ผู้ว่าฯ สุรินทร์ มอบเงินเยียวยาญาติผู้เสียชีวิตเหตุชายแดน

สุรินทร์ 5 ส.ค. – ผู้ว่าฯ สุรินทร์ เป็นตัวแทน มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาให้กับญาติของผู้เสียชีวิตจากผลกระทบชายแดน ครอบครัวละ 1 ล้านบาท นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานในพิธีมอบเงินเยียวยาให้แก่ผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชาในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 3 ครอบครัว รายละ 1,000,000 บาท โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมพิธีฯ ซึ่งเงินดังกล่าวเป็นกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ได้มอบเงินเยียวยาเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ตามที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักการ กรณีเสียชีวิต รายละ 1,000,000 บาท กรณีทุพพลภาพ รายละ 700,000 บาท กรณีบาดเจ็บสาหัส รายละ 200,000 บาท กรณีบาดเจ็บมาก รายละ 100,000 บาท และกรณีบาดเจ็บเล็กน้อย รายละ 50,000 บาท โดยแจ้งให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด นําเงินทดรองราชการไปดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง สำหรับจังหวัดสุรินทร์ มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 5 […]

“ภูมิธรรม” สั่ง ครม. ยกร่างเตรียมฟ้องอาญา-แพ่ง กับกัมพูชา

ทำเนียบ 5 ก.ค.-“ภูมิธรรม” สั่ง ครม. ยกร่างเตรียมฟ้องอาญา-แพ่ง กับกัมพูชา ทั้งในประเทศและระดับโลก หลังกัมพูชาเปิดฉากยิงคนไทย ตายเจ็บสูญเสียหนัก พร้อมเร่งเก็บกู้วัตถุระเบิดและเอกซเรย์ในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนทยอยกลับบ้านได้ ในสัปดาห์นี้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีข้อสั่งการจาก นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เรื่องการดำเนินคดีตามกฎหมาย จากกรณีที่กัมพูชาใช้กำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์รุกรานอธิปไตยของไทยจนเกิดความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน กำลังพลและทางราชการเป็นจำนวนมาก โดยให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ กรณีที่ต้องดำเนินการทางกฎหมายอย่างไร ทั้งทางอาญาและทางแพ่ง ทั้งใน และ ระดับโลก รวมทั้งกฎหมายอื่นๆด้วย จึงขอมอบหมายให้ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นหน่วยงานหลัก ดำเนินการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่ได้รับความเสียหาย เช่น กองทัพบก กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และอื่นๆ โดยให้เชิญเลขาธิการ กฤษฎีกา เข้าร่วมประชุมเพื่อช่วยให้คำแนะนำทางกฎหมายในการดำเนินคดีกับผู้สั่งการและผู้เกี่ยวข้องตามกฎหมาย ดังกล่าวโดยเร็วที่สุด เพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ รวมทั้งเรียกร้อง ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำดังกล่าว รวมทั้งแจ้งให้ประชาชนผู้เสียหายทราบถึงสิทธิในการฟ้องร้องคดีอาญา และฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากผู้สั่งการด้วย ส่วนสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชาแม้มีการหยุดยิงแล้ว โดยขณะนี้การประชุม […]

EOD เข้าเก็บกู้ทำลายระเบิดอีก 2 จุด ในกันทรลักษ์

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ EOD จะเข้าเก็บกู้ทำลายจรวด BM-21 อีก 2 จุด ในทุ่งนา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ที่ถูกกัมพูชายิงใส่เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ขณะที่ยายวัย 63 ปี เล่านาทีสะเทือนใจ ญาติในกัมพูชาถูกจับเป็นทหารไร้ข่าวคราว หวั่นตายไร้ศพ วันนี้ เจ้าหน้าที่ชุดอีโอดีตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจ ตชด. ที่ 22 และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย หรือ TMAC เข้าเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิดแรงสูง ประเภท BM21 ที่กัมพูชายิงเข้ามา ตกบริเวณทุ่งนาของชาวบ้านในตำบลทุ่งใหญ่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ จุดนี้ห่างจากพื้นที่ชุมชน และห่างจากปั๊ม ปตท.บ้านผือ ที่ถูกกัมพูชายิงจรวด BM 21 ตกใส่เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ประมาณ 1 กิโลเมตร โดยอนุญาตให้สื่อมวลชน เข้าบันทึกภาพได้แต่ขอให้อยู่ในระยะห่างที่ปลอดภัย […]

กองทัพบก เปิดพื้นที่ให้คณะ ICRC เข้าเยี่ยมเชลยศึกกัมพูชา

กทม. 5 ส.ค.-กองทัพบก เปิดพื้นที่ให้คณะ ICRC เข้าเยี่ยมเชลยศึกกัมพูชา ตามขั้นตอนสากล ยืนยันยึดหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 กองทัพบก ได้ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ อำนวยความสะดวกให้แก่คณะเจ้าหน้าที่จากสำนักงานภูมิภาคคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (International Committee of the Red Cross: ICRC) ประจำกรุงเทพฯ ในการเข้าเยี่ยมเชลยศึกชาวกัมพูชาจำนวน 18 นาย ณ สถานที่ควบคุมตัวในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 โดย ICRC ถือเป็นหน่วยงานด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศที่ดูแลเรื่องเกี่ยวกับเชลยศึกโดยตรง ปฏิบัติงานตามหลักสากลด้วยความมีมาตรฐาน เป็นกลาง และเป็นที่ยอมรับของนานาชาติการเข้าเยี่ยมในครั้งนี้เป็นไปตามขั้นตอนปกติของหน่วยงาน ICRC ไม่ได้เข้ามาตรวจสอบตามข้อเรียกร้องของฝ่ายกัมพูชาที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใดมีวัตถุประสงค์เพื่อรับทราบสภาพความเป็นอยู่ของเชลยศึก และเป็นช่องทางในการติดต่อกับครอบครัว อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงความเคารพและยึดมั่นของประเทศไทยในการปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะพันธกรณีตามอนุสัญญาเจนีวา ค.ศ. 1949 ที่ประเทศไทยเป็นภาคี ตลอดจนเน้นย้ำถึงความโปร่งใสในการดำเนินงาน การดูแลเชลยศึกด้วยศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ ตามมาตรฐานและแนวปฏิบัติสากลที่เกี่ยวข้อง ในโอกาสนี้ กองทัพบกได้เปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ ICRC เข้าพบและพูดคุยกับเชลยศึกอย่างอิสระโดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา พร้อมทั้งจัดให้มีการตรวจสุขภาพ เพื่อยืนยันว่าไม่มีการซ้อมทรมานหรือการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม ตามที่มีการกล่าวอ้างในบางสื่อ ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริงแต่อย่างใด นอกจากนี้ […]

ทบ.-ทภ.2 นำกาชาดสากล เยี่ยม 18 เชลยศึก “ทหารกัมพูชา”

กองทัพบก 5 ส.ค.-วันนี้ ทบ.-ทภ.2 นำ ‘กาชาดสากล’ เยี่ยม 18 เชลยศึก “ทหารกัมพูชา” ที่ไทยคุมตัว ยึดอนุสัญญาเจนีวา พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษก ทบ. ชี้แจงกรณีฝ่ายกัมพูชาพยายามเรียกร้อง การส่งตัวกลับของ ‘เชลยศึกกัมพูชา’ ทั้งอยู่ในขั้นตอนกฎหมายระหว่างประเทศ ว่า ความพยายาม มีนัยยะแอบแฝง เพื่อหวังทำลายความน่าเชื่อถือฝ่ายไทย ในสายตาชาวโลก แต่เชื่อว่าไม่มีผล เพราะฝ่ายไทยดำเนินการทุกอย่างไปตามกรอบกฎหมายและกติกาสากลอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมา ต่างจากทางฝ่ายของกัมพูชาเอง กรณีเชลยศึกกัมพูชานั้น ฝ่ายไทยมีความจำเป็นและมีเหตุผลในการควบคุมตัว ตามกฎหมายสากลระหว่างประเทศและอนุสัญญาเจนีวา ด้วยการดูแลเป็นอย่างดี ที่ผ่านมายึดตามอนุสัญญาเจนีวา และตามหลักกติกาสากล ไทยได้ส่งกลับทหารกัมพูชาอย่างเป็นทางการคืนไปจำนวน 18 ศพ ผ่านขั้นตอนที่ถูกต้อง ในลักษณะเป็นการให้เกียรติ ต่อผู้สูญเสียถึงแม้จะเป็นทหารกัมพูชา ซึ่งอยู่ฝ่ายตรงข้าม นอกจากนั้นเมื่อ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ฝ่ายไทยได้ส่งทหารกัมพูชากลับอีกจำนวน 2 คน ที่มีอาการบาดเจ็บสาหัส และสติฟั่นเฟือนโดยไทยได้ ดูแลรักษาพยาบาลเป็นอย่างดี ก่อนไทยดำเนินการส่งกลับตามช่องทางอย่างถูกต้องตามอนุสัญญาเจนีวา กลับปรากฏว่าทางฝ่ายกัมพูชามีหนังสือการฟ้องสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ OHCHR ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศไทยจึงได้มีหนังสือถึง (OHCHR) […]

พล.อ.ณัฐพล เผยถก GBC ไทยเสนอ 8 ข้อ ขอประชาชนมั่นใจ

เขาชะโงก 5 ส.ค.-พล.อ.ณัฐพล เผยถก GBC ไทยเสนอ 8 ข้อ มีคุยกัมพูชาเคลื่อนกำลังประชิดชายแดน แปลกใจ ฝ่ายเขมรไม่ค่อยเสนอประเด็น ขอประชาชนมั่นใจ จะไม่ทำให้ไทยเสียประโยชน์แน่นอน มองแง่ดี มหาอำนาจร่วมสังเกตการณ์ ส่วนตัวมั่นใจศักยภาพตัวเอง แค่ไม่อยากยกตน พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รักษาราชการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมระบุถึงความคืบหน้าการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทยกัมพูชา หรือ GBC หลังจากฝ่ายเลขานุการ 2 ฝ่ายได้ประชุมเป็นวันที่สองว่า จากที่ได้ติดตามเป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่ฝ่ายกัมพูชาไม่ค่อยมีเรื่องมาเสนอมากนัก แต่ฝ่ายไทยได้เตรียมการไว้ 8 ข้อ โดยฝ่ายเลขาฯกัมพูชา ได้รับขอเสนอไปพิจารณา และปรึกษา กับผู้บังคับบัญชา เนื่องจากทางฝ่ายกัมพูชาก็มาเฉพาะ ระดับเลขานุการเช่นกัน ซึ่งตามกรอบGBC ช่วง 4-6 สิงหาคมนี้ เป็นการประชุมของกองเลขาฯสองฝ่าย ส่วนประเด็นข้อเสนอ 8 ข้อแตกต่างจากข้อตกลงในระดับพื้นที่ 7 ข้ออย่างไรนั้น พลเอกณัฐพล ย้ำว่า เป็นการลงในรายละเอียดจากข้อตกลงเดิม สำหรับกรณีที่ทางกัมพูชามีความเคลื่อนไหวในลักษณะการเคลื่อนกำลังเข้าประชิดชายแดนในระหว่างการประชุม GBC นั้น ก็จะนำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมด้วย แต่ขอไม่พูดในรายละเอียด ซึ่งจะนำประเด็นที่เป็นข้อห่วงใยทั้งหมดเข้าไปหารือร่วมกัน โดยเฉพาะข้อห่วงใยที่กองทัพ […]

“ภูมิธรรม” ยันไม่ได้ปิดศูนย์อพยพ เหตุสถานการณ์ยังไม่ปลอดภัย

ทำเนียบ 5 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ยันไม่ได้ปิดศูนย์อพยพให้ประชาชนกลับบ้าน เหตุสถานการณ์ยังไม่ปลอดภัย ย้ำสั่งผู้ว่าฯ ดูแลชีวิต-ทรัพย์สิน ขู่จัดการคนดึงงบฯ ลั่นไม่มีสิทธิทำให้เกิดปัญหา ส่วนเงินเยียวยารอดูรายละเอียด ชี้อาจน้อยกว่า 8-10 ล้านบาท นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการเสียชีวิตของทหารกัมพูชา จากการปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ผ่านมา มีจำนวนกว่า หลักพันคน ได้รับรายงานมาหรือไม่ ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฟังมาจากข่าว เราไม่มานั่งรายงานเรื่องนี้ ซึ่งไม่ทราบว่าความจริงแล้วทหารกัมพูชาเสียชีวิตเท่าไหร่ เพราะการชนะ หรือแพ้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนการเสียชีวิตของทหาร และเราให้เกียรตินักรบทุกคนที่อยู่ในสมรภูมิ ซึ่งไม่ควรเอาเรื่องการเสียชีวิตของคนมาเล่นประเด็น ขณะที่กระแสข่าวเรื่องการปิดศูนย์อพยพ นายภูมิธรรม ยืนยันว่า ไม่จริง เพราะขณะนี้ทหารยังไม่อนุญาตให้ประชาชนกลับเข้าพื้นที่ และหากพบว่า มีความบกพร่อง หรือการจัดการที่ไม่ถูกต้องก็ต้องถูกพิจารณาไม่ว่าใครก็ตาม ที่ทำให้เป็นปัญหาด้วยความตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจ เพราะไม่มีสิทธิที่จะมาทำอะไรให้เป็นปัญหา พร้อมย้ำว่า ขณะนี้สถานการณ์ในพื้นที่ยังไม่ปลอดภัย โดยได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดจัดการดูแลชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนตามสมควร และหากตรงไหนยังไม่มีดึงงบฯ ไว้ตามที่เป็นข่าว ก็ต้องไปจัดการ เช่นเดียวกับกรณีที่มีการตั้งกระทู้ในสภาฯ ถามนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย […]

“วันนอร์” ลงพื้นที่ชายแดน 10 ส.ค. ย้ำจุดยืน “สภาฯไทย” สร้างสันติสุข

รัฐสภา 5 ส.ค.-“วันนอร์” เตรียมลงพื้นที่ชายแดน 10 ส.ค.นี้ ย้ำท่าทีประณาม “กัมพูชา” ใส่ร้ายไทย จำเป็นต้องชี้แจงให้ทั่วโลกทราบความจริง ชี้จุดยืน “สภาฯไทย” สร้างสันติสุข รักษาชีวิตประชาชน-ทหาร นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการออกแถลงการณ์หลายภาษาเสนอแนวทางของรัฐสภาไทยต่อสถานการณ์ไทย – กัมพูชา ว่า ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชากองทัพ รัฐบาลรวมถึงกระทรวงการต่างประเทศก็ได้ดำเนินการเป็นอย่างดีแล้ว แต่ส่วนของสภาฯ เนื่องจากประธานรัฐสภาของกัมพูชาได้ไปแถลงการณ์ในการประชุม IPU และการประชุมสภาสตรีในทางที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยบอกว่าประเทศไทยริเริ่มสงครามก่อนใช้อาวุธเคมี ดังนั้นในนามประธานรัฐสภาของไทยจึงต้องชี้แจงไปยังสมัชชารัฐสภา IPU และองค์กรที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งรัฐสภาของประเทศต่างๆเพื่อให้เห็นตรงกันว่าปัญหาชายแดนที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากฝ่ายไทย และฝั่งตรงข้ามได้ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จโดยเอาการกระทำของฝ่ายตนเองมาใส่ร้ายกองทัพไทย รัฐสภาขอปฏิเสธเพราะเรามีเอกสารหลักฐาน ภาพที่แสดงชัดเจนว่าทางฝ่ายกัมพูชาได้ยิงลงโรงพยาบาลและร้านสะดวกซื้อทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตถึง 9 คน นายวันมูหะมัดนอร์ ยังกล่าวว่า ท่าทีของสภาแสดงอย่างชัดเจนว่าเราต้องการรักษาสันติภาพ สันติสุข และรักษาชีวิตประชาชนทหารไม่ต้องการให้เกิดความเสียหาย และไม่ให้มีผลกระทบต่อประชาชนที่อยู่ชายแดน อะไรที่เราสามารถทำให้เกิดสันติภาพกับพี่น้องประชาชนชายแดนได้ แล้วทหารที่อยู่แนวหน้าไม่ให้เกิดความเดือดร้อน เราก็จะดำเนินการให้ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ นายวันมูหะมัดนอร์ ระบุว่าในวันที่ 10 สิงหาคมนี้จะลงพื้นที่ บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อฟังบรรยายสรุปว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไรหลังจากการเจรจาหยุดยิง พร้อมมอบของจำเป็นที่กองทัพต้องการ ซึ่งได้รับบริจาคมาจากประชาชน และเนื่องจากในวันดังกล่าวใกล้กับวันที่ […]

“ไตรศุลี” เรียกร้องรัฐบาลเร่งเยียวยาประชาชนที่ต้องอพยพ

กทม. 5 ส.ค.-“ไตรศุลี” เรียกร้องรัฐบาลเร่งช่วยเหลือเยียวยาประชาชนแนวชายแดนที่ต้องอพยพ กิจการร้านค้าปิดตัวขาดรายได้ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชรบ. อบต. จิตอาสา ที่เสียสละดูแลพื้นที่ ชี้ยังไร้มาตรการดูแลคนตัวเล็ก ซัดรัฐล่าช้า ขาดประสิทธิภาพ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ออกมาเรียกร้องแทนพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สู้รบในพื้นที่จังหวัดชายแดนโดยเฉพาะในอีสานตอนใต้จังหวัดศรีสะเกษ อุบลราชธานี สุรินทร์ และบุรีรัมย์ โดยเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งกำหนดและออกมาตรการเยียวยาอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะประชาชนที่ต้องอพยพออกจากพื้นที่และขาดรายได้จากการไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ ผู้ประกอบการรายย่อย พ่อค้า แม่ค้าในตลาดที่ต้องปิดร้านในช่วงที่พื้นที่ยังไม่ได้ประกาศรับรองความปลอดภัย ตลอดจนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชรบ. เจ้าหน้าที่ อบต. เทศบาล จิตอาสาที่เสียสละดูแลพื้นที่และความเรียบร้อยและปลอดภัยในศูนย์อพยพ “ตอนนี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ทั้งรายได้ที่หายไป บ้านที่เสียหาย และสภาพจิตใจที่บอบช้ำ แต่กลับยังไม่มีมาตรการจากรัฐที่ชัดเจนหรือเป็นรูปธรรมแม้แต่น้อย ขนาดผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันที่ถูกลูกหลงจากการยิงระเบิดที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมีข่าวโด่งดังไปทั่วโลก ยังต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เองเพื่อร้องขอความช่วยเหลือเพราะไม่มีหน่วยงานไหนยื่นมือเข้ามาช่วยหรือให้ความเชื่อมั่นว่าเขาจะได้รับการดูแลอย่างไร พี่ๆ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชรบ. เจ้าหน้าที่ อบต. เทศบาล จิตอาสา เขาเสียสละมาก เสี่ยงอันตราย […]

“วันนอร์” ชงข้อเสนอ 5 ภาษารัฐสภาไทย หนุนหยุดยิง แสวงหาข้อยุติ

รัฐสภา 5 ส.ค.-“วันนอร์” ชงข้อเสนอ 5 ภาษารัฐสภาไทย ยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศด้านมนุษยธรรม หนุนหยุดยิง แสวงหาข้อยุติผ่านทวิภาคี หวังใช้เวทีนิติบัญญัติ ให้ประชาชนไทย-กัมพูชา กลับมาใช้ชีวิตปกติสันติสุขโดยเร็ว นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เสนอแนวทางของรัฐสภาไทยต่อสถานการณ์ไทย – กัมพูชา โดยนำเสนอเป็น 5 ภาษาประกอบด้วยภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาเกาหลี สเปน และ อาหรับ โดยเนื้อหาใจความของข้อเสนอ มี 3 ข้อ ดังนี้ 1.รัฐสภาไทยยึดมั่นในหลักการของสหประชาชาติ กฎหมายระหว่างประเทศ หลักปฏิบัติด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และหลักการของอาเซียน2.รัฐสภาไทยสนับสนุนข้อตกลงหยุดยิงร่วมกันของทั้งสองฝ่าย รวมทั้งแนวทางการแสวงหาข้อยุติร่วมกันโดยสันติวิธีผ่านช่องทางทวิภาคีที่มีอยู่3.รัฐสภาไทยไม่ประสงค์เป็นคู่ขัดแย้งกับฝ่ายใด รวมทั้งมุ่งหวังที่จะเห็นการใช้เวทีของฝ่ายนิติบัญญัติอย่างสร้างสรรค์เพื่อช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่างรัฐบาลและประชาชนทั้งสองประเทศให้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติและสันติสุขโดยเร็ว ก่อนหน้านี้นายวันมูหะมัดนอร์ ในฐานะ ประธานหน่วยประจำชาติไทยในสหภาพรัฐสภา (IPU)ได้จัดทำ ข้อเรียกร้อง ให้ประเทศกัมพูชาหยุดเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จและปฎิบัติข้อตกลงเจรจาหยุดยิง เป็น 5 ภาษา ได้แก่ จีน อินโด อิตาลี ฝรั่งเศส และรัสเซียด้วย.-319.-สำนักข่าวไทย

สถานการณ์ชายแดนไทยปกติ

ทำเนียบ 5 ส.ค.-สถานการณ์ชายแดนไทยปกติ ช่วงค่ำวานนี้ ถึงเช้านี้ ขณะที่ไทย-กัมพูชา ยังคงอยู่ระหว่างการประชุม GBC เป็นวันที่ 2 ที่มาเลเซีย เวลา 07.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยรายงานสถานการณ์ภาพรวมบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาว่า เหตุการณ์ทั่วไปถึงเช้าวันนี้ ยังคงเป็นปกติ ไม่มีรายงานเหตุรุนแรงบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในทุกพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน ขณะที่หน่วยงานความมั่นคงยังคง เฝ้าระวัง วางกำลังตามแนวปฏิบัติการตามแผน ทั้งนี้ ไทยและกัมพูชา ยังอยู่ระหว่างการประชุม GBC ระหว่างวันที่ 4-7 สิงหาคม 68 โดยวันที่ 4-6 ส.ค.68 เป็นการประชุมฝ่ายเลขานุการ และวันที่ 7 ส.ค.68 เป็นการประชุมหลัก.-314.-สำนักข่าวไทย

9 ทันโลก : “โดรน” เขี้ยวเล็บไทยในการรบสมัยใหม่

4 ส.ค. – ในความขัดแย้งกับกัมพูชา เราได้เห็นบทบาทของโดรนทางการทหารเป็นครั้งแรก รายงาน 9 ทันโลก วันนี้ พาไปรู้จักกับโดรนในฐานะตัวเปลี่ยนโฉมการรบยุคใหม่ เมื่อไทยเราถูกผลักให้เข้าสู่การสู้รบ สิ่งหนึ่งที่เป็นผลพวงตามมาคือ การเปิดใช้ยุทธวิธีรบแบบใหม่ด้วยอากาศยานไร้คนขับ หรือที่เรียกว่าโดรน ซึ่งมีบทบาทสูงมากในความขัดแย้งทั่วโลก และชี้ถึงความจำเป็นต้องปรับตัวและพัฒนาให้เท่าทันการรบยุคใหม่ “โดรนโจมตี” ลำนี้กำลังเข้าสู่เป้าหมายในเมืองเพนซาของรัสเซีย ส่วนหนึ่งของสงครามโดรนที่ดุเดือดที่สุดบนโลก จากกำเนิดของโดรนที่คิดค้นมากว่าร้อยปีแล้ว ถูกพัฒนามาใช้ประโยชน์ด้านการทหารเริ่มจากใช้เป็นเป้าฝึกทางการทหารช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ต่อมาจึงประยุกต์ใช้ร่วมกับเครื่องยนต์ไอพ่น เติมเทคโนโลยีเข้าไปไม่หยุดนิ่ง ปัจจุบันโดรนจึงมีบทบาทสูงในการรบยุคใหม่ ด้วยจุดเด่นที่มีขนาดเล็ก เงียบ ยากต่อการตรวจการณ์ เป็นเหมือนอากาศยานรบจู่โจมขนาดเล็กกว่า ใช้การควบคุมจากระยะไกลด้วยรีโมต จึงลงความเสี่ยงต่อกำลังพล สามารถติดตั้งอุปกรณ์และอาวุธได้หลากหลาย ในการรบอาจแบ่งลักษณะของโดรนเป็นสองประเภทกว้างๆ คือ 1.โดรนลาดตระเวนที่ใช้สอดแนม เฝ้าตรวจสนามรบ เพื่อสนับสนุนข่าวกรองการรบ เป็นสายตาในอากาศที่ช่วยให้การรบแม่นยำ และ 2.โดรนสำหรับการโจมตี เป็นอาวุธที่ถูกนำมาใช้ควบคู่กับปืนใหญ่ประเภทต่างๆ เพื่อยิงทำลายศัตรู เหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญและทำให้โลกเห็นถึงศักยภาพของโดรนคือ เหตุการณ์เมื่อปี 2563 ที่สหรัฐโดยคำสั่งของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีในเวลานั้น ได้ลอบสังหารนายพลกาเซ็ม โซไลมานี อดีตผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ผู้ทรงอิทธิพลของอิหร่าน ใช้โดรนสังหาร “MQ-9 Reaper” เพียง […]

1 34 35 36 37 38 79
...