”ศักดิ์สยาม” ถก “กรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน

กรุงเทพฯ 6 ก.ค.-ศักดิ์สยามถกกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน ดึงประชาชนร่วมแสดงความคิดเห็นโครงการลงทุนหน่วยงานในสังกัดคมนาคม-ยัน! กระทรวงคมนาคม ใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารราชการ


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกับนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองการสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร และคณะ ว่า กระทรวงคมนาคมมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติจากคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ในการเข้าพบและประชุมเพื่อรับฟังและแลกเปลี่ยนข้อมูล ข้อเท็จจริง ความเห็นในประเด็นที่เกี่ยวกับนโยบาย โครงการ แผนงานกิจกรรมการขับเคลื่อนด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน และช่องทางการสื่อสารที่เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม รวมถึงกระบวนการพิจารณาเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ ในหน่วยงานภายใต้กำกับดูแลของกระทรวงฯ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมารัฐบาลภายใต้การบริหารงานของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐพัฒนาระบบให้บริการประชาชน มีการนำเสนอข้อมูลผลการปฏิบัติงานในเรื่องต่าง ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ ผลสัมฤทธิ์ หรือประโยชน์ที่ประชาชนได้รับที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม และเน้นย้ำถึงกระบวนการมีส่วนร่วมและแก้ไขเรื่องปัญหาร้องเรียนของประชาชน เพื่อให้การสื่อสารสู่สาธารณชนในทุกรูปแบบเป็นไปอย่างถูกต้องและโปร่งใส

ขณะเดียวกัน กระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นหน่วยงานวางแผนเชิงนโยบายและขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศในทุกโหมดการเดินทางอย่างบูรณาการ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน ซึ่งการเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานนั้น สิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการควบคู่ไป คือมิติของการมีส่วนร่วมและการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร เพื่อสร้างการรับรู้แก่ประชาชน ซึ่งกระทรวงฯ ได้ดำเนินการเรื่องดังกล่าวผ่านช่องทางที่หลากหลาย เช่น ช่องทางสื่อสารมวลชนสื่อสังคมออนไลน์ สายด่วนและศูนย์ประสานงานเรื่องราวร้องทุกข์ รวมถึงให้ความสำคัญกับการเปิดโอกาสให้ประชาชน ผู้รับบริการ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น ให้ข้อเสนอแนะในการดำเนินงาน การพัฒนากระบวนงาน และการให้บริการประชาชน โดยยึดหลักกฎหมาย หลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด ด้วยความเท่าเทียมเสมอภาค โปร่งใส เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติอย่างสูงสุด 


สำหรับนโยบายขับเคลื่อนแผนงานการพัฒนาด้านคมนาคม การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน กระบวนการพิจารณาเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ ของหน่วยงานในสังกัดที่ได้ดำเนินการปี 64 สานต่อปี 65 ประกอบไปด้วย 1. นโยบายขับเคลื่อนแผนงานการพัฒนาด้านคมนาคม ภายใต้วิสัยทัศน์กระทรวงฯ ในการพัฒนาระบบขนส่งอย่างบูรณาการเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกภาคส่วน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน โดยมุ่งหวังให้เกิดการคมนาคมที่สะดวก ปลอดภัย ตรงเวลา ราคาสมเหตุสมผล ซึ่งเป็นการทำงาน แบบบูรณาการร่วมกันของทุกหน่วยงานในสังกัด 

โดยมีการขับเคลื่อนนโยบายปี 64 สานต่อปี 65 รวมทั้งนโยบายใหม่ปี 65 เพื่อพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง ดังนี้การคมนาคมขนส่งทางบก แบ่งเป็นการขับเคลื่อนนโยบายปี 64 สานต่อปี 65 จำนวน 9 เรื่อง ประกอบด้วย  1) การกำหนดความเร็วในการขับขี่บนถนนสายหลักขนาด 4 ช่องจราจรขึ้นไป ไม่เกิน 120 กม./ชม. ในปี 64 เปิดเส้นทางนำร่องแล้ว 178 กม. และในปี 65 จะเปิดเพิ่มเติมอีก 138 กม. 2) การพัฒนาระบบ M-Flow ในปี 65 จะเปิดเต็มรูปแบบครบทั้ง 7 ด่าน  3) โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) จะดำเนินการ PPP ได้ในปี 65 4) โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่-กาญจนบุรี (M81) จะดำเนินการ PPP ได้ในปี 65 และ 5) การจัดทำแผนแม่บท MR-MAP 6) การพัฒนาทางพิเศษในจังหวัดภูเก็ต  7) โครงการ Land Bridge ชุมพร-ระนอง  8) การแก้ไขปัญหาการจราจรบนทางด่วน  และ 9) การวางระบบติดตามโครงการขนาดใหญ่ทั้งนี้ในปี  64 ได้ดำเนินการไปแล้ว 5 โครงการ ในปี 65 จะดำเนินการเพิ่มอีก 22 โครงการ 

สำหรับนโยบายใหม่ปี 65 จะพัฒนาระบบคมนาคมทางถนนและต่อเติมโครงข่ายทางพิเศษเชื่อมโยงภูมิภาค การเติมเต็ม Missing Links เชื่อมโยงระหว่างประเทศ การพัฒนาทางหลวงเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว การสร้างแลนด์มาร์กใหม่ให้กับท้องถิ่น และการติดตามปัญหาอุทกภัย ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงฯ ได้บูรณาการหน่วงยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแผนเตรียมรับมือและให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้อย่างทันท่วงที การคมนาคมขนส่งทางราง แบ่งเป็นขับเคลื่อนนโยบายปี 64 สานต่อปี 65 จำนวน 14 เรื่อง ได้แก่  1) การขับเคลื่อนหลักการ Thai First ไทยทำ ไทยใช้ คนไทยต้องได้ก่อน  2) การจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) ขณะนี้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว  3) การจัดตั้งบริษัทลูกเพื่อบริหารสินทรัพย์ของ รฟท. (บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด) 4) การเร่งรัดเปิดให้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดงและสถานีกลางบางซื่อ  5) การเร่งพัฒนาระบบตั๋วร่วม  6) การพัฒนารถไฟทางคู่  7) การกำหนดแนวทางการใช้รถไฟฟ้าล้อยางเมืองภูมิภาค  8) การพัฒนารถไฟความเร็วสูง  9) การเร่งรัดร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง


10) การจัดตั้งศูนย์จัดจำหน่ายและกระจายสินค้า OTOP 11) การสร้างสรรค์พื้นที่เพื่อสาธารณประโยชน์ โดยที่ผ่านมากระทรวงฯ ได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขในการใช้ประโยชน์จากสถานีกลางบางซื่อเป็นศูนย์ฉีดวัคซีน COVID-19 ให้แก่ประชาชน  12) การผลักดันการพัฒนารถไฟ EV 13) การพัฒนาระบบติดตามโครงการก่อสร้างรถไฟ  และ 14) การจัดทำแผนรองรับการเปิดประเทศ สำหรับปี 65 กระทรวงฯ ได้เร่งรัดการพัฒนารถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล การพัฒนาพื้นที่รอบสถานีรถไฟความเร็วสูงและทางคู่ (Transit Oriented Development: TOD) การพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกด้านคมนาคมขนส่งสำหรับทุกคน (Universal Design: UD) รวมทั้งการแก้ปัญหาจุดตัดทางรถไฟ 

ส่วนการคมนาคมขนส่งทางน้ำ แบ่งเป็นการขับเคลื่อนนโยบายปี 64 สานต่อปี 65 จำนวน 2 เรื่อง ได้แก่ 1) การเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าจากภาคตะวันออกสู่ภาคใต้ และ 2) การผลักดันเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า

สำหรับเรือโดยสารสาธารณะ โดยในปี 65 จะมีการพัฒนาระบบคมนาคมทางน้ำ อาทิ การปรับปรุงกฎหมายการขนส่งทางน้ำให้ทันสมัย การศึกษาสำรวจจัดทำฐานข้อมูลพาหนะทางน้ำ การจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อเตรียมรับการประเมินจากองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ การจัดทำแผนความมั่นคงทางทะเล การสร้างเขื่อนแนวป้องกันการกัดเซาะตลิ่ง การจัดทำ Master Plan เพื่อฟื้นฟูชายหาดให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ รวมถึงการศึกษาความเป็นไปได้และรูปแบบการลงทุนเพื่อพัฒนาท่าเรือให้เป็นยอร์ชคลับ นอกจากนี้ ยังมีการเชื่อมต่อท่าเรือกับสถานีรถไฟฟ้า การจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ การพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ให้เป็น Automation Port และการพัฒนาบุคลากรด้านพาณิชยนาวีเป็นต้น

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ส่วนการคมนาคมขนส่งทางอากาศ จะแบ่งเป็นการขับเคลื่อนนโยบายปี 64 สานต่อปี 65 จำนวน 4 เรื่อง ได้แก่ 1) การเร่งรัดพัฒนาท่าอากาศยานเป็นศูนย์กลางรวบรวม กระจายสินค้าเกษตรหรือสินค้าเน่าเสียง่าย 2) การจัดตั้งศูนย์จัดจำหน่ายและกระจายสินค้า OTOP 3) การให้สิทธิการบริหารท่าอากาศยานของ ทย. แก่ทอท. และ 4) เตรียมการรองรับนักท่องเที่ยวตามนโยบายการเปิดประเทศของรัฐบาล สำหรับปี 2565 ได้เร่งรัดการพัฒนาท่าอากาศยานต่าง ๆ และนำระบบ Automation มาใช้ในการพัฒนาห้วงอากาศ ระบบการเดินอากาศ รวมถึงพัฒนากฎหมายและกฎระเบียบเพื่อรองรับเทคโนโลยีแห่งอนาคต การยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมการบิน ตลอดจนบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนั้น ในส่วนของการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน กระทรวงฯ มีนโยบายให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง โดยเปิดช่องทางการสื่อสารระหว่างกระทรวงฯ และประชาชน โดยการพัฒนา MOT Your Social 

ซึ่งประชาชนจะได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารของกระทรวงผ่านสื่อออนไลน์ของกระทรวง (Facebook, Twitter, Instagram, YouTube, TikTok, และ Podcast) ได้อย่างทั่วถึง สะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น และเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น เสนอแนะ ติดตามการดำเนินงาน ช่วยให้กระทรวงฯ สามารถดูแลประชาชนได้อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมงผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ 1) MOT Channel ผ่านทาง YouTube เพื่อสร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของกระทรวงฯ โดยประชาชนสามารถติดตามความเคลื่อนไหว ข่าวสารสำคัญ เข้าถึงทุกการดำเนินงาน ได้อย่างต่อเนื่อง 2) MOT Public Hearing เป็นช่องทางการสื่อสารกับประชาชนผ่านเว็บไซต์กระทรวงฯ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและรับฟังความคิดเห็นข้อเสนอแนะของประชาชน สร้างการมีส่วนร่วมในทุกแผนงานโครงการ และนโยบายสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาลและกระทรวงฯ เพื่อนำไปใช้ในการปรับปรุงการดำเนินงาน และแก้ไขปัญหาของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป และ 3) สายด่วน Call Center โทร. 1356 ซึ่งประชาชนสามารถสอบถาม ร้องเรียน และแจ้งเหตุได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ส่วนกระบวนพิจารณาเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ ได้ให้ความสำคัญกับการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมต่อการดำเนินโครงการ แผนงาน การก่อสร้าง ในการพัฒนาระบบคมนาคมทุกโหมดการเดินทาง โดยกระทรวงฯ มีนโยบายการจัดการข้อร้องเรียน การส่งเสริมช่องทางการรับข้อร้องเรียนที่หลากหลาย และการจัดการข้อร้องเรียนอย่างเป็นระบบและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาดำเนินการต่อข้อร้องเรียนด้วยความโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล และส่งเสริมให้ประชาชนได้รับบริการด้วยความสะดวกรวดเร็ว และผู้บริหารทุกระดับต้องมีส่วนร่วม ทั้งนี้ การเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนได้กำหนดกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นผ่านเวทีการประชุมรับฟังความเห็น การลงพื้นที่และการพูดคุยกับผู้นำชุมชน ประชาชน หรือหน่วยงานของภาครัฐในแต่ละพื้นที่ตั้งแต่ก่อน ระหว่าง และเมื่อดำเนินโครงการแล้วเสร็จ เพื่อนำข้อเสนอแนะที่ได้ไปพัฒนาโครงการให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน และประเทศชาติสูงสุด

นอกจากนี้ กระทรวงฯ ยังมีการจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการข่าวปลอมกระทรวงคมนาคม (MOT Anti-Fake News Center) ซึ่งมีหน้าที่ติดตาม ตรวจสอบข้อมูลข่าวสาร และรวบรวมสรุปประเด็นสำคัญในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการคมนาคมและขนส่ง เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงหรือให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ และสาธารณชนได้รับทราบอย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และทันต่อสถานการณ์ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เยี่ยมชมจุดเจาะน้ำบาดาล พร้อมดื่มน้ำแร่เลาขวัญ

กาญจนบุรี 9 มิ.ย.-นายกฯ ตรวจราชการ เยี่ยมชม 2 โครงการน้ำบาลแก้ภัยแล้ง จ.กาญจบุรี เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำ และยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นและทั่วถึง เตรียมใช้งบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจแก้ปัญหาน้ำ เผยรอยยิ้มของคนกาญจนบุรีเป็นกำลังใจสำคัญในการทำงานของรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่จังหวัดกาญจนบุรี 2 แห่ง โดยจุดแรก ที่บ้านปากชัดหนองบัว ต.หนองฝ้าย อ.เลาขวัญ จ. กาญจนบุรี โดยมี นายเฉลิมชัย ศรีอ่อนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมคณะนายกฯ นายกรัฐมนตรีรับฟังบรรยายสรุปจากกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ซึ่งเตรียมที่จะมีโครงการเสนอของบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในหมวดโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำ 12 โครงการ 3,194 รายการงบประมาณทั้งสิ้น 14,859 ล้านบาท โดยประชาชนจะได้รับประโยชน์กว่า 563,239 ครัวเรือน พื้นที่ได้รับประโยชน์กว่า 134,620 ไร่ และจะเกิดการจ้างงาน 29,214 คนรวมถึงเพิ่มปริมาณน้ำได้ถึง 211.46 ลูกบาศก์เมตรต่อปี […]

“ภูมิธรรม” ชี้กัมพูชาถอย เป็นความสำเร็จเจรจา “ฮุนเซน-ฮุนมาเนต”

ทำเนียบ 9 มิ.ย.-“ภูมิธรรม” ชี้กัมพูชายอมถอย เป็นความสำเร็จจากการเจรจา “ฮุนเซน-ฮุนมาเนต” และพูดคุยในทุกระดับ โยน กองทัพพิจารณามาตรการปิดด่าน เชื่อสถานการณ์จะค่อยๆ คลี่คลาย ย้ำถก JBC ยึดกรอบเดิม ไม่มีคุยปม 3 ปราสาท หวังความชัดเจนเส้นเขตแดน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชายอมถอนกำลังออกจากจุดประทะ และกลับไปอยู่ ในจุดที่เคยอยู่เมื่อปี 2567 ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากหลายปัจจัย และเป็นขบวนการที่พยายามพูดคุยกันทุกระดับ ตั้งแต่ระดับนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี จนไปถึงระดับกองทัพ โดยมีทูตทหารของไทยในกัมพูชาเป็นผู้ประสานงาน ซึ่งการพูดคุยมีมาอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงเมื่อวาน เวลาประมาณ 11.00 น. ซึ่งสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก็เห็นตรงกันว่าอยากหาข้อยุติที่เป็นสันติด้วยกัน เพราะการทำสงครามมันไม่มีประโยชน์ ซึ่งตนได้แจ้งว่า ในฐานะที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่เป็นผู้รับผิดชอบการสั่งให้รบกันมันง่าย แต่ความสูญเสียจะเกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย ดังนั้น สิ่งสำคัญคือจะทำอย่างไรให้ทุกอย่างยุติ โดยไม่เกิดความสูญเสีย สิ่งสำคัญคือ เราอยากลดการเผชิญหน้า ซึ่งจากการพูดคุยพบว่ามี มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนทั้งสองฝ่าย จึงเหมือนว่าการคุยกันยังไม่ยุติ จึงต้องพูดคุยกันใหม่ […]

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย