ข้อห้าม..บุคคลลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.

รัฐธรรมนูญปัจจุบันได้กำหนด “ข้อห้าม” ไว้ไม่ให้บุคคลลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่เคยทุจริตต่อหน้าที่ ถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หรือเคยเป็นบุคคลล้มละลาย แต่ในรัฐธรรมนูญได้เพิ่มเติมข้อห้ามไว้

คนไทยในลอนดอนขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร 28 ม.ค.นี้

สถานทูตไทย ณ กรุงลอนดอนแจ้งคนไทยในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร 28 ม.ค.นี้

ศึกเลือกตั้ง 62 : จับตาพรรคการเมืองส่งชื่อแคนดิเดตนายกฯ

กกต.ยืนยันให้ผู้สมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งนี้ ยื่นหลักฐานการเสียภาษีนับตั้งแต่ปี 61 ย้อนหลังไป 3 ปี ขณะที่หลายพรรคการเมืองเริ่มเปิดรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีกันบ้างแล้ว ติดตามในคอลัมน์ “ศึกเลือกตั้ง 62”

รธน.กำหนดบุคคลที่ห้ามลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.

รัฐธรรมนูญปัจจุบันได้กำหนดข้อห้ามไว้ไม่ให้บุคคลลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่เคยทุจริตต่อหน้าที่ ถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หรือเคยเป็นบุคคลล้มละลาย แต่ในรัฐธรรมนูญได้เพิ่มเติมข้อห้ามไว้ มีอะไรบ้าง

นายกฯ ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ

นายกรัฐมนตรี ถกยุทธศาสตร์ชาติเตรียมพร้อมงานมหกรรมการสร้างการตระหนักรู้ หวังรัฐบาลหน้าทำตามกรอบ ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน

ตลาดทุนอยากให้พรรคการเมืองมีนโยบายระยะยาว

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 25 ม.ค.-  นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เชื่อว่า  การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น จะมีเม็ดเงินสะพัดอยู่ที่ 50,000 บาท และตลาดทุนจะมีความคึกคัก จากเงินทุนที่จะไหลเข้ามากขึ้นหลังจากนี้ ที่ 100,000 ล้านบาท หลังจากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีเงินทุนไหลออกกว่า 600,000 ล้านบาท และในปีนี้ การไหลเข้าของเงินทุน เชื่อว่าจะเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้ง  “ตลาดทุนไม่กังวลว่า พรรคการเมืองใดจะเข้ามาเป็นรัฐบาล แต่มีความเป็นห่วงเสถียรภาพ หากสามารถเดินหน้าได้อย่างมีเสถียรภาพ สานต่อนโยบายต่างๆ ด้านเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง   ตลาดทุนสามารถรับได้  ไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาล  แต่อยากให้ทำนโยบายระยะยาว และเห็นความสำคัญของตลาดทุนมากขึ้น เพราะตลาดทุนถือเป็นแหล่งระดมทุนของประเทศ หากทำให้เข้มแข็ง  เศรษฐกิจของประเทศก็จะได้รับประโยชน์ตามไปด้วย” นายไพบูลย์      ..- สำนักข่าวไทย  

“กิตติรัตน์” ระบุ พท.พร้อมสานต่อนโยบายรัฐบาลปัจจุบันที่เป็นประโยชน์

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 25 ม.ค.-  นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีนโยบายในการดูแลเศรษฐกิจของประเทศ 3 ด้าน คือ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และขยายโอกาส  ขณะนี้ นโยบายเศรษฐกิจของประเทศจัดทำได้เกือบ 100% แล้ว และโครงการต่างๆ ของรัฐบาลปัจจุบันที่เป็นประโยชน์  พรรคก็พร้อมจะสานต่อ แต่อาจจะต้องปรับปรุงให้เหมาะสม และเกิดประโยชน์มากขึ้น เช่น โครงการ EEC ถือเป็นโครงการที่ดี แต่เห็นว่าบางส่วนให้ประโยชน์กับผู้ประกอบการรายใหญ่มากเกินไป ผู้ประกอบการขนาดกลางและคนในพื้นที่อาจได้รับผลกระทบ ไม่สามารถแข่งขันได้ จึงจำเป็นต้องปรับให้มีความสมดุล  “นอกจากนี้ พรรคยังให้ความสำคัญกับเรื่องทิศทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ทั้งการส่งออกการลงทุนของภาคเอกชน รวมถึง การบริหารจัดการงบประมาณของรัฐบาล ที่ต้องรักษาวินัยทางการเงินการคลัง ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม” นายกิตติรัตน์ กล่าว     ..- สำนักข่าวไทย  

1 4,654 4,655 4,656 4,657 4,658 5,690
...