fbpx

ไทยพบผู้ป่วยใหม่ 1ราย มาจากญี่ปุ่น

สถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศไทย พบผู้ป่วยรายใหม่ 1 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 3,447 ราย หายป่วยแล้ว 3,286 ราย เสียชีวิตสะสม 58 ราย

มท.สั่งการผู้ว่าฯ เฝ้าระวังแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองสกัดโควิด

กรุงเทพฯ 9 ก.ย.-มหาดไทยสั่งการผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด เฝ้าระวัง ติดตาม ค้นหาแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย สกัดกั้นการแพร่ระบาดโควิด-19 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิค-19) กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) เปิดเผยว่า ด้วยปรากฏสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในประเทศเพื่อนบ้านทางด้านตะวันตกของประเทศไทย และอาจมีการแพร่ระบาดเข้ามาในประเทศไทย โดยผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งมิได้ผ่านมาตรการคัดกรองโรคตามที่ประเทศไทยกำหนด เพื่อป้องกันและสกัดกั้นมิให้เกิดการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งจะนำไปสู่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการ 3 มาตรการเข้มข้น ได้แก่ 1.ให้จังหวัดชายแดนที่มีพื้นที่ติดต่อกับประเทศเมียนมา เพิ่มความเข้มข้นในการเฝ้าระวัง ไม่ให้มีการลักลอบเข้ามาในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและไม่ผ่านกระบวนการคัดกรองโรค 2.ให้จังหวัดที่มีพื้นที่ติดต่อกับชายแดน ซึ่งมีเส้นทางคมนาคมทั้งสายหลัก สายรอง ต่อเนื่องกัน จัดตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด ตรวจตรา เฝ้าระวัง และสกัดกั้นผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย หากพบ ให้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายและมาตรการทางด้านสาธารณสุข และ 3.ให้ทุกจังหวัดบูรณาการส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ติดตามค้นหาแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย ทั้งในสถานประกอบการและสถานที่ทำงานที่มีการใช้แรงงานต่างด้าว หากพบให้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายและมาตรการทางด้านสาธารณสุข รวมทั้งให้ประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนในหมู่บ้าน/ชุมชน ช่วยกันเฝ้าระวัง สอดส่อง หากพบหรือมีบุคคลต้องสงสัยว่าเป็นแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย ให้แจ้งกำนัน […]

เรื่องนี้มีคำถาม : โรงเรียนขยายโอกาส จ.แพร่ เดือดร้อนหนัก

ผอ.โรงเรียนขยายโอกาส ในพื้นที่ จ.แพร่ วอนขอรับการสนับสนุน เนื่องจากทางโรงเรียนยังขาดแคลนหลายอย่าง หวังให้นักเรียนได้มีโอกาสที่ดีในการศึกษา

สภาฯ เปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ

ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาญัตติเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อ ครม. เรื่องวิกฤติทางเศรษฐกิจและวิกฤติทางการเมือง

เผยค่าบริการอินเทอร์เน็ตบ้านของไทยต่ำสุดอันดับ3 ของโลก ขณะที่ความ เร็วครองอันดับหัวแถว

กรุงเทพฯ 9 ก.ย. กสทช.เผยผลทดสอบความเร็ว-ราคาอินเทอร์เน็ตไทยผงาดที่ 1และ2ของอาเซียน ขณะราคาเน็ตบ้านต่ำสุดราคาต่อหน่วยเป็นที่ 3 ของโลก อดีตเลขา กสทช.ชี้โอกาสไทยเร่งปรับโครงสร้างรับเศรษฐกิจดีจิทัล ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) การสำรวจของ Speedtest by Ookla เว็บไซต์ที่ทำการวัดความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ให้บริการมาตั้งแต่ปี 2549 (2006) โดยทำการวัดความเร็วอินเทอร์เน็ตไปมากกว่า 30,000 ล้านครั้งนับแต่ก่อตั้งบริษัท โดยมีผู้ใช้งานทั่วโลกมากกว่า 10 ล้านคนต่อวันนั้น  ล่าสุดเวปไซต์ดังกล่าว ได้เผยแพร่รายงาน ความเร็วในการใช้งานอินเทอร์เน็ตประจำเดือน กรกฎาคม 2563 ซึ่งพบว่าประเทศไทยมีอินเทอร์เน็ตมือถือ และอินเตอร์เน็ตบ้านที่มีความเร็วเป็นอันดับ 59 ของโลก และเป็นอันดับ 2 ของอาเซียนรองจากสิงคโปร์ (อันดับ 13 ของโลก) โดยมีความเร็วในการใช้งานเฉลี่ย 32.87 Mbps และยังพบด้วยว่า ความเร็วอินเตอร์เน็ตบ้านในไทยนั้น ยังเร็วเป็นอันดับสามของโลกอีกด้วย โดยมีความเร็วเฉลี่ย 171.45 Mbps ขณะที่ The Economist Intelligence Unit  หน่วยงานวิจัยของนิตยสารระดับโลก Economist ที่ร่วมกับ Facebook ได้จัดทำผลการศึกษาการใช้งาน และการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตของประเทศต่างๆกว่า 100 ประเทศทั่วโลกในปี 2020  ภายใต้ดรรชนีชี้วัดInclusive Internet Index ที่วัดผลของอินเตอร์เน็ต ในสี่ด้านคือการเข้าถึงการใช้งานในด้านโครงสร้างพื้นฐาน(Availability) การแข่งขันและราคาการใช้งานอินเตอร์เน็ตเมื่อเทียบรายได้ประชากร (Affordability) ปริมาณและความหลากหลายของข้อมูล(Relevancy) และความสามารถและความปลอดภัยที่เอื้อในการใช้งาน Readiness  ซึ่งพบว่าดรรชนี Inclusive Internet Index ของไทยได้คะแนน 74.8 เป็นอันดับที่ 39 ของโลก และเป็นอันดับ 8 ของกลุ่มประเทศที่มีรายได้ปานกลางค่อนข้างสูง ในส่วนของอันดับในด้านการเข้าถึงการใช้งานและราคาของการใช้งานอินเตอร์เน็ตนั้นประเทศไทยมีความโดดเป็นอันดับ 2 ของชาติอาเซียนรองจากสิงคโปร์ แต่เป็นอันดับ 1 ในด้านความถูกของราคาการใช้งานอินเทอร์เน็ตเมื่อเทียบกับรายได้ของประชากร ทั้งนี้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) มองว่า ความสำเร็จดังกล่าวถือเป็นความสำเร็จของบริการโครงสร้างพื้นฐานด้านอินเทอร์เน็ต ทั้งในส่วนของความครอบคลุม การเข้าถึงบริการโครงสร้างพื้นฐานของประชาชน และโดยเฉพาะราคาของการใช้งานอินเทอร์เน็ตเมื่อเทียบรายได้ประชากรที่ประเทศไทยต่ำเป็นอันดับ 1 เมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่มอาเซียนด้วยกันนั้น ถือเป็นผลงานความสำเร็จของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)ที่มีการผลักดันให้ประเทศมีการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ต ทั้งในส่วนของ Mobile Operator และ Fixed line Operator และโดยเฉพาะการที่กสทช.เดินหน้าเปิดประมูลคลื่นความถี่  5จี ไปเมื่อต้นปี 2563 ที่มีส่วนทำให้ประเทศไทยสามารถเปิดให้บริการ 5 จีในเชิงพาณิชย์ได้ก่อนประเทศอื่นในภูมิภาคนี้         “ผลสำเร็จของการประมูล 5 จีดังกล่าว ไม่เพียงจะทำให้คนไทยเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตที่เป็นบริการพื้นฐานในราคาที่ถูกแล้ว ยังทำให้รัฐบาลสามารถใช้โครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวในการเป็นเครื่องมือสกัดกั้น และควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 อย่างได้ผลอีกด้วย จนทำให้ประเทศไทยได้รับคำชื่นชมจากนานาประเทศ ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ อดีตเลขาธิการ กสทช.กล่าวว่า ในอดีตไทยอาจล้าหลังด้านเทคโนโลยี 3 จีและ 4 จีเพราะเราพัฒนา3 จีได้ช้ากว่าประเทศอื่นนับ 10 ปี 4 จีก็ล่าช้าไปกว่า 5-6 ปีแต่ในส่วนของคลื่น 5 จีนั้นไทยเราสามารถวางโครงสร้างพื้นฐาน58 จีและเปิดให้บริการได้เร็วกว่าประเทศอื่นในภูมิภาคนี้ จึงเป็นโอกาสของประเทศที่จะเร่งพัฒนาแพลตฟอร์มและปรับโครงสร้างบริการ OTT 5G ของประเทศ ให้ก้าวทันโลก เพื่อรองรับเศรษฐกิจยุคดิจิทัลที่กิจกรรมทุกอย่างจะขับเคลื่อนบนมือถือและสมาร์ทโฟน กิจกรรมทุกอย่างจะขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี “เมื่อก่อนรัฐบาลอาจให้ความสำคัญของกระทรวงคมนาคมว่าเป็นกระทรวงเศรษฐกิจเกรดเอ แต่โลกดิจิทัลที่ทุกสิ่งทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยระบบดิจิทัลนั้นกระทรวงดีอีเอสถือเป็นกระทรวงที่น่าจะมีบทบาทสูงสุดในการขับเคลื่อนประเทศเพราะกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การเงิน โครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจทุกอย่างจะขับเคลื่อนผ่านเทคโนโลยีทั้งสิ้น”นายฐากร กล่าว-สำนักข่าวไทย.

มารดา “พล.อ.ประวิตร” เสียชีวิตอย่างสงบในวัย 99 ปี

กรุงเทพฯ 9 ก.ย.-  นางสายสนี วงษ์สุวรรณ มารดาของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เสียชีวิตอย่างสงบ ในวัย 99 ปี ด้วยโรคไต และโรคชรา ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 8 กันยายน  ที่ผ่านมา กำหนดพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน 2563 เวลา 1700 น. ที่วัดโสมนัสราชวรวิหาร ศาลา 5 และสวดพระอภิธรรมศพเป็นเวล  7 วัน ตั้งแต่วันที่ 10 -16 กันยายน 2563 จากนั้น จะบรรจุศพเป็นเวลา 100 วัน ก่อนดำเนินการพิธีพระราชทานเพลิงต่อไป .- สำนักข่าวไทย

ธอส. เตรียมเปิดธุรกิจตัวกลางเปลี่ยนมือบ้านมือสอง

ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) เพิ่มทางเลือกให้ประชาชนที่ต้องการซื้อบ้านมือสอง จัดทำ “โครงการ GH Bank Market Place ตลาดกลางบ้านมือสอง” เพื่อเปิดให้ประชาชนทั่วไป รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

เจดีเอกลับมาผลิตแล้ว

กฟผ. สรุปผลการบริหารจัดการระบบไฟฟ้าในช่วงแหล่งก๊าซพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (JDA-A18) หยุดจ่ายก๊าซฯ ปี 2563 ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นคงเพียงพอ ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบไฟฟ้าภาคใต้

รู้ก่อนเลี้ยง! สุนัขพิตบูล

ใครหลายๆคนแค่ได้ยินชื่อสุนัขสายพันธุ์พิตบูลอาจจะนึกถึงความดุดันและโหดร้ายของสุนัขสายพันธุ์นี้ ขณะเดียวกันสุนัขสายพันธุ์นี้ก็มีความซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อเจ้าของเป็นอย่างมาก เราจะพาทุกๆคนไปทำความรู้จักกับสุนัขสายพันธ์ุนี้กัน

ดาว – กสอ. หนุน SMEs นำ IoT คุมการผลิต

โครงการดาว เพื่ออุตสาหกรรมยั่งยืน ปีที่ 9 ประกาศความร่วมมือ​ กสอ. ยกระดับ SME ไทยสู่อุตสาหกรรม 4.0 นำระบบเทคโนโลยี IoT คุมการผลิต

1 405 406 407 408 409 461
...