เตรียมต่ออายุ “ลดภาษีดีเซล-อุดหนุนค่าไฟฟ้า”

กรุงเทพฯ 11 ส.ค.- คณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบริหารสถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจ ประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจโลกกระทบไทย เตรียมแผนรับ 4 ด้าน เผยเตรียมต่ออายุลดภาษีดีเซล-อุดหนุนค่าไฟฟ้า


ภายหลังการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบริหารสถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2565 ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และนายวิชญายุทธ บุญชิต รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ร่วมกันแถลงข่าว โดยมาตรการที่จะมีการพิจารณา เช่น การต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ที่ปัจจุบันลดการจัดเก็บภาษีฯ อยู่ที่ 5 บาทต่อลิตร การตรึงราคาค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (FT) ในเดือน ก.ย.-ธ.ค. มาตรการช่วยเหลือรถจักรยานยนต์รับจ้างเดือนละ 250 บาทต่อเดือน เป็นต้น

ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบแนวทางเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ในระดับวิกฤติเศรษฐกิจ ผ่านมาตรการระยะเร่งด่วน (Quick win) และมาตรการที่ต้องเร่งดำเนินการต่อเนื่อง (Follow-up Urgent Policy) เพื่อรองรับสถานการณ์ในระดับวิกฤติเศรษฐกิจ โดยมอบหมายให้คณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์สถานกรณ์วิกฤติเศรษฐกิจ พิจารณากำหนดรายละเอียดมาตรการ และเสนอคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบริหารสถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจ พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป เพื่อทบทวนมาตรการที่จะหมดอายุในเดือน ส.ค.-ก.ย.นี้


นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มีการประเมินสถานการณ์ต่างๆ ที่มีโอกาสกลายเป็นวิกฤติ พร้อมทั้งมีแผนรองรับสถานการณ์ใน 4 ด้าน 1.วิกฤติต้นทุนพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ 2.วิกฤติการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการผลิตและการขาดแคลนวัตถุดิบด้านการเกษตร 3.วิกฤติการเงินภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ SMES และ 4.วิกฤติเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจและการลดลงของขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมทั้งได้เสนอแนวทางที่ควรจะดำเนินการในระยะสั้นและระยะยาวให้ที่ประชุมรับทราบ

ทั้งนี้ สศช. ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบสถานการณ์เศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก รวมทั้งได้รายงานฉากทัศน์ (Scenarios) 3 กรณีที่เกิดจากขึ้นจากความขัดแย้งของสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครน และความขัดแย้งในภูมิภาคอื่นๆ โดยเฉพาะจีน-สหรัฐ

ในกรณีที่ 1 กรณีฐาน ที่ สศช. คาดจะเป็นไปในแนวทางนี้มากที่สุด คือ สงครามทางทหารระหว่างรัสเซีย ยูเครน ยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจยังคงระดับเดิมหรือเพิ่มระดับความรุนแรงอย่างช้าๆ มาตรการคว่ำบาตร (Sanction) ทำให้อุปสงค์และอุปทานน้ำมันดิบในตลาดโลกสามารถปรับตัวได้ทัน โดยรัสเซียเปลี่ยนไปส่งออกตลาดอื่นๆ โดยไม่ส่งผลให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกลดลง เช่นที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะค่อยๆ ลดลงในช่วงที่เหลือของปี ราคา LNG ยังคงอยู่ในระดับสูงและยังมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ก่อนที่จะเริ่มปรับตัวลดลงในปี 2566 ทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐ และประเทศเศรษฐกิจหลัก (สหรัฐ แคนาดา สหราชอาณาจักร) ยังคงมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างน้อยที่สุดจนถึงสิ้นปี ในภาพนี้เศรษฐกิจโลกในปี 2565 จะขยายตัวสอดคล้องกับประมาณการของหน่วยงานต่างประเทศในปัจจุบัน และชะลอตัวลงอย่างชัดเจนในปี 2566 โดยอาจมีเศรษฐกิจหลักบางประเทศปรับตัวเข้าสู่ภาวะถดถอยเล็กๆ แต่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั้งปี 2565-2566 ไม่ถึงขั้นติดลบ อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้เศรษฐกิจโลกจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นหลังปี 2566 เศรษฐกิจไทย ในภาพนี้เศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้สอดคล้องกับการประมาณการของหน่ายงานหลักด้านเศรษฐกิจ เงินเฟ้อค่อยๆ ปรับตัวลดลง ดุลบัญชีเดินสะพัดกลับมาเกินดุลอย่างช้าๆ ในปี 2566 โดย สศช. คาดว่าจีดีพีในปีนี้จะขยายตัวได้ในช่วง 2.5-3.5% ค่ากลางที่ 3%


ในกรณีที่ 2 เป็น Low case scenario สงครามทางทหารยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและมาตรการตอบโต้ขยายขอบเขตเพิ่มเติมจนทำให้อุปสงค์และอุปทานน้ำมันดิบและสินค้าสำคัญอื่นๆ ในตลาดโลกไม่สามารถปรับตัวได้ทัน ในกรณีนี้ราคาน้ำมันและราคาสินค้าสำคัญๆ ในตลาดโลกจะค่อยๆ กลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้งในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ และประเทศเศรษฐกิจหลักยังมีความจำเป็นที่จะต้องปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยมากกว่าในกรณีแรก ก่อนที่จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในปีหน้าตามการเพิ่มขึ้นของสัญญาณความเสี่ยงต่อ Recession ในกรณีนี้เศรษฐกิจไทย ปี 2565 และ 2566 ขยายตัวต่ำกว่ากรณีแรก อัตราเงินเฟ้อปี 2565 สูงกว่ากรณีแรกเล็กน้อย ก่อนที่จะลดลงมากหรือมีเงินเฟ้อติดลบในปี 2566 ในขณะที่ดุลเดินสะพัดกลับมาเกินดุลมากกว่าในกรณีแรก

กรณีที่ 3 เป็น Worst case scenario ซึ่งยังมีความเป็นไปได้น้อยแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นไปไม่ได้โดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะภายใต้สถานการณ์ที่ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐ กับจีนมีความชัดเจนมากขึ้น มีการแบ่งขั้วอำนาจออกจากกัน ปัญหาจะมีความสลับซับซ้อนมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะทำให้เศรษฐกิจโลกถดถอยในระยะแรก และขยายตัวในเกณฑ์ต่ำสลับกับ recession เป็นระยะๆ ตามความรุนแรง ในกรณีนี้ราคาพลังงาน ราคาอาหาร และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ จะปรับตัวเพิ่มขึ้นและอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง เริ่มมีการขาดแคลนพลังงานและอาหาร รวมทั้งสินค้าสำคัญๆ ในตลาดโลกอย่างชัดเจน เศรษฐกิจของประเทศเศรษฐกิจหลักและเศรษฐกิจโลกในภาพรวมในระยะสั้นจะหดตัวชัดเจนและรุนแรง และขยายตัวในเกณฑ์ต่ำสลับกับภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ เป็นระยะๆ ตลอดหลายปีข้างหน้า ตามความรุนแรงของมาตรการตอบโต้ระหว่าง 2 ขั้วเศรษฐกิจหลักและการเพิ่มขึ้นของความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจะส่งผลกระทบต่อการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ รวมทั้งการแบ่งขั้วทางเศรษฐกิจที่เป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจและการค้าโลกในระยะยาว ในขณะที่ราคาน้ำมัน อัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยในตลาดโลกไม่สามารถปรับตัวลดลงหรือเข้าสู่ stagflation คล้ายๆ กับในช่วงปี 1970-1980

สำหรับในกรณีนี้เศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบรุนแรง เนื่องจากเศรษฐกิจไทยพึ่งพิงและมีความเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจเศรษฐกิจโลกสูง (การค้า การท่องเที่ยว การลงทุน ห่วงโซ่การผลิต ตลาดทุน การพึ่งพิงพลังงาน) อัตราเงินเฟ้อทรงตัวในระดับสูง ในขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลต่อเนื่องและการขาดดุลการคลังกว้างขึ้นและทำให้แรงกดดันจากปัญหาการขาดดุลแฝงรุนแรงมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

พบสารก่อมะเร็ง จากเหตุไฟไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ฉลองกรุง

กรุงเทพฯ 13 พ.ค. – พบสารพิษบางตัวเป็นสารก่อมะเร็ง จากเหตุเพลิงไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ ย่านฉลองกรุง 55 แนะผู้สูดดมไปตรวจเลือดและตรวจปัสสาวะ.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กแจ๊ส” เผยไม่สนใจ-ไม่ให้ค่า ชี้มีหลาย “J”

13 พ.ค. – หลัง “สส.ฟลุ๊ค มนัสนันท์” จากพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความเดือดทางเฟซบุ๊ก “กูไม่กลัวมึง ไอ้ J” ล่าสุด “บิ๊กแจ๊ส” ออกมายืนยันไม่สนใจ พร้อมระบุลูกชายตนสอนมาดี รู้จักเด็ก รู้จักผู้ใหญ่ ไม่ก้าวร้าว ความคืบหน้าประเด็นร้อนการเมืองท้องถิ่น จ.ปทุมธานี หลังเพิ่งผ่านการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี 2568 เมื่อวันที่อาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่คล้อยหลังเพียง 1 วัน สส.พรรคใหญ่ในพื้นที่ปทุมธานี คือ นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ หรือ ฟลุ๊ค สส.ปทุมธานี เขต 5 พรรคเพื่อไทย ลูกชายนายกฤษดา หลีนวรัตน์ เคลื่อนไหวทางเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยบางโพสต์มีความเกี่ยวข้องกับการจะฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และบางโพสต์ได้ท้าทายว่าไม่กลัวบุคคลอักษรเจ (J) วันนี้ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เปิดใจกับทีมข่าวสำนักข่าวไทย ระบุว่า อย่าไปให้ค่า ตัวเจ (J ) […]

แจ้งข้อหาซ่องโจร “สจ.กอล์ฟ” และพวก เพิ่มอีก 1 ข้อหา

สงขลา 13 พ.ค. – ตำรวจแจ้งข้อหา “ซ่องโจร” เพิ่มอีก 1 ข้อหา แก๊ง “สจ.กอล์ฟ” คดีรุมทำร้ายตำรวจหน้าหน่วยเลือกตั้งตำบลพะวง จ.สงขลา เตรียมนำตัวส่งศาลวันพรุ่งนี้ (14 พ.ค.) ญาติขอค้านประกันตัว หวั่นอิทธิพล คดีนายสิรดนัย หรือ สจ.กอล์ฟ สจ.เขต 7 จ.สงขลา สั่งการให้ลูกน้องไปรุมทำร้ายร่างกาย ด.ต.นิสาธิต คงเทพ ตำรวจ ตชด. ประจำหน่วยเลือกตั้งเทศบาลตำบลพะวง อ.เมือง จ.สงขลา เหตุเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังไม่พอใจถูกห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้งขณะไปลงคะแนน ก่อนตำรวจรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับ และวานนี้ (12 พ.ค.) นายสมยศ หรือ โกถึก สส.เขต 3 จ.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพ่อ นำ สจ.กอล์ฟ เข้ามอบตัว ส่วนลูกน้องอีก 6 คน ถูกจับกุมตัวได้หมดแล้วเช่นกัน […]

“ปชน.” ไม่ขับ “สส.กฤษฎิ์” พ้นพรรค-ตัดสิทธิทุกอย่าง

รัฐสภา 13 พ.ค.- “เท้ง” ประกาศดอง “งูเห่า” ไม่ขับ “สส.กฤษฎิ์” พ้น ปชน.ตามต้องการ ส่งตีความหนังสือเข้าข่ายลาออก พ้น สส.หรือไม่ พร้อมตัดสิทธิทุกอย่างในโควตาพรรค นายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน และนายสหัสวัต คุ้มคง ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาชน ร่วมกันแถลงตอบโต้นางสาวกฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ พรรคประชาชน เขต 6 จังหวัดชลบุรี ทำหนังสือ ขอยุติบทบาทภายในพรรคและขอให้พรรคประชาชนขับออก นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่าได้รับฟังเหตุผล ที่น.ส.กฤษฎิ์แถลงต่อข้อกล่าวหาว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่ได้รับการผลักดันนโยบายจึงต้องการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ และอ้างว่าไม่เคยได้รับงบประมาณจากพรรคในการทำกิจกรรมนั้น ยืนยันว่าพรรคได้สนับสนุนการทำงานในพื้นที่มาโดยตลอด ฝ่ายนโยบายพรรคเคยอนุมัติงบในส่วนกลางเพื่อให้ไปทำกิจกรรมรับฟังความเห็นต่อการพัฒนานโยบายของพื้นที่ศรีราชาตามที่ได้ร้องขอเข้ามา ซึ่งสส. คนอื่นก็ทำงานได้อย่างราบรื่นและได้รับการสนับสนุน และที่บอกว่าการทำงานในคณะกรรมการธิการคมนาคม ไม่ได้รับการสนับสนุนนั้นนับตั้งแต่เริ่มเปิดสภา เราจะให้สส.ทุกคนได้เสนอมาว่าอยากได้ทำงานในกรรมาธิการฯในคณะใด แต่เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะได้รับการเป็นกรรมาธิการในอันดับหนึ่งที่เลือก แต่น.ส.กฤษฎิ์ก็ได้ตามที่ต้องการและยังได้เป็นรองประธาน อนุกรรมาธิการ ฯ เรื่องงานก่อสร้างท่าเรือ และยังมีมติให้ศึกษาดูงานเพื่อรับฟังปัญหาทางต่าง ๆ จากประชาชนที่อยู่ในเขตท่าเรือแหลมฉบัง ส่วนเรื่องการไม่ได้รับความเคารพเรื่องสภานะทางเพศนั้น นายปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่า […]