“นิพนธ์” ยันมีเลือกตั้งท้องถิ่นแน่ ก่อน ธ.ค.นี้
“นิพนธ์” รมช.มหาดไทย ยืนยันก่อนธันวาคมปีนี้ มีเลือกตั้งท้องถิ่นแน่นอน ขอรอประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งลงในราชกิจจาฯ ส่งสัญญาณเตรียมความพร้อม
“นิพนธ์” รมช.มหาดไทย ยืนยันก่อนธันวาคมปีนี้ มีเลือกตั้งท้องถิ่นแน่นอน ขอรอประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งลงในราชกิจจาฯ ส่งสัญญาณเตรียมความพร้อม
“สุทิน” แนะปรับ ครม.ศก. ไม่เอานักธนาคาร เศรษฐศาสตร์ นั่งครม.ศก. ชี้ปรับที่ตัวนายกฯ
“อิทธิพล” เผยวันนี้ ครม.หารือกรณีทหารอียิปต์-เด็กหญิงติดเชื้อโควิด-19 ก่อนนำเข้าที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ สัปดาห์นี้ ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก ใช้ชีวิตตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข
ทำเนียบรัฐบาล 14 ก.ค.-“เทวัญ” เผยช่องส่องผีเตรียมขอขมาย่าโม-ย่าบุญเหลือ 19 ก.ค.นี้ สั่งตร.ดูแลความปลอดภัย หลังชาวโคราชไม่พอใจ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) เปิดเผยว่าได้รับแจ้งจากพิธีกรรายการช่องส่องผีว่าจะไปขอขมาย่าโม –ย่าบุญเหลือวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ จากกรณีเสนอเนื้อหารายการไม่เหมาะสมและสร้างความไม่พอใจให้กับชาวโคราช แต่ยังไม่ทราบสถานที่แน่ชัดว่าจะไปที่วัดศาลาลอยหรืออนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เบื้องต้น ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดูแลความปลอดภัยให้ เพราะมีความเป็นห่วงหลังจากชาวโคราชแสดงความไม่พอใจ “ส่วนการตรวจสอบรายการที่จะไปถ่ายทำในวัดต่าง ๆ ได้ประสานงานสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติทุกจังหวัด ให้ทำความเข้าใจกับวัดว่าหากส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ความรู้ทางประวัติศาสตร์ก็ไม่มีปัญหา แต่หากเป็นรายการที่เกี่ยวข้องกับผี เจ้าอาวาสต้องพิจารณาให้รอบคอบ เหมาะสม เนื่องจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติไม่มีอำนาจสั่งห้าม และต่อจากนี้จะไปพูดคุยกับพระชั้นผู้ใหญ่เพื่อหาแนวทางต่อไป” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย
ทำเนียบฯ 14 ก.ค.- นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวถึง กระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีเป็น 1 ในผู้ที่อาจถูกปรับออก ว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรียังไม่ได้ส่งสัญญาณ คาดว่าหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย จะมีการประเมินอีกครั้ง และว่า ไม่มั่นใจว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นปัจจัยหนึ่งในการปรับเปลี่ยน หรือเป็นปัจจัยให้มีการพิจารณาเพิ่มเติมหรือไม่ .- สำนักข่าวไทย
กรุงเทพฯ 14 ก.ค.-ผอ.สนามบินอู่ตะเภา แจงขั้นตอนคัดกรองโรค ยันทำตามขั้นตอน PUI ก่อนส่งเข้าที่พัก มี 31 คน หนีออกมาเอง 1 โยนให้ถามรายละเอียดศบค. พล.ร.ท.กฤชพล เรียงเล็กจำนงค์ ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานอู่ตะเภา กล่าวถึงกรณีทหารอียิปต์เข้าพักโรงแรมในจังหวัดระยองระหว่างเครื่องบินแวะพักเติมน้ำมันและตรวจพบติดเชื้อโควิด -19 ว่า ขั้นตอนการปฏิบัติสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาในท่าอากาศยานอู่ตะเภาต้องปฏิบัติการตามมาตรการที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 : ศบค.) กำหนด โดยการท่าอากาศยานอู่ตะเภาจะมีศูนย์ปฏิบัติการที่แต่งตั้งขึ้นโดย ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามคำสั่งของศบค. ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมลงนามเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดออกกฎ กติกา การบริหารจัดการต่างๆ “อู่ตะเภามีด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ มีคณะทำงานที่มีเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขปฏิบัติงานร่วมกับทางตม. คัดกรองโรคหรือสอบสวนโรค PUI หากไม่พบผู้ต้องสงสัยหรือไม่มีผู้ใดพฤติการณ์เสี่ยงต่อการติดต่อของโรค หรือไม่พบภาวะผิดปกติใดๆ ขั้นตอนก็จบลง และส่งต่อไปเข้าที่พัก ส่วนที่รับผิดชอบคือสาธารณสุขจังหวัดระยอง เพื่อรอการประเมินการคัดกรองทาง State Quarantine รับไป ทั้งนี้ ทหารคณะดังกล่าวมีทั้งหมด 31 คน คาดว่ามีเพียงหนึ่งคนที่หนีออกมาข้างนอกระหว่างเข้าพัก แต่ข้อมูลที่ถูกต้องขอให้ตรวจสอบกับทาง ศบค.” […]
ระบุ ทอ.อนุมัติ หลังกระทรวงการต่างประเทศส่งให้พิจารณาด้านความมั่นคงปลอดภัยทางการทหาร – พันธะทางทหารที่มีต่อกัน โดย สถานทูตอียิปต์-กต.จัดการเรื่อง State Quarantine
ผอ.สนามบินอู่ตะเภา แจงขั้นตอนคัดกรองโรค ก่อนพบทหารอียิปต์ ติดเชื้อ ยันทำตามขั้นตอน PUI ในการตรวจคัดกรอง พร้อมเผยทหารอียิปต์ที่ติดโควิด หนีออกมาเอง
ร.112 จัดพิธีรับรถยานเกราะล้อยาง STRYKER หลัง ทบ. อนุมัติให้บรรจุ รถยานเกราะล้อยาง STRYKER จำนวน 20 คัน เข้าประจำการ
โฆษกกองทัพบก ยันทหารอียิปต์ติดโควิด-19 ไม่มีภารกิจเกี่ยวข้องกับกองทัพบก
“รังสิมันต์ โรม” ถามรัฐบาลกรณีทหารอียิปต์ติดโควิด-19 เกิดจากความหย่อนยานหรือไม่ ชี้ใช้อำนาจต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ประชาชนต้องแบกรับความเดือดร้อน
กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส เลขาธิการกลุ่มเพื่อไทยพลัส และโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาการข่มขืนกระทำชำเราและการล่วงละเมิดทางเพศ ให้สัมภาษณ์ถึงการช่วยเหลือผู้ถูกกระทำการข่มขืน และการล่วงละเมิดทางเพศ ว่า ปัจจุบันผู้ถูกกระทำชำเราข่มขืนในประเทศไทยมีมากถึงปีละ 30,000 คดี ซึ่งช่องทางการช่วยเหลือประชาชนด้านการละเมิดทางเพศ ยังไม่มีอย่างชัดเจน และผู้ถูกกระทำจำนวนมากก็ไม่มีที่พึ่งจากภาครัฐ โดยต้องไปหาความช่วยเหลือเอง เช่น ตำรวจ แพทย์ นิติเวช จิตแพทย์ หรือมูลนิธิต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งตนมองว่าไม่ถูกต้อง หากผู้เสียหาย หรือผู้ถูกกระทำ ต้องเป็นผู้วิ่งหาความช่วยเหลือเอง ทั้ง ๆ ที่เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของรัฐ จึงได้เสนอถึงแนวคิดการตั้งสายด่วนฮอทไลน์ต่อกรรมาธิการฯ เพื่อส่งข้อเสนอไปยัังรัฐบาลต่อไป.-สำนักข่าวไทย