒนาทักษะส่วนบุคคลและเสริมศักยภาพทางธุรกิจในด้านต่าง ๆ กว่า 80 คอร์สอาทิคอร์สพัฒนาทักษะภาษาอย่างเรียนภาษาที่ 3 จากโลกออนไลน์ปรับใช้เพิ่มฐานลูกค้าในยุคดิจิทัลการทำการตลาดออนไลน์อย่างเคล็ดลับอัพยอดขายด้วยภาพถ่ายที่ใช่และเทคนิค การตลาดด้วยคอนเทนต์รวมถึงทักษะพื้นฐานด้านการบริหารธุรกิจอย่างการจัดทำบัญชีความรู้ด้านภาษีและการพัฒนาด้านหัวใจการบริการ (Service Mind) พาร์ทเนอร์ร้านอาหาร-คนขับและร้านค้าออนไลน์ที่สนใจสามารถร่วมเรียนคอร์สออนไลน์ภายใต้โครงการ Grab Academy powered by depa สร้างอาชีพกับมือโปร” ได้ผ่านช่องทาง https: /www.grabmerchanit.com -สำนักข่าวไทย.

สั่งสอบผู้คุมเหตุผู้ต้องขังหนีเรือนจำกระบี่

กระบี่ 1 ต.ค.- ยังไม่พบตัว! 2 ผู้ต้องขังหนีเรือนจำกระบี่คืน 30 ก.ย. เจ้าหน้าที่ไม่ลดละระดมกำลังแกะรอยเต็มที่ ล่าสุดตามถึงบ้านญาติที่ปลายพระยา ส่วนอีกคนชาวตรังคาดออกนอกพื้นที่กระบี่แล้ว ด้าน ผบ.เรือนจำสั่งสอบ 3 ผู้คุมที่เข้าเวร พ.ต.อ.พิศณุ พ่วงพร้อม ผกก.กก.สส.ภ.จว.กระบี่ พ.ต.อ.จงรักษ์ พิมพ์ทอง ผกก.สภ.ปลายพระยา และนายณรงค์ หนูคง ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดกระบี่ พร้อมชุดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบ้านเป้าหมายในพื้นที่ ม.9 ต.เขาเขน. อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ ซึ่งเป็นบ้านน้องสาวของนายมลฑน ขันสมาน อายุ 47 ปี ผู้ต้องขังหลบหนีออกจากเรือนจำจังหวัดกระบี่ เมื่อกลางดึกวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา พร้อมเพื่อนผู้ต้องขังอีก 1 คน คือ นายอานนท์ เด็นหมาด อายุ 32 ปี ชาว จ.ตรัง การตรวจค้นไม่พบตัวนายมลฑน และเจ้าหน้าที่เชื่อว่ายังคงกบดานอยู่ในพื้นที่ปลายพระยา ขณะที่น้องสาวของนายมลฑน กล่าวว่า หากพี่ชายติดต่อกลับมาจะรีบพาส่งเรือนจำทันที และคิดว่ายังอยู่ในพื้นที่มากกว่าจะไปหาญาติที่นครศรีธรรมราช […]

1 28 29 30 31 32 16,774
...