“ลิณธิภรณ์” ย้ำรัฐบาล “แพทองธาร” เร่งรื้อมรดก “ภูมิใจไทย”

กรุงเทพฯ 23 มิ.ย.-“ลิณธิภรณ์” มอง “ศุภชัย” ร้อนรนเป็นฝ่ายค้าน ลืมอดีต เพื่อไทย เคยเสนอนำกัญชากลับบัญชียาเสพติด ย้ำรัฐบาล “แพทองธาร” เร่งรื้อมรดก “ภูมิใจไทย” ทิ้งกัญชาเสรีทำลายสังคมไทย น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส. บัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายศุภชัย ใจสมุทร แกนนำพรรคภูมิใจไทย พาดพิงว่ารัฐบาลนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ปล่อยปละละเลยต่อการควบคุมกัญชา น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า นายศุภชัย ร้อนรนจะเป็นฝ่ายค้าน จนลืมความจริงและบิดเบือนเป็นความเท็จว่า เกิดอะไรขึ้นบ้างตั้งแต่พรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมรัฐบาล พรรคเพื่อไทยแกนรำรัฐบาล แสดงจุดยืนชัดเจนมาหลายครั้งเสมอต้นเสมอปลายว่า รัฐบาลนี้ไม่สนับสนุนกัญชาเสรี แต่สนับสนุนกัญชาทางการแพทย์ภายใต้การควบคุมเข้มงวด แต่พรรคภูมิใจไทยและพลพรรคทั้งองคาพยพสีน้ำเงิน มีความเห็นต่างกับการแก้กฎกระทรวง เพื่อให้กัญชาเป็นกลุ่มยาเสพติด ที่ผ่านมาเราต้องไม่ลืมว่า ในสมัยพลเอกประยุทธ์ เป็นนายกฯ ใคร พรรคไหนนั่งรัฐมนตรีสาธารณสุข และมีอำนาจผู้ปลดล็อกกัญชาเองกับมือ จนเเกิดปรากฎการณ์คาเฟ่สายเขียวทั่วเมืองเพราะไร้กฎหมายควบคุมคุม ส่วนผลกระทบให้ประเทศไทยจนถึงทุกวันนี้ น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลนายกฯ แพทองธาร จึงจำเป็นต้องเร่งแก้ไขเพื่อปิดช่องว่างดังกล่าวที่พรรคภูมิใจไทยทิ้งไว้ โดยพรรคเพื่อไทยไม่เคยนิ่งนอนใจ และไม่ได้ปล่อยปละละเลยต่อปัญหากัญชาที่กระทบต่อเยาวชนและสังคมไทย รัฐบาลเร่งเดินหน้าออกกฎหมายควบคุมกัญชาให้ชัดเจน […]

“สนธิญา” ยื่นค้านตั้ง “พีระพันธุ์” เป็น รมต.

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-“สนธิญา” ยื่นค้านตั้ง “พีระพันธุ์” เป็น รมต. จ่อยื่นยุบพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด เหตุคลิปเสียงหลุด นายกฯ กระทบจริยธรรม-ผิดกฎหมาย นายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เดินทางมายื่นหนังสือคัดค้านการแต่งตั้งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นรัฐมนตรี เนื่องจากมีเรื่องถูกกล่าวหาที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และมีเรื่องร้องเรียนในองค์กรอิสระ จำนวนกว่า 15 เรื่อง และให้กำลังใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ กรณีการถูกอัดคลิปเสียงการพูดคุยระหว่างสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งไม่เป็นไปตามมารยาทสากล ที่ยอมรับกัน นายสนธิญา กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องความขัดแย้งทางการเมือง แต่เป็นเรื่องของการกระทำผิดเกี่ยวกับบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญ ในเรื่องการถือหุ้นหรือการฝ่าฝืนจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตนยื่นหนังสือและเอกสารต่างๆ เพื่อให้นายกฯ ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่จะดำรงตำแหน่ง และจะยื่นไปให้ประธานองค์การมนตรีด้วย และในวันที่ 25 มิ.ย.2568 ตนจะเดินทางไปที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อยื่นยุบพรรครวมไทยสร้างชาติ กรณีการกระทำที่ขัดต่อพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 20 มาตรา 21 […]

“เสกสกล” ยื่นหนังสือค้านตั้ง “พีระพันธุ์” เป็นรัฐมนตรี

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-“เสกสกล” ยื่นหนังสือถึง นายกฯ ค้านตั้ง “พีระพันธุ์” เป็นรัฐมนตรี ชี้บริหารพรรคล้มเหลว-ถือหุ้นผิดกฎหมาย ต้องเปลี่ยนหัวหน้าพรรคก่อนไม่งั้นเดือดร้อน นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ในฐานะผู้ก่อตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ ยื่นหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขอให้คัดค้านการแต่งตั้งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน เป็นรัฐมนตรี ในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยนายเสกสกล กล่าวว่า หลังจากที่ตนก่อตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ มาเพื่อเป็นพรรคสำรองให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ซึ่งนายพีระพันธุ์ ก็ได้มาขอตน เพื่อจะใช้หาเสียงเลือกตั้ง ตนจึงยินยอมให้ แต่ 2 ปีที่ผ่านมา ตนมีเรื่องที่เป็นห่วงคือ 1.การพยายามแอบอ้างนำชื่อพลเอกประยุทธ์ ที่เป็นดีเอ็นเอ ทำให้เสียหาย ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ลาออกไป และได้เป็นองคมนตรีแล้ว ยุ่งการเมืองไม่ได้ แต่ผู้ใหญ่ในพรรคถึงเหล่าด้อมนายพีระพันธุ์ พยายามเอา พล.อ.ประยุทธ์ มาแอบอ้างตลอดเวลา และสิ่งที่ทำให้ตนทุกข์ใจคือ หัวหน้าพรรค บริหารพรรคไม่เป็นไปตามที่ตกลงกับตนไว้ ว่าจะสร้างพรรคให้เกิดความเข้มแจ้งและเจริญรุ่งเรือง เพื่อเป็นที่พึ่งพาประชาชน […]

“ภูมิธรรม” ระบุกองทัพ พร้อมอพยพคนไทยในตะวันออกกลาง

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-“ภูมิธรรม” ระบุกองทัพเตรียมเครื่องบิน-เส้นทางลำเลียงไว้แล้ว พร้อมช่วยคนไทยในตะวันออกกลาง หากมีเหตุรุนแรง พร้อมอพยพทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงความพร้อมของกองทัพในการอพยพคนไทยในสงครามตะวันออกกลางว่า เราเตรียมความพร้อมไว้นานมากแล้ว พร้อมทั้งหมดแล้ว โดยรู้เส้นทางลำเลียงทั้งหมด รวมถึงระยะเวลาที่จะต้องใช้ พร้อมมีการประเมินสถานที่ในพื้นที่ หากสถานการณ์เป็นอย่างไรจะต้องดำเนินการขนาดไหน แต่สิ่งสำคัญ คือ คนของเราที่อยู่ในประเทศต่างๆ ไม่ได้อยู่แบบนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่ไปทำงาน และมีต้นทุนที่เขาต้องจ่าย อย่างในประเทศอิหร่านมีประมาณ 300 คน ที่มีความลำบาก เพราะเส้นทางลำเลียงใช้เวลาประมาณ 9 ชั่วโมง แต่มีการดูเส้นทางและประสานไว้ทั้งหมดแล้ว ส่วนในประเทศอิสราเอล มีประมาณ 3-4 หมื่นคน แต่เส้นทางในการลำเลียงใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง วันนี้หากถามผู้ที่เป็นแรงงานอยู่ในประเทศต่าง ๆ ว่าเขาอยากกลับหรือไม่นั้น ก็คงไม่อยากกลับ หรือแม้แต่บังคับกลับ ก็ยังไม่อยากกลับ ซึ่งเราได้บอกเขาถึงสถานการณ์ว่าเป็นอย่างไร ย้ำว่าได้เตรียมการไว้ทั้งหมดแล้ว เช่น การนัดหมายเมื่อเกิดเหตุการณ์รุนแรง เมื่อเขาเห็นก็คงพร้อมที่จะเดินทางกลับ และเราก็พร้อมที่จะปฏิบัติการอยู่แล้วร้อยเปอร์เซ็นต์ รวมถึงเครื่องบินก็เตรียมพร้อมไว้แล้วร้อยเปอร์เซ็นต์ในทุกวัน ดังนั้นหากมีเหตุการณ์ที่รุนแรง และต้องมีการอพยพเราจะดำเนินการทันที ส่วนที่กระแสข่าวว่าหากจะต้องอพยพคนจากอิหร่าน […]

“ภูมิธรรม” บอก “ผมรักทุกกระทรวง”

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-“ภูมิธรรม” หัวเราะ หลังถูกถามชื่อนั่ง มท.1 บอก “ผมรักทุกกระทรวง” เชื่อ “เพื่อไทย” คุม ก.มหาดไทย ดันนโยบายลงท้องถิ่นได้กว่าที่ผ่านมา รับเคยคุย นายกฯ เสนอดึงทหารมาช่วยงานกลาโหมเพิ่ม มั่นใจเสถียรภาพรัฐบาล 100% ลั่นไม่กังวล สว. ยื่นถอดถอน นายกฯอิ๊งค์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีหารือร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.) แสดงว่าตำแหน่งในครม. ลงตัวแล้วหรือไม่ โดยนายภูมิธรรมได้หัวเราะก่อนจะกล่าวว่า ให้ไปถามนายกรัฐมนตรี เพราะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.) นายกฯได้คุยกับ หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ตนเชื่อว่าน่าจะจบได้เร็ว ภายในสัปดาห์นี้น่าจะเรียบร้อย เมื่อถามว่าสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย จะมีการปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มในตำแหน่งใดหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ในแต่ละตำแหน่งจะมาหลังจากที่คุยกับพรรคร่วมจบ ซึ่งเมื่อวานนี้(22 มิ.ย.) ก็ชัดเจนแล้วว่าพรรคที่ร่วมรัฐบาลมีพรรคใดบ้าง ขณะที่ในส่วนพรรคเพื่อไทยก็คงมีการหารือกันในลำดับต่อไป ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทยจะได้กี่เก้าอี้หลังจากที่พูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลเสร็จ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เมื่อวานนี้ตนไม่ได้เข้าหาคือด้วย มีเพียงเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และเลขาธิการนายกรัฐมนตรี […]

มทภ.2 รอฟังนายกฯ ยกระดับชายแดนไทย-กัมพูชา

กองทัพบก 23 มิ.ย.-มทภ.2 เผยรอฟังนายกฯ ยกระดับมาตราการชายแดนไทย-กัมพูชาหรือไม่ ชี้อนาคตหากสู้รบ ต้องปิดด่านตลอดแนว ขอคนไทยสามัคคี ในห้วงประเทศวิกฤติ ขอให้มั่นใจทหารอยู่เคียงข้างประชาชน ชายแดนไทยเราปลอดภัยแน่นอน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวภายหลังการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกโดยมี พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานการประชุมว่า สำหรับเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ผบ.ทบ.ท่านนั้นเชื่อมั่น กองทัพภาคที่2 ในการทำหน้าที่อยู่แล้ว โดย ผบ.ทบ. ได้เน้นย้ำในเรื่องความรักความสามัคคี มุ่งมั่นในการทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด และดูแลประชาชนตามแนวชายแดนให้ดีที่สุด เมื่อถามว่าได้มีการทำความเข้าใจกับประชาชน ที่ไปทำกิจกรรมหรือทำสัญลักษณ์แสดงความรักชาติในพื้นที่ หรือไม่เพราะอาจจะเกิดเหตุการณ์เผชิญหน้ากับประชาชนชาวกัมพูชา โดย พล.ท.บุญสิน ระบุว่าเรื่องนี้เราได้มีการชี้แจงมาโดยตลอดการอนุญาตให้ประชาชนได้ขึ้นไปในพื้นที่ต่างๆ เป็นไปตามห้วงเวลาและจะมีการประสานแจ้งให้อีกฝั่งรับทราบเช่นกัน เมื่อถามว่ากรณีที่ทางฝั่งกัมพูชาได้มีการเพิ่มกำลังและอาวุธหนักเข้าพื้นที่เพิ่มเติมขึ้นนั้น พล.ท.บุญสิน ระบุว่า ก็ไม่มีปัญหาเรื่องการทหารถือเป็นการชิงความได้เปรียบ ซึ่งเราพร้อมอยู่แล้วที่จะดูแลสถานการณ์ตามแนวชายแดน และยืนยันว่าไม่มีความประสงค์ที่จะปะทะกันด้วยอาวุธ แต่เป็นเรื่องของยุทธวิธีทางฝั่งกัมพูชา เมื่อถามว่า ส่วนวันนี้ที่นายกรัฐมนตรีได้มีการเรียกหน่วยงานความมั่นคงนั่นอาจมีการยกระดับมาตรการตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาเพิ่มเติมหรือไม่นั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า คงต้องรอให้ได้ข้อยุติจากนายกรัฐมนตรีก่อน ซึ่งขณะนี้ยังไม่รู้ว่าจะออกมาในทิศทางใดนั้น เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดในอนาคตว่าอาจต้องปิดด่านชายแดนไทยกัมพูชาตลอดนั้น แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า […]

“ภูมิธรรม” รอผลทีมไทยแลนด์ออกมาตรการชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-“ภูมิธรรม” เผย นายกฯ เรียกประชุมฝ่ายมั่นคง หารือแก้ปัญหาสแกมเมอร์ บอกขอรอผลประชุมทีมไทยแลนด์ออกมาตรการชายแดนไทย-กัมพูชา ยันงดนำเข้าน้ำมัน-ก๊าซไม่กระทบไทย ย้ำชัด รัฐบาล-กองทัพ เป็นเอกภาพ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมฝ่ายความมั่นคง ว่า เป็นการหารือเรื่องสแกมเมอร์ เพื่อเตรียมประชุมติดตามมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติในช่วงบ่ายวันนี้ (23 มิ.ย.) โดยจะเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุม เนื่องจากพบว่าสแกมเมอร์ในฝั่งเมียนมาลดลง ส่วนเรื่องมาตรการชายแดนไทย – กัมพูชา เป็นเรื่องของทีมไทยแลนด์ที่จะพิจารณา ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการประชุม แต่ในวงประชุมเมื่อเช้าให้ความสำคัญกับสแกมเมอร์ เพราะขณะนี้ถูกมองว่าที่กัมพูชามีปัญหานี้ค่อนข้างมาก จึงต้องประชุมเพื่อกำหนดมาตรการต่อไป ส่วนกรณีที่ผู้นำกัมพูชาพยายามเขย่าว่ารัฐบาลไปทาง ทหารไปทาง นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่มี เป็นไปในทางเดียวกันหมด ยืนยันว่า มีความเป็นเอกภาพ และพูดคุยกันตลอด ซึ่งในวงประชุมก็มี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมี พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี […]

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

“อังคณา” แนะ 2 ประเทศคุยทวิภาคีเป็นทางการ หาทางออก

รัฐสภา 23 มิ.ย.-“อังคณา” ชี้ถ้าไม่มีคลิปเสียง “แพทองธาร” คุย “ฮุนเซน” ไทยคงยังไม่ปิดด่านจนกัมพูชาใช้มาตรการตอบโต้แรง แนะ 2 ประเทศคุยทวิภาคีอย่างเป็นทางการเพื่อหาทางออก นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงสถานการณ์ความขัดแย้งไทยกัมพูชา ที่ขณะนี้มีการยกระดับมาตรการปิดด่านพรมแดนว่า เป็นการที่กัมพูชาไม่นำเข้าซื้อขายสินค้าการ ซึ่งการปิดด่านกระทบทั้ง 2 ประเทศย่อมได้รับผลกระทบอยู่แล้ว แต่การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมยังคงเป็นไปตามปกติเพราะมีช่องทางอยู่แล้ว แต่ในส่วนของไทยเองกำลังรณรงค์ให้คนไทยซื้อสินค้าให้มากขึ้น ในขณะที่กัมพูชาก็เช่นเดียวกันที่รณรงค์ในเรื่องของอาหารสด ส่วนตัวจึงเห็นว่า ควรหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรทััง 2 ฝ่าย ไม่ให้ได้รับผลกระทบมากนัก รวมถึงเรื่องการศึกษาและการสาธารณสุข นางอังคณา กล่าวว่า ทั้ง 2 ประเทศจำเป็นต้องมีการประชุมทวิภาคีร่วมกัน แต่สิ่งที่น่าเสียดายที่สุด คือการที่นายกรัฐมนตรีของไทยต่อสายพูดคุยกับสมเด็จฮุนเซนของกัมพูชา จึงทำให้ความสง่างามของนายกรัฐมนตรีไทยที่ลดลงและนำมาซึ่งการตอบโต้ เพราะหากไม่มีคลิปเสียงการสนทนาของนายกฯ กับสมเด็จฮุนเซน ไทยอาจจะยังไม่ปิดด่านโดยทันทีอย่างตอนนี้ ซึ่งจะไม่พูดในรายละเอียดของคลิปเสียงว่าสมควรไม่สมควร แต่จากคลิปเสียงดังกล่าวทำให้ไทยมีความเข้มงวดในการตอบโต้ ในขณะที่กัมพูชาก็มีมาตรการตอบโต้ที่รุนแรงมากกว่า แต่ไทยซื้อสินค้าจากกัมพูชาน้อยกว่าที่กัมพูชาซื้อจากไทย ซึ่งผลกระทบที่เกิดกับเกษตรกรผู้ส่งออกก็เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังเช่นเดียวกับเรื่องของพลังงาน ที่หากไม่มีการส่งออกน้ำมัน จะได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด ซึ่งส่วนตัวก็อยากมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการให้มากกว่านี้.-319.-สำนักข่าวไทย

สว.อังคณา มองโผ ครม.อิ๊งค์2 ประชาชนสิ้นหวังกันต่อไป

รัฐสภา 23 มิ.ย.-สว.อังคณา บอกไม่ตื่นเต้น โผ ครม.อิ๊งค์2 ประชาชนสิ้นหวังกันต่อไป มีแต่หน้าเก่า-สมประโยชน์ คนดีๆ ไม่อยากมาร่วม จี้ นายกฯ ลาออกเปิดทางคนใหม่มีความสามารถ ทู่ซี้อยู่ได้ แต่ไม่สง่างาม นางอังคณา นีละไพจิตร สว. กล่าวถึงโผ ครม. อิ๊งค์2 ว่า ไม่รู้สึกตื่นเต้น ไม่รู้สึกมีความหวัง ว่าสถานการณ์ภายในประเทศจะดีขึ้น หรือความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านจะดีขึ้น เพราะไม่มีอะไรใหม่ๆ ไม่มีคนที่เชื่อมั่นว่าจะเข้ามาแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดูแล้วไม่มีคนใหม่แต่มีคนที่น่าจะสมประโยชน์กัน ระหว่างพรรคการเมืองมากกว่า อาจจะไม่ใช่คนที่ดีที่สุดที่แต่ละพรรคควรจะส่งมา ขอพูดตรงๆว่าไม่ได้มีความหวัง ส่วนการปรับ ครม.ใหม่ครั้งนี้ จะกู้วิกฤต หรือซ้ำเติมวิกฤต นางอังคณา มองว่า การที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บอกว่าไม่ลาออก ไม่ยุบสภา สิ่งเดียวที่ทำได้คือต้องพยุงไว้ และเมื่อพยุงไป ปัญหาก็คือ คนดีๆ มีความสามารถมีความเชี่ยวชาญ เป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่อยากมาร่วมกับรัฐบาล เพราะมองว่ารัฐบาลดูไม่มีเสถียรภาพ แต่ส่วนตัวยังมองอีกแง่หนึ่งว่ารัฐบาลอาจจะประคองจนถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ผ่าน […]

นายกฯ เข้าทำเนียบ หารือทีมมั่นคง-เศรษฐกิจ

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-นายกฯ เข้าทำเนียบ หารือทีมงานด้านความมั่นคง-ทีมเศรษฐกิจ คาดประเมินผลกระทบมาตรการชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมติดตามสถานการณ์สงครามอิสราเอล-อิหร่าน ช่วงเช้าวันนี้ (23 มิ.ย.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าปฏิบัติงาน ในเวลา 09.12 น. โดยก่อนที่นายกรัฐมนตรีเดินทางถึง มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม, พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) มารออยู่ก่อนหน้า โดยมีการเรียกทีมหน่วยงานด้านความมั่นคงหารือกับหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ หลังจากที่มีการออกมาตรการปิด-เปิดด่านชายแดนไทยกัมพูชา ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าของไทย จึงจะต้องมีการพิจารณาให้รอบคอบ ส่วนหลังจากนี้จะมีการยกระดับมาตรการตอบโต้หรือไม่นั้น รายงานข่าวข่าว ระบุว่า ขอรอการหารือร่วมกับฝ่ายเศรษฐกิจก่อนว่าจะทำได้มากน้อยเพียงใด หรือจะส่งผลกระทบกับส่วนใดบ้าง แต่ยืนยันในจุดยืนว่า จะต้องยึดเรื่องความมั่นคงเป็นหลัก และจะต้องลดผลกระทบทางเศรษฐกิจด้วย รายงานข่าวยังระบุอีกว่า ขณะนี้เองหน่วยงานด้านความมั่นคงต้องรับมือจากทั้งเรื่องปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา รวมไปถึงปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ซึ่งกองทัพต้องเตรียมความพร้อมในการเคลื่อนย้ายประชาชน หากสถานการณ์ถึงจุดที่ต้องเคลื่อนย้ายประชาชนคนไทย โดยกองทัพไทยมีการเตรียมความพร้อมเครื่องบินของกองทัพ หากสถานการณ์วิกฤติสามารถยกเครื่องได้ภายใน 1 ชั่วโมงหากมีคำสั่ง ขณะที่ในเวลา 13.30 […]

กต.ออกแถลงการณ์ไทยกังวลความตึงเครียดอิสราเอลกับอิหร่าน

ก.ต่างประเทศ 23 มิ.ย.-กต.ออกแถลงการณ์ไทยกังวลความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน เรียกร้องทุกฝ่ายยุติการใช้ความรุนแรง กระทรวงการต่างประเทศ ออกแถลงการณ์ระบุว่า ประเทศไทยห่วงกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการขยายตัวของความขัดแย้งและการโจมตีที่ยกระดับโดยฝ่ายต่างๆ ซึ่งเป็นภัยคุกคามอย่างร้ายแรงต่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคและเสี่ยงที่จะยกระดับเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งเป็นอันตรายและส่งผลกระทบต่อประชาชนพลเรือนจำนวนมาก ประเทศไทยขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการใช้ความรุนแรงโดยทันที โดยให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี สอดคล้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ กฎบัตรสหประชาชาติ และกฎหมายมนุษยธรรม และเพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสียเพิ่มเติม กระทรวงการต่างประเทศร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างแข็งขัน ภายใต้ศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน (Rapid Response Center: RRC) ในการให้ความช่วยเหลือให้คนไทยเดินทางออกจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วนและปลอดภัย.-312.-สำนักข่าวไทย

1 76 77 78 79 80 5,575
...