“คมนาคม” เตรียมพร้อมการเดินทางวันหยุดยาว

กรุงเทพฯ 8 ก.ค.- กระทรวงคมนาคม เตรียมความพร้อมหน่วยงานในสังกัด อำนวยความสะดวกการเดินทางในช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา และช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ พ.ศ. 2565 เน้นย้ำต้องส่งประชาชนเดินทางถึงที่หมายอย่างสะดวก ปลอดภัยจากอุบัติเหตุและการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคม (คค.) เตรียมการรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงวันหยุดยาวเดือนกรกฎาคม 2565 ในวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ระหว่างวันที่ 13-17 กรกฎาคม 2565 และวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ ระหว่างวันที่ 28-31 กรกฎาคม 2565 โดยกำชับหน่วยงานในสังกัดบูรณาการร่วมกันให้ประชาชนเดินทางสะดวก ปลอดภัย และห่างไกล COVID-19 และมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จัดทำมาตรการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชน ในช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ระหว่างวันที่ 13-17 กรกฎาคม 2565 และวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ ระหว่างวันที่ 28-31 กรกฎาคม 2565 ของ คค. โดยตั้งเป้าหมายการดำเนินการดังนี้ (1) จัดบริการขนส่งสาธารณะ ทั้งรถโดยสารสาธารณะ รถไฟ เรือโดยสารสาธารณะ และเครื่องบิน ให้เพียงพอต่อการเดินทาง (2) ตรวจความพร้อมระบบขนส่งสาธารณะ พนักงาน และผู้โดยสาร อย่างต่อเนื่อง และมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเข้มงวด และ (3) อำนวยความสะดวกการเดินทางบนโครงข่ายถนน มีการบริหารจัดการจราจรและมาตรการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน

นายศักดิ์สยาม กล่าวเพิ่มเติมว่า หน่วยงานในสังกัด คค. ได้จัดเตรียมแผนงาน/มาตรการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชน ช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา และช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ 2565 ของ คค. ที่ครอบคลุมในมิติอำนวยความสะดวกในการเดินทาง มิติความปลอดภัยในการเดินทาง มิติด้านการควบคุม COVID-19 ประกอบด้วย


1. มิติอำนวยความสะดวกในการเดินทาง  

– เตรียมบริการขนส่งสาธารณะ ทั้งทางถนน ราง น้ำ และอากาศ ให้เพียงพอ ไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง และจัดบริการรถสาธารณะเชื่อมต่อกับท่าอากาศยานและสถานีรถไฟฟ้า เพื่อให้ประชาชนเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างสะดวกและปลอดภัยมากที่สุด

– เตรียมมาตรการสำหรับบริหารจัดการจราจรบนเส้นทางถนนสายหลักและสายรองที่มีการจราจรหนาแน่นติดขัด โดยได้คาดการณ์ปริมาณจราจรขาเข้าและขาออกกรุงเทพฯ บนทางหลวงสายหลัก 5 Corridor ได้แก่ สายเหนือ สายอีสาน สายตะวันออก สายตะวันตก และสายใต้ โดยในช่วงวันอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษา มีปริมาณจราจรขาเข้ารวม 2.39 ล้านคัน และขาออกรวม 2.41 ล้านคัน และช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ มีปริมาณจราจรขาเข้ารวม 2.15 ล้านคัน และขาออกรวม 2.15 ล้านคัน ซึ่งในช่วงวันหยุดยาวดังกล่าวมีปริมาณการจราจรใกล้เคียงกับความสามารถในการรองรับ (Capacity) ของสายทาง ซึ่ง คค.ได้เตรียมการบริหารจัดการจราจรเพื่อรองรับไว้ด้วยแล้ว อาทิ จัดเจ้าหน้าที่จัดการจราจร รวมทั้งให้ดำเนินการคืนพื้นผิวจราจรบริเวณโครงการก่อสร้าง ตั้งจุดกวดขันวินัยจราจร และประชาสัมพันธ์ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงจากถนนสายหลัก เพื่อลดปริมาณการจราจร


– ให้บริการฟรี อาทิ ยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมทางพิเศษ 3 เส้นทาง ได้แก่ ทางพิเศษศรีรัช อุดรรัถยา และเฉลิมมหานคร ในช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ระหว่างวันที่ 13-14 กรกฎาคม 2565 และช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2565 และบริการที่จอดรถฟรี ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณลานจอดรถยนต์ระยะยาว โซน C

2. มิติความปลอดภัยในการเดินทาง 

– ตรวจสอบปรับปรุงแก้ไขจุดเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ (Black Spot) เช่น บริเวณจุดกลับรถ ทางแยก ทางโค้ง/ทางลาดชัน และจุดตัดถนนกับรถไฟ/ทางลักผ่าน รวมทั้งขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งสินค้า เลี่ยงการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกในช่วงดังกล่าว เพื่อให้เกิดการเดินทางอย่างปลอดภัยในช่วงฤดูฝนที่อาจเกิดความเสี่ยงจากถนนลื่นและทัศนวิสัยในการขับขี่

– เข้มงวดการบังคับใช้กฎหมาย กำกับดูแลด้านวินัยจราจร และรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างความตระหนักรู้ และลดพฤติกรรมเสี่ยงในการขับขี่ อาทิ การขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ดื่มแล้วขับ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย/ไม่สวมหมวกนิรภัย โดยการตรวจจับความเร็ว การติดตามด้วยระบบ GPS การตั้งจุดตรวจ (Checking Point)

– การกำกับดูแลความพร้อม ตรวจสอบพนักงานขับขี่และพนักงานประจำรถโดยสารสาธารณะ เรือโดยสาร และรถไฟ ให้ปฏิบัติตามกฎหมายกฎระเบียบ เช่น ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ใช้สารเสพติด พักผ่อนให้เพียงพอ รวมถึงตรวจความพร้อมความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะ เรือโดยสาร รถไฟ และเครื่องบิน รวมถึงภายในสถานีขนส่งผู้โดยสาร สถานีรถไฟ ท่าเรือ และท่าอากาศยาน ตลอดจนตั้งศูนย์ปฏิบัติการของหน่วยงานในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อกำกับดูแล/สั่งการให้เกิดความปลอดภัยและรับเรื่องร้องเรียน

3. มิติด้านการควบคุม COVID-19

– เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานต้องดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยถือปฏิบัติตามข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และคำสั่ง ศบค. อย่างเคร่งครัด โดยตรวจสอบกำกับดูแลการให้บริการขนส่งสาธารณะตามแนวทางที่กำหนด อาทิ จัดจุดตรวจคัดกรอง จัดให้มีการเว้นระยะห่าง การปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ นายศักดิ์สยาม ได้สั่งการให้มีมาตรการรองรับปริมาณการเดินทางในช่วงวันอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษา และช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ ดังนี้

1. เส้นทางสู่ภาคเหนือ เน้นการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการใช้ ทล.340 (กรุงเทพฯ-สุพรรณบุรี-ชัยนาท-นครสวรรค์) เป็นเส้นทางเลี่ยงสู่ภาคเหนือ เพื่อแบ่งเบาภาระ ทล.32

2. เส้นทางสู่ภาคใต้ จัดเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจรบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง โครงการทางยกระดับ ทล.35 ช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย บริเวณหน้าวัดพันท้ายนรสิงห์ และโครงการทางยกระดับบน ทล.35 ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว บริเวณพื้นที่ก่อสร้างสะพานกลับรถบ้านแพ้ว รวมถึงเน้นการประชาสัมพันธ์การปิดสะพานกลับรถหน้า รพ.วิภาราม (กม.34)

3. เส้นทางสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เน้นการประชาสัมพันธ์ และรณรงค์ให้ประชาชนใช้ทางเลี่ยงเส้นทาง ทล.304 เพื่อกระจายปริมาณจราจรจากเส้นทางหลัก (ทล.2) ไปยังพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และจัดเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจร ขณะดำเนินการและติดตั้งป้ายเตือนการก่อสร้างและเส้นทางเลี่ยง บนทางหลวงหมายเลข 2 ระหว่าง กม.75+500 – กม.77+500

4. เส้นทางสู่ภาคตะวันออก รณรงค์ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 36 หมายเลข 344 และหมายเลข 34 เป็นการเลี่ยงรถติดบนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 เพื่อไปยังภาคตะวันออก

นอกจากนี้ นายศักดิ์สยาม ได้มีข้อสั่งการเน้นย้ำให้หน่วยงานในสังกัด คค. ดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยการเดินทางในช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา และช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ พ.ศ. 2565 ดังนี้

– ให้หน่วยงานในสังกัด คค. เข้มงวดการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงแนวทางการป้องกัน COVID-19 โดยเฉพาะการเดินทางในระบบขนส่งสาธารณะ เช่น การสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาการเดินทาง

– ให้ ทล. เปิดให้บริการทางหลวงระหว่างเมืองหมายเลข 6 (M6) ช่วงสีคิ้ว-ขามทะเลสอ ระยะทาง 64 กม. โดยให้บริการฟรี ในช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ขาออก วันที่ 13-14 กรกฎาคม 2565 และขาเข้า วันที่ 15-17 กรกฎาคม 2565 และช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ ขาออก วันที่ 28-29 กรกฎาคม 2565 และขาเข้า วันที่ 30-31 กรกฎาคม 2565

– ให้จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกและเจ้าหน้าที่ เช่น บริเวณจุดพักรถ สถานีให้บริการน้ำมัน รวมทั้งเฝ้าระวังบริเวณจุดเสี่ยง เช่น ทางลาดชัน ทางโค้ง พร้อมประสานตำรวจทางหลวงช่วยดำเนินงาน

– ให้ทุกหน่วยงานประชาสัมพันธ์เรื่องการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางในช่วงวันหยุดให้ประชาชนรับทราบผ่านช่องทางต่างๆ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

ฝนถล่มกรุงอีก สูงสุด 107 มม. เขตพระนคร จับตาฝนอีกก้อน

กทม. 6 ก.ย. – ฝนถล่มกรุงเย็นนี้ ปริมาณฝนสูงสุดแตะ 107 มม. ที่เขตพระนคร จับตาฝนอีกก้อน หากไม่อ่อนกำลังจะเคลื่อนตัวเข้า กทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ติดตามสถานการณ์ฝนกรุงเทพมหานคร โดยมีสำนักการระบายน้ำ ร่วมให้ข้อมูล ณ ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ กทม.2 ดินแดง ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้ปริมาณฝนตกหนักไม่แพ้เมื่อวาน เนื่องจากร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านประเทศไทยเป็นตัวดึงเมฆฝนเข้ามา โดยในขณะนี้ (เวลา 17.10 น.) ฝนยังคงตกต่อเนื่องในพื้นที่ชั้นในบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ ยังมีเมฆฝนอีกกลุ่มกำลังเคลื่อนตัวเข้ามา คาดว่าหากไม่อ่อนกำลังจะเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ อีกระลอก จากการรายงานพบว่าปริมาณน้ำฝนสะสมสูงสุดในรอบ 6 ชั่วโมงอยู่ที่ 107 มิลลิเมตร ที่เขตพระนคร ตามมาด้วย 98.5 มิลลิเมตร ที่เขตวัฒนาและห้วยขวาง ซึ่งถือว่าเกินกว่าขีดความสามารถของระบบระบายน้ำของ กทม. ที่ออกแบบไว้ให้รองรับปริมาณฝนที่ 60 มิลลิเมตร รายงานสถานการณ์ล่าสุดยังพบน้ำท่วมขังในถนนสายหลักและสายรองหลายแห่ง ถนนสายหลัก […]

“อนุทิน” เผยโผ ครม. 100% แล้ว พร้อมเริ่มทำงานทันทีหลังถวายสัตย์ฯ

ภูมิใจไทย 6 ก.ย. – “อนุทิน” เผยโผ ครม. 100% แล้ว พร้อมเริ่มทำงานทันทีหลังถวายสัตย์ปฏิญาณตน ระบุยังไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม ยืนยันจะเปิดเผยเมื่อถึงเวลาสมควร นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยความชัดเจนการจัดโผคณะรัฐมนตรี ว่าหลายๆ อย่างเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ยืนยันว่าความชัดเจนในการจัดสรรนิ่ง 100% แล้ว ทุกคนที่มาทำหน้าที่ในคณะรัฐมนตรีทราบดีถึงเงื่อนไขและข้อจำกัดต่างๆ โดยจะต้องเริ่มทำงานทันทีหลังเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน ส่วนความชัดเจนในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน ยังปฏิเสธที่จะเปิดเผย ระบุว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรียังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ยืนยันว่าไม่มีการปิดบังซ่อนเร้น เมื่อถึงเวลาสมควร ไม่เป็นการก้าวล่วงใดๆ ก็จะรีบเปิดเผยให้ประชาชนได้รับทราบ เพราะรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของประชาชนคนไทยทุกคน จะไม่ดำเนินการใดๆ ลับหลังประชาชน และจะให้ได้รับทราบร่วมกัน เพื่อออกความเห็นให้รัฐบาลได้รับฟัง และรัฐบาลจะได้ปฏิบัติตาม นายอนุทิน ยังยืนยันว่ารัฐมนตรีทุกค จะต้องมีคุณสมบัติไม่ขัดต่อกฎหมายและข้อจำกัด จะต้องทุ่มเททำงานด้วยความรู้ความสามารถ เป็นมืออาชีพ ซึ่งมีทั้งทหาร พลเรือน อส. นายกองใหญ่.-314-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” โชว์ตัวว่าที่ รมต.ทีมเศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “อนุทิน” โชว์ตัว ว่าที่ 3 รมต.ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ล้อมวงกินเค้กส้ม “เอกนิติ” นั่งขุนคลัง เตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ “สีหศักดิ์” เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ “อรรถพล” อดีต CEO ปตท. นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย ยอมรับเก้าอี้กลาโหม ต้องมีความรู้ในวิชาชีพ ปัดตอบชิงดำ “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกันที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกันที่บริเวณชั้นบน ทั้งนี้ คาดว่านายสีหศักดิ์ ถูกทาบทาม […]

รัฐมนตรีส่ง จนท.ทยอยขนของออกจากทำเนียบ

ทำเนียบ 6 ก.ย. – รัฐมนตรีในรัฐบาลชุดเดิม ส่งเจ้าหน้าที่ทยอยขนของออกจากทำเนียบรัฐบาล​ หลัง​สภาฯ โหวตเลือก “อนุทิน​” นั่งนายกรัฐมนตรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เริ่มมีการทยอยขนของออกจากทำเนียบรัฐบาล หลังสภาฯ มีมติโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ บรรดารัฐมนตรีและทีมงานของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ส่งทีมงานทยอยเก็บของ ก่อนเวลาประมาณ​ 10.00 น.​ พบรถบรรทุก​ 6 ล้อ​ คลุมผ้าใบทึบ ออกจากบริเวณหลังตึกไทยคู่ฟ้า​ รวมไปถึงมีเจ้าหน้าที่มาล้างทำความสะอาดและเปลี่ยนน้ำยาเครื่องปรับอากาศใหม่ ทั้งตึกไทยคู่ฟ้า และตึกบัญชาการ 1 และมีการขนภาพวาดติดฝาผนังออกจากห้องทำงานของนางสาวหทัย ทิวไผ่งาม​ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ แม้ว่าจะเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์​ มีการแจ้งเตรียมขนของของรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดเดิมออก ทั้งวันเสาร์และอาทิตย์.-314-สำนักข่าวไทย