กองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์สู้รบแนวชายแดน รอบเย็น ทั้งสองฝ่ายวางกำลังในที่ตั้ง

กองทัพภาคที่ 2 26 ก.ค. – ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 26 กรกฎาคม 2568 (ณ เวลา 16.00 น.) ตามที่เกิดสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปผลการปฏิบัติที่สำคัญ ดังนี้ สถานการณ์การสู้รบ ทั้งสองฝ่ายยังคงวางกำลังในที่ตั้ง เนื่องจากมีฝนตกหนักในพื้นที่ สถานการณ์ไม่เปลี่ยนแปลงจากเวลา 12.00 น. มากนัก การอพยพประชาชนไปยังพื้นที่รวบรวมพลเรือน พื้นที่ตอนในทั้ง 4 จ.อย่างต่อเนื่อง จ.บุรีรัมย์ อพยพเข้าพื้นที่รวบรวมพลเรือน 1 จุด จำนวน 8,363 คน, จ.สุรินทร์ อพยพเข้าพื้นที่รวบรวมพลเรือน 65 จุด จำนวน 39,350 คน, จ.ศรีสะเกษ อพยพเข้าพื้นที่รวบรวมพลเรือน 82 จุด จำนวน 35,009 คน และ จ.อุบลราชธานี […]

รมว.ยธ.ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัย

26 ก.ค. – รมว.ยุติธรรม ลงพื้นที่ในนามรัฐบาล สั่งการทุกหน่วยช่วยเหลือประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เร่งฟื้นฟูร่างกาย-จิตใจ-ไม่อยากให้เกิดการสูญเสียเพิ่ม ขณะที่กองทัพภาคที่ 2 สั่งเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดจากการสู้รบ บริเวณ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ อพยพประชาชนต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย

กองทัพภาค 2 พร้อมปกป้องคนไทยจากขีปนาวุธเขมร

สุรินทร์ 26 ก.ค. – ชาวบ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ผวาขีปนาวุธกัมพูชาที่สามารถยิงได้ไกลถึง 130 กิโลเมตร ขณะที่กองทัพภาคที่ 2 ให้ความมั่นใจ มีเครื่องมือทำลายขีปนาวุธนี้ พร้อมปกป้องชาวบ้าน ขอให้ใช้ความระมัดระวัง และไม่ตื่นตระหนก.-สำนักข่าวไทย

อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เสียงปืนใหญ่ดังตลอดวัน

อุบลราชธานี 26 ก.ค. – วันที่ 3 เหตุปะทะบริเวณ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ยังมีเสียงปืนใหญ่ดังตลอดทั้งวัน ขณะที่ช่วงค่ำมีฝนตก แยกไม่ออกระหว่างฟ้าร้องกับเสียงปืน ทางการขอให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องออกนอกพื้นทั้งหมดเพื่อความปลอดภัย .-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้าน จ.ตราด ที่ศูนย์อพยพ สภาพจิตใจยอดเยี่ยม

ตราด 26 ก.ค. – ชาวบ้าน จ.ตราด ที่ศูนย์อพยพ สภาพจิตใจยอดเยี่ยม ทุกคนปลอดภัย ทางการวางแผนรับมือตั้งแต่ก่อนเกิดการปะทะบริเวณบ้านชำราก ส่วนเรื่องอาหารและน้ำดื่ม มีเพียงพอ อุ่นใจมีทหารและตำรวจอีกหลายหน่วยสับเปลี่ยนมาดูแลใกล้ชิด.-สำนักข่าวไทย

“ทักษิณ” ย้ำปมไทย-กัมพูชา ไม่เกี่ยวสองตระกูลขัดแย้ง

อุบลราชธานี 26 ก.ค. –“ทักษิณ” ย้ำปมปะทะรุนแรงไทย-กัมพูชา ไม่เกี่ยวสองตระกูลขัดแย้ง ซัด “ฮุนเซน” ทำสถานการณ์บานปลาย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เยี่ยมให้กำลังใจผู้อพยพบริเวณศูนย์การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยการสู้รบ พรรคเพื่อไทย ภายในศูนย์พักพิงเทศบาลเมืองเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี โดยทันทีที่มาถึงนายทักษิณได้ทำเมนูอาหารข้าวผัดหมูแจกจ่ายให้กับชาวบ้านในศูนย์พักพิง จากนั้นได้เดินทักทายและให้กำลังใจ ซึ่งระหว่างเยี่ยมชาวบ้านนั้น สส.ในพื้นที่และชาวบ้านได้ร่วมร้องเพลงเพื่ออวยพร เนื่องในวันคล้ายวันเกิด 26 ก.ค. พร้อมประกาศแจกเงินคนละ 1 พันบาทสำหรับผู้อพยพในศูนย์พักพิงเทศบาลเมืองเดชอุดม นายทักษิณ กล่าวปฏิเสธความขัดแข้งระหว่างสองตระกูล เป็นสาเหตุนำไปสู่การสู้รบของไทยและกัมพูชา แต่มาจากสมเด็จฮุนเซน โกรธที่ยอมถอนทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่พิพาท แต่ทหารไทยยังไม่ยอมเปิดด่าน ก่อนจะนำไปสู่การเผยแพร่ข้อความสนทนาทางโทรศัพท์กับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จนทำให้สถานการณ์บานปลายจนถึงปัจจุบัน. – 716. – สำนักข่าวไทย

รมว.ท่องเที่ยวฯ เยี่ยมให้กำลังใจผู้อพยพที่บุรีรัมย์

บุรีรัมย์ 26 ก.ค. – รมว.ท่องเที่ยวฯ เยี่ยมให้กำลังใจผู้อพยพจากเหตุปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา ที่ อ.บ้านกรวด และ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เตรียมคว่ำกัมพูชา ไม่ให้ร่วมแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจผู้อพยพจากเหตุการณ์ปะทะระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ในพื้นที่อำเภอบ้านกรวด และอำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ที่อาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ซึ่งมีทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบาง นายสรวงศ์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ครั้งนี้ในนามของกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ขอประณามต่อการกระทำของฝ่ายกัมพูชา รวมทั้งจะหารือกับประเทศสมาชิกซีเกมส์ 11 ประเทศ ร่วมบอยคอตไม่ให้กัมพูชาร่วมแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคมนี้.-สำนักข่าวไทย

ชาวกัมพูชาแห่กลับประเทศ ทะลักจุดผ่านแดนบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว

สระแก้ว 26 ก.ค. – ชาวกัมพูชาทะลักจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว รอข้ามกลับประเทศ หลังญาติพี่น้องเป็นห่วง ขอให้เดินทางกลับ ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ชาวกัมพูชานับพันยืนรอแน่นเพื่อรอการปล่อยให้เดินเข้าช่องตรวจเอกสารของตรวจคนเข้าเมืองสระแก้ว ในการเดินออกข้ามพรมแดนไปยังฝั่งประเทศกัมพูชา โดยแรงงานเหล่านี้เข้ามาในประเทศไทยแล้วไปทำงานอยู่ในพื้นที่ชั้นใน ซึ่งในสถานการณ์ไม่ปกตินี้ ทางญาติพี่น้องในกัมพูชาเป็นห่วง ขอให้เดินทางกลับ การผ่อนผันดังกล่าวเพื่ออนุโลมให้ชาวกัมพูชาที่ตกค้างอยู่ในฝั่งไทยกว่าพันคนเดินทางกลับประเทศกัมพูชา และอนุโลมให้คนไทยที่ตกค้างอยู่ในฝั่งกัมพูชากว่า 200 คน สามารถเดินทางผ่านประตูเล็กข้างด่านพรมแดนคลองลึก กลับเข้ามาในประเทศไทยได้ ตั้งแต่เวลา 11.00-13.00 น. ภายในวันนี้วันเดียวเท่านั้น .-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ลงพื้นที่ศรีสะเกษ ให้กำลังใจพี่น้องชายแดน-เร่งประสานช่วยเหลือใกล้ชิด

ศรีสะเกษ 26 ก.ค. – “อนุทิน” ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ให้กำลังใจพี่น้องชายแดน ขอบคุณทุกฝ่ายร่วมฝ่าวิกฤติ พร้อมเร่งประสานช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ตลอดทั้งวัน เพื่อให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมีเป้าหมายเพื่อรับฟังปัญหา เยี่ยมเยียนผู้ประสบภัย และเร่งรัดการประสานงานด้านความช่วยเหลือในทุกมิติ ภารกิจเริ่มขึ้นในเวลา 09.30 น. ที่วัดแห่งหนึ่ง ต.ไพรบึง อ.ไพรบึง โดยนายอนุทินได้พบปะพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ สอบถามความเป็นอยู่ และให้กำลังใจแก่ชาวบ้านที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ตึงเครียดจากเหตุความไม่สงบ พร้อมยืนยันว่าประชาชนจะไม่ถูกทอดทิ้ง ทุกภาคส่วนจะอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด จากนั้นเดินทางต่อไปยังวัดอีกแห่งหนึ่งใน ต.ไพรบึง เช่นกัน โดยระหว่างการพบปะชาวบ้าน นายอนุทิน กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกคนที่เสียสละและร่วมแรงร่วมใจกันดูแลพี่น้องประชาชนอย่างดีที่สุด วันนี้สิ่งที่เราต้องทำคือเดินหน้าช่วยเหลือโดยไม่รีรอ พรรคภูมิใจไทยพร้อมเป็นสะพานเชื่อมประสานทุกหน่วยงาน เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ และฟื้นฟูชีวิตของประชาชนให้กลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายอนุทิน และคณะ มีกำหนดการเยี่ยมเยียนพื้นที่เสี่ยงภัยและจุดอพยพอีกหลายแห่งใน จ.ศรีสะเกษ ตลอดทั้งวัน พร้อมให้กำลังใจประชาชนทุกจุดที่เดินทางไปถึง โดยมีการพูดคุย รับฟังข้อเสนอแนะจากชาวบ้านในแต่ละชุมชน เพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการผลักดันนโยบายหรือมาตรการช่วยเหลือที่ตอบโจทย์ความต้องการอย่างแท้จริง.-319-สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านลดต่อเนื่อง ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย

น่าน 26 ก.ค.- สถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองน่าน ลดลงต่อเนื่อง ส่วนอีกหลายจุดยังอ่วม ท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย ย่านการค้าและเศรษฐกิจสำคัญของเมืองน่าน บริเวณถนนสุมณเทวราช ซึ่งเคยน้ำท่วมสูงเกือบถึงคอ แต่ตอนนี้น้ำลดลงเหลือประมาณหน้าขา เท่ากับลดไปราว 1 เมตร แต่บริเวณโดยรอบยังมีน้ำท่วมเต็มพื้นที่ โดยเฉพาะที่ลุ่มต่ำ ยังท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจความเสียหายของโรงแรงแห่งหนึ่งกลางเมืองน่าน ซึ่งสภาพภายในเต็มไปด้วยคราบโคลน รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ที่จอดไว้เสียหายจำนวนมาก ขณะที่เจ้าของร้านค้าย่านนี้ เริ่มสำรวจความเสียหายจากน้ำท่วม อีกจุดหนึ่งที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักคือที่โรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมสูงเต็มพื้นที่ 40 ไร่ บางจุดท่วมเกือบมิดหัว ตอนนี้น้ำลดแล้ว แต่ตามอาคารต่างๆ น้ำทะลักท่วมยาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ได้รับความเสียหาย แต่ผู้ป่วยใน ราว 3 ร้อยคน ยังปลอดภัย คุณหมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่เร่งช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาด เพื่อให้โรงพยาบาลกลับมาเปิดบริการตามปกติให้เร็วที่สุด ช่วงสายที่ผ่านมา นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายใจกลางเขตเศรษฐกิจเมืองน่านด้วย -สำนักข่าวไทย

“เท้ง” เยี่ยมศูนย์พักพิงสุรินทร์ ให้กำลังใจประชาชน-จนท.

สุรินทร์ 26 ก.ค. – “เท้ง ณัฐพงษ์” รุดเยี่ยมศูนย์พักพิง จ.สุรินทร์ ให้กำลังใจประชาชน-เจ้าหน้าที่ หวั่นหากสถานการณ์ไม่คลี่คลาย ประชาชนต้องอพยพอีกรอบ แนะรัฐบาลเร่งดูแลศูนย์พักพิง-สนับสนุนของใช้จำเป็นที่ยังขาดแคลน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และนายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคประชาชน และประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เข้าพื้นที่เยี่ยมศูนย์พักพิงชั่วคราว ในพื้นที่อำเภอเมือง และอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ โดยได้เข้าเยี่ยมและให้กำลังใจพี่น้องประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นในการอุปโภคบริโภคของประชาชน หัวหน้าพรรคประชาชนสอบถามเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ถึงปัญหาและอุปสรรคในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน รวมถึงสอบถามสิ่งของที่จำเป็นต่อการอุปโภคบริโภคที่ศูนย์พักพิงยังขาดแคลน พบว่าห้องน้ำในศูนย์พักพิงยังขาดแคลนและไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ขาดสิ่งของในการอุปโภคหลายรายการ เช่น ยากันยุง เสื้อผ้า ต้องการการสนับสนุนจากหน่วยงานนอกพื้นที่อย่างเร่งด่วน นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า บริเวณศูนย์พักพิงชั่วคราวอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ยังถือเป็นพื้นที่ที่น่าเป็นห่วงจากรัศมีการยิงของฝั่งกัมพูชา โดยมีเด็กเล็กและผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวเป็นจำนวนมาก หากสถานการณ์การปะทะบริเวณชายแดนยังไม่คลี่คลายหรือไม่เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น อาจจำเป็นต้องวางแผนในการอพยพประชาชนจากบริเวณศูนย์พักพิงชั่วคราวที่ใกล้เคียงกับชายแดน ย้ายไปยังอำเภอเมืองสุรินทร์ มากขึ้น เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของพี่น้องประชาชน นายณัฐพงษ์ ยังได้พูดคุยเพื่อให้กำลังใจและขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจในการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันในการความช่วยเหลือ พร้อมขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้เร่งปรับปรุงดูแลศูนย์อพยพ สนับสนุนของใช้จำเป็นให้เพียงพอ โดยระหว่างนี้ขอให้พี่น้องประชาชนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รวมทั้งการระดมสิ่งของจำเป็นเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการได้.-319-สำนักข่าวไทย

เตรียมขนย้ายเสือ 16 ตัว ออกนอกพื้นที่ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ 26 ก.ค. – สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์ เตรียมขนย้ายเสือ 16 ตัว ออกนอกพื้นที่ หวั่นเหตุหลุดกรงเป็นอันตรายต่อประชาชน หลังสถานการณ์ชายแดนทวีความรุนแรง นายสาธิต พันธุมาศ หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์ ต.ปรือใหญ่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานีฯ อยู่ระหว่างเตรียมแผนเคลื่อนย้ายเสือโคร่ง 15 ตัว และเสือดาว 1 ตัว รวม 16 ตัว ออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วน หลังสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่ใกล้เคียงทวีความตึงเครียด และอาจเป็นอันตรายหากสัตว์หลุดจากกรง สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์ ดูแลสัตว์ป่ากว่า 500 ตัว บนพื้นที่กว่า 6,000 ไร่ ครอบคลุมเขตรอยต่อของ อ.ภูสิงห์ ขุขันธ์ และขุนหาญ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพาะขยายพันธุ์สัตว์ป่าก่อนคืนสู่ธรรมชาติ ปัจจุบันสัตว์ในความดูแลแบ่งออกเป็นหลายโซน อาทิ โซนสัตว์กีบ เช่น เก้ง กวาง ละมั่ง, โซนสัตว์ปีก เช่น เหยี่ยว อินทรี และโซนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม […]

1 10 11 12 13 14 5,379
...