หุ้นไทยร่วง 21 จุด บาทอ่อนค่า รอการเมืองชัดเจน

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – บาทอ่อนค่า หุ้นร่วง ปัจจัยรุมเร้าทั้งเรื่องต่างประเทศและการเมืองไทย โดยหุ้นไทยเปิดตลาดเช้าวันนี้ (19 มิ.ย.) ดัชนี SET ดิ่งลงทันที 11.87 จุด หรือ -1.08% ลงมาอยู่ที่ 1,082.71 จุด (ณ เวลา 10.01 น.) และบางช่วงดิ่งลงไปถึง 21 จุด ดัชนีเคลื่อนไหวราว 1,073 จุด เมื่อเวลา 10.59 น. นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ ปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากสัญญาณทางการเมืองที่ร้อนแรงมากจากกรณีคลิปเสียง และพรรคภูมิใจไทยออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้กดดันตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง ในวันนี้จึงต้องจับตาท่าทีของพรรคเพื่อไทยว่าจะออกมาอย่างไร ขณะที่ผลประชุม FED เมื่อคืนมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 4.25-4.50% ตามคาด และหากประเมินจาก Dot Plot บ่งชี้ว่าในช่วงที่เหลือของปีมีโอกาสลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจมีการปรับลดคาดการเติบโตของ […]

พาณิชย์ลุยใต้ ตรวจสถานการณ์ปาล์มราคาร่วง

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – ก.พาณิชย์ ลงพื้นที่แหล่งผลิตปาล์มภาคใต้ ตรวจสถานการณ์ปาล์มน้ำมัน หลังเกษตรกรเดือดร้อนจากราคาผลผลิตตกต่ำ พร้อมเร่งมาตรการรับมือ ชูแนวทาง “ตัดปาล์มสุก” เพิ่มมูลค่าให้เกษตรกร นายคุณากร ปรีชาชนะชัย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่จังหวัดตรัง กระบี่ และสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 17–18 มิถุนายน 2568 เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ปาล์มน้ำมันในพื้นที่จริง พบว่า ปริมาณผลปาล์มยังสูง แต่เริ่มมีแนวโน้มลดลงแล้ว โดยโรงงานสกัดส่วนใหญ่เดินเครื่องเต็มกำลัง 24 ชั่วโมง แต่บางแห่งต้องหยุดดำเนินการ เนื่องจากเกิดมลพิษจากเครื่องจักรเก่า และเกิดเหตุขัดข้องจนไม่สามารถผลิตต่อได้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัญหาระยะสั้นๆ 1-2 วัน ก็จะสามารถรับซื้อได้ตามปกติ นายคุณากร กล่าวว่า ได้พบกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ผู้ผลิตปาล์มคุณภาพ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ นำไปจำหน่ายได้ราคา กก.ละ 5.30–5.40 บาท โดยกลุ่มเกษตรกรที่ตัดปาล์มสุกคุณภาพดีจะได้ราคาสูงขึ้น ส่วนปาล์มของเกษตรกรทั่วไปหากนำไปจำหน่ายที่โรงสกัดจะได้รับราคาไม่ต่ำกว่า กก.ละ 5.00 -5.20 บาท ตามคุณภาพ ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่พาณิชย์ลงมากำกับดูแลให้เกิดความเป็นธรรมกับเกษตรกรและเป็นราคาที่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่ได้รับเพียง […]

พาณิชย์หารือ CPF ปรับตัวรับมือกำแพงภาษีสหรัฐฯ

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย.- “พาณิชย์หารือ CPF” เผยแนวทางอุตสาหกรรมอาหารส่งออกไทย ปรับตัวรับมือกำแพงภาษีสหรัฐฯ เอกชนชี้ไทยยังได้เปรียบด้านอาหาร หนุนรัฐเดินหน้าเจรจาแก้อุปสรรคการค้า โดยซีพีเอฟยืนยันผลดำเนินการยังแข็งแกร่ง ยังไม่กระทบกรณีขัดแย้งไทย-กัมพูชา นายผกายเนติ์ เล่งอี้ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าได้หารือกับนายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ถึงแนวทางการปรับตัวของอุตสาหกรรมอาหารไทยต่อสถานการณ์กีดกันทางการค้า โดยเฉพาะผลกระทบภาษีสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนผู้ส่งออกไทยทั้งในด้านการลดอุปสรรคทางการค้า การเจรจาการค้าเสรี และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีการค้า นายประสิทธิ์ กล่าวว่า ความมั่นคงทางอาหารเป็นประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสำคัญมากขึ้นจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการระบาดของโรคต่าง ๆ เช่น COVID-19 ส่งผลให้ซัพพลายเชนอาหารเปลี่ยนแปลงไป แต่ประเทศไทยยังคงได้เปรียบจากทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ประเทศมีศักยภาพด้านความมั่นคงทางอาหารในระดับโลก ในส่วนของผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ นายประสิทธิ์ชี้แจงว่า ธุรกิจของซีพีเอฟได้รับผลกระทบไม่มากนัก เนื่องจากมีการลงทุนในสหรัฐอเมริกามานานกว่า 10 ปี และมีฐานการผลิตในประเทศอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม บริษัทต้องรับมือกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากภาษีนำเข้าวัตถุดิบบางรายการ “เราคิดว่ารัฐบาลควรเข้ามาช่วยเหลือภาคเอกชนโดยเฉพาะผลกระทบระยะสั้น เช่น ภาษีที่เพิ่มขึ้น 10-20% ซึ่งควรมีมาตรการสนับสนุน อาทิ สินเชื่อพิเศษหรือเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ […]

ส.อ.ท. แนะรัฐเร่งมาตรการเชิงรุก หนุนความเชื่อมั่นภาคอุตฯ กลับสู่ทิศทางบวก

กรุงเทพฯ 18 มิ.ย.- ส.อ.ท. เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ระดับ 88.1 ปรับตัวลดลง จากเดือนเดือนที่แล้ว แนะรัฐเร่งมาตรการเชิงรุก หนุนความเชื่อมั่นภาคอุตฯ กลับสู่ทิศทางบวก นายนาวา จันทนสุรคน รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคม 2568 อยู่ที่ระดับ 88.1 ปรับตัวลดลง จาก 89.9 ในเดือนเมษายน 2568 ซึ่งเป็นผลจากสถานการณ์อุทกภัยและการรั่วไหลของสารเคมีในภาคเหนือ กระทบต่อภาคเกษตรและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ประกอบกับคู่ค้าในต่างประเทศมีแนวโน้มชะลอการสั่งซื้อสินค้า จากการเร่งสต็อกสินค้าในช่วงก่อนหน้า โดยเฉพาะในกลุ่มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้นความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดน ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการค้าชายแดนในระยะสั้น อีกทั้งค่าเงินบาทแข็งค่าเร็วเมื่อเทียบกับคู่แข่งในภูมิภาค ส่งผลกระทบต่อรายได้ของผู้ส่งออก รวมถึงราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ อาทิ ข้าว ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง กระทบกำลังซื้อในภูมิภาค ภาวะอุปทานส่วนเกินในจีนและความไม่แน่นอนของการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ ยังคงส่งผลให้เกิดการทะลักเข้ามาของสินค้าจีนเพิ่มขึ้นกระทบยอดขายผู้ผลิตในประเทศ และปัญหาหนี้ครัวเรือนและหนี้ธุรกิจ ส่งผลให้เกิดการชะลอการลงทุนสะท้อนจากยอดการจัดตั้งธุรกิจ (ช่วงเดือน มกราคม-เมษายน 2568) ลดลง -4.39%(YoY) ขณะที่ยอดการเลิกกิจการเพิ่มขึ้น 8.34%(YoY) อย่างไรก็ตาม ในเดือนพฤษภาคม ยังคงมีปัจจัยบวกจากธนาคารพาณิชย์มีการทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ […]

สถานการณ์ผลไม้ไทยในวันกัมพูชาแบน

18 มิ.ย. – เมื่อกัมพูชาแบนผัก-ผลไม้จากไทย จะส่งผลกระทบต่อชาวสวนผลไม้-ผู้ค้า อย่างไร และภาครัฐรับมือเรื่องนี้อย่างไร ติดตามจากรายงาน .-สำนักข่าวไทย

หุ้นไทยปิดร่วง 19 จุด หลุด 1,100

กทม. 18 มิ.ย.-SET ปิดวันนี้ที่ 1,094.58 จุด ลดลง 19.00 จุด (-1.71%) มูลค่าการซื้อขาย 36,048.37 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีร่วงแรงภาคบ่าย โดยดัชนีทำจุดต่ำสุด 1,094.58 จุด ทำจุดสูงสุดที่ 1,120.33 จุด ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 81 หลักทรัพย์ ลดลง 412 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 162 หลักทรัพย์.-สำนักข่าวไทย

ปตท.พร้อมจัดหาแอมโมเนียฯ ป้อนโรงไฟฟ้า BLCP

กรุงเทพฯ 18 มิ.ย. – ปตท.พร้อมจัดหาแอมโมเนียคาร์บอนต่ำ สำหรับเป็นเชื้อเพลิงร่วมในโรงไฟฟ้า BLCP โดยร่วมลงนามความร่วมมือระหว่างกัน ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และความยั่งยืน บมจ.ปตท. เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการจัดหาแอมโมเนียคาร์บอนต่ำ สำหรับเป็นเชื้อเพลิงร่วมในโรงไฟฟ้า BLCP โดยมี นายรัฐกร กัมปนาทแสนยากร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ความยั่งยืนองค์กร ปตท. และนายยุทธนา เจริญวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด (BLCP) ร่วมลงนามความร่วมมือ โดยก่อนหน้านี้ ปตท.และ BLCP ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกันเพื่อศึกษาหาโอกาสในการจัดหาแอมโมเนียคาร์บอนต่ำ สำหรับเป็นเชื้อเพลิงร่วมในโรงไฟฟ้าถ่านหินของ BLCP ไปเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2567 โดยได้ร่วมกันศึกษาตลาดแอมโมเนียคาร์บอนต่ำ เจรจากับผู้ผลิตและผลักดันกับภาครัฐให้แอมโมเนียสามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงได้และในการนี้ได้จัดทำบันทึกข้อตกลงใหม่ทดแทนฉบับเดิม เพื่อขยายขอบเขตความร่วมมือให้ครอบคลุมการร่วมกันศึกษาและประเมินศักยภาพของโครงการตั้งแต่ขั้นตอนการสาธิต Demonstration) จนถึงการพัฒนาเป็นเชิงพาณิชย์ (Commercialization) ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงาน ควบคู่กับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างสมดุล เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความยั่งยืนในระดับสากล เมื่อเร็วๆ นี้.-511-สำนักข่าวไทย

มาร์ส ผนึกพันธมิตรระดับโลก เฟ้นหาสตาร์ทอัพปั้นนวัตกรรมเพื่อสัตว์เลี้ยง

18 มิ.ย. – มาร์ส อินคอร์ปอเรท (Mars, Incorporated) ร่วมกับ Big Idea Ventures เปิดตัว “2025 Next Generation Pet Food Program” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ปั้นสตาร์ทอัพจากทั่วโลกที่มีศักยภาพในการสร้างนวัตกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงอย่างยั่งยืน ผู้นำระดับโลกด้านผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยง อาหารขนม และอาหารทั่วไป ผู้ผลิตแบรนด์ที่ผู้คนทั่วโลกชื่นชอบ นายพอล การ์ดเนอร์ รองประธานฝ่ายจัดซื้อของมาร์ส เพ็ท นิวทริชั่น เปิดเผยว่า ทางมาร์ส มีความมุ่งมั่นพัฒนาสูตรอาหารสัตว์ที่ใช้วัตถุดิบทางเลือก เพื่อรองรับโภชนาการแห่งอนาคตที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ล่าสุด เปิดตัวโครงการ “2025 Next Generation Pet Food Program” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อรวมพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ของบริษัทสตาร์ทอัพ ร่วมกับพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์เดียวกัน อาทิ Givaudan ผู้นำระดับโลกด้านรสชาติและสุขภาพ ร่วมถึง AAK และ Bühler เพื่อนำเสนอความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาส่วนผสมและผลิตภัณฑ์สำหรับคนและสัตว์เลี้ยง นายแอนดรู […]

บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจอนุมัติงบกลาง 1.1 แสนล้านบาท

ทำเนียบฯ 18 มิ.ย. – บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจอนุมัติงบกลาง 1.1 แสนล้านบาท คาดกระตุ้นจีดีพีร้อยละ 0.4 นายกฯ ย้ำใช้งบโปร่งใส ประหยัด แบ่งงบให้โครงสร้างพื้นฐานร้อยละ 73 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานอนุมัติงบกลาง 1.1 แสนล้านบาท จากกรอบวงเงินทั้งหมด 1.57 แสนล้านบาท จากนั้นเตรียมนำโครงการทั้งหมดเสนอ ครม.ในอังคารหน้า เพื่อทำไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านหลายโครงการ เพื่อศักยภาพขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งระยะสั้น ระยะยาว ทุกหน่วยยงานต้องเร่งทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง ทำงบผูกดันให้เสร็จภายใน ก.ย.68 จากนั้นเริ่มใช้งบประมาณได้ต้นเดือน ต.ค.นี้ นายกรัฐมนตรี กำชับในที่ประชุมให้เจ้าของโครงการ ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เจ้ากระทรวงกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด หากใช้เงินไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ให้ระงับโครงการ พร้อมตั้งอนุกรรมการติดตาม ประเมินผลการลงทุน เพื่อให้ทุกหน่วยงานลงทุนอย่างโปร่งใส สำหรับโครงการลงทุนที่อนุมัติ ได้คัดเลือกจากหลายหน่วยงาน ซึ่งได้ศึกษาจัดทำโครงการมานานแล้ว และพร้อมลงทุนทันที เงินลงทุนที่ใช้ต้องกระจายไปทุกอำเภอ และเน้นพัฒนาในจังหวัดที่มีรายได้ต่ำ ส่วนกรุงเทพฯ -ปริมณฑล จะได้รับงบสัดส่วนน้อย บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจจึงได้จัดสรรให้กับโครงการในการพัฒนาระบบน้ำ ทั้งระบบน้ำเพื่อการบริโภค โครงการป้องกันน้ำท่วม […]

นายกฯ สั่งการ ก.พลังงาน ดูแลรับมือปัญหาสงครามตะวันออกกลาง

กรุงเทพฯ 18 มิ.ย. – นายกฯ สั่งการกระทรวงพลังงานให้ดูแลรับมือปัญหาสงครามตะวันออกกลาง ดูแลประชาชน ส่งเสริมให้ภาคพลังงานมีความมั่นคง เป็นธรรม ยั่งยืน โดย ก.พลังงาน แจงดูแลราคาผ่านกลไกกองทุนน้ำมัน และพร้อมปรับปริมาณสำรองน้ำมันให้สอดคล้องกับสถานการณ์ วันนี้ (18 มิ.ย.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 5/2568 ณ ห้อง Synergy Hall ชั้น 6 ศูนย์ Energy Complex กระทรวงพลังงาน โดยมี พ.อ.เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพลังงาน และนายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน พร้อมผู้บริหารระดับสูงให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงพลังงานปรับปรุงโครงสร้างพลังงานให้มีความมั่นคง เป็นธรรม และยั่งยืน เพื่อช่วยเหลือลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้กับประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งขอให้ติดตามสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิหร่านและอิสราเอลอย่างใกล้ชิด “เรื่องของการสู้รบระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน ที่กำลังเกิดขึ้น นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้กระทรวงพลังงานติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดรวมทั้งสั่งการให้มีการปรับปรุงโครงสร้างราคาพลังงานให้มีความมั่นคง เป็นธรรม และยั่งยืน ซึ่งกระทรวงพลังงานพร้อมดูแลทั้งมิติด้านราคาไม่ให้ส่งผลกระทบกับประชาชนโดยอาศัยกลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาเสถียรภาพ และมิติด้านความมั่นคง ก็ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปริมาณสำรองน้ำมันให้สอดคล้องกับสถานการณ์ […]

รัฐบาลพร้อมรับมือสู้รบอิสราเอล–อิหร่านอย่างใกล้ชิด

ทำเนียบฯ 18 มิ.ย. – รัฐบาลพร้อมรับมือผลกระทบด้านพลังงานจากการสู้รบอิสราเอล–อิหร่าน อย่างใกล้ชิด เร่งปรับแผนสำรองน้ำมัน-ลดเงินส่งเข้ากองทุน ตรึงเสถียรภาพน้ำมันเพื่อความมั่นคงให้กับประเทศ นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่านอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผลกระทบต่อราคาน้ำมันและเส้นทางขนส่งผ่านช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อไทยในฐานะประเทศผู้นำเข้าน้ำมัน ล่าสุด นายพีระพันธุ์ ได้สั่งการให้ดำเนินมาตรการลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งในส่วนของน้ำมันเบนซินและดีเซล เพื่อช่วยพยุงราคาภายในประเทศ พร้อมใช้กลไกกองทุนฯ ดูแลเสถียรภาพระยะยาว โดยราคาน้ำมันดิบดูไบล่าสุดอยู่ที่ 72.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจากต้นเดือนมิถุนายนซึ่งอยู่ที่ 65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะเดียวกันกระทรวงพลังงานได้มีการประเมินปริมาณน้ำมันสำรองภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีน้ำมันดิบคงเหลือ 3,337 ล้านลิตร ใช้ได้ 25 วัน น้ำมันระหว่างขนส่ง 2,457 ล้านลิตร ใช้ได้ 19 วัน และน้ำมันสำเร็จรูป 1,874 ล้านลิตร ใช้ได้อีก 16 วัน รวมสำรองทั้งหมดใช้ได้ประมาณ 60 วัน หากสถานการณ์เลวร้ายลงจะมีการบริหารจัดการเพื่อเพิ่มปริมาณสำรองทันที “รัฐบาลขอยืนยันว่า ประเทศไทยมีความพร้อมและศักยภาพในการรับมือทุกความผันผวนด้านพลังงานอย่างรอบด้าน […]

กอช.ร่วมเชื่อมฐานข้อมูลกลุ่มเปราะบาง

ทำเนียบฯ 18 มิ.ย. – เลขาธิการ กอช. ร่วมลงนาม MOU บูรณาการฐานข้อมูลกลุ่มเปราะบางและคนพิการ นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือ “การบูรณาการจัดทำฐานข้อมูลประชาชนกลุ่มเปราะบางและคนพิการ” ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อขยายโอกาสในการออมให้เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่มโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางและผู้มีรายได้น้อย ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการของรัฐ และยังเป็นพื้นฐานสำคัญในการออกแบบนโยบายการออมที่ตอบโจทย์ในแต่ละช่วงวัยอย่างแท้จริง โดยอาศัยระบบข้อมูลภาครัฐที่แม่นยำและเชื่อถือได้ สำหรับการลงนามความร่วมมือครั้งนี้เพื่อเชื่อมโยงและปรับปรุงฐานข้อมูลประชาชนในกลุ่มเปราะบางและกลุ่มคนพิการ และการจัดทำฐานข้อมูลผู้สูงอายุตามสิทธิ สวัสดิการ ที่จะได้รับรายบุคคลใน 5 มิติหลัก ได้แก่ รายได้ การมีงานทำ สุขภาพ สวัสดิการสังคม และการศึกษา โดยบูรณาการข้อมูลจากทุกภาคส่วนที่ขับเคลื่อนงานด้านผู้สูงอายุ มีหน่วยงานภาครัฐเข้าร่วมทั้งสิ้น 29 ฝ่าย ประกอบด้วย 15 กระทรวง 14 หน่วยงาน อาทิ กระทรวง พม. , กระทรวงกลาโหม, กระทรวงการคลัง, […]

1 13 14 15 16 17 4,007
...