กระทรวงการคลัง 8 เม.ย.-รัฐมนตรีคลังอาเซียน เห็นพ้องเศรษฐกิจอาเซียนปี 65 ขยายตัวร้อยละ 5 มุ่งฟื้นตัวเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม “อาคม” พอใจ Moody’s คงอันดับความน่าเชื่อถือ Baa1 เพราะนโยบายการคลังฟื้นเศรษฐกิจแบบยืดหยุ่น
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวระหว่างการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน ครั้งที่ 26 และการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน ครั้งที่ 8 โดยมีราชอาณาจักรกัมพูชาเป็นเจ้าภาพ ประจำปี 2565 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ว่า เวทีรัฐมนตรีคลังอาเซียน มุ่งเน้นหารือ การปฏิรูปภาษีเพื่อเป็นแหล่งรายได้ ให้รัฐบาลใช้พัฒนาโครงการต่างๆ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจยุคหลังโควิด-19 เพราะรัฐมนตรีคลังอาเซียน และทุกสถาบันระหว่างประเทศ มองตรงกันว่าปี 65 เป็นปีแห่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอาเซียน ขยายตัวร้อยละ 5
คลังอาเซียน ยังเดินหน้าผลักดัน การออกพันธบัตรเพื่อความยั่งยืน (Sustainability Bond) เพื่อเป็นช่องทางหนึ่งระดมทุน พัฒนาโครงการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม โครงการเพื่อเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากโควิด-19 หลังการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการคลังและธนาคารกลางอาเซียน เดินหน้าผลักดันแผนการรวมตัวทางการเงินการคลังอาเซียน ปี 2565- 2566 ใน 6 ประเด็นหลัก ได้แก่ (1) การเปิดเสรีบัญชีทุนเคลื่อนย้าย (2) การพัฒนาตลาดทุน (3) การเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงิน (4) การรวมตัวภาคการธนาคารอาเซียน (5) การเข้าถึงบริการทางการเงิน และ (6) ระบบการชำระเงินและธุรกรรมทางการเงิน ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันในอาเซียน
รวมถึงแนวนโยบายด้านสกุลเงินดิจิทัล ออกโดยธนาคารกลาง (Central Bank Digital Currency) และแนวทางการกำกับสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อนำมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีอากร โดยร่วมกันทำนโยบายฟื้นเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สถาบันการเงินระหว่างประเทศขอให้รัฐบาลรักษารระดับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน จึงขอให้ ADB และ AIIB ให้การช่วยเหลือ ทั้งเร่งรัดเบิกจ่ายและปล่อยกู้เพิ่มเติมช่วงโควิด-19
นายอาคม ชี้แจงต่อเวทีประชุมคลังอาเซียน ขอเรียกร้องสถาบันการเงินระหว่างประเทศ ให้ความช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนา เมื่อเฟดทยอยปรับเพิ่มดอกเบี้ย ทำให้ดอกเบี้ยตราสารหนี้เพิ่มเติม เมื่ออาเซียนไม่แข็งแรง จึงขอผ่อนคลายกฎเกณฑ์ในการจัดทำโครงการเสนอขอกู้ผ่านสถาบันการเงินระหว่างประเทศ ที่ประชุมคลังอาเซียน มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพแรงงาน แต่คลังอาเซียนยังเป็นห่วงประชาชนรายย่อยอาเซียนยังไม่พื้นตัวเต็มที่ แม้รัฐบาลทุกประเทศทุ่มเงินช่วยเหลือจำนวนมาก ยอมรับว่าทุกประเทศมีศักยภาพการใช้จ่ายช่วงโควิด-19 ไม่เท่ากัน
นายอาคม ย้ำในที่ประชุมว่า เศรษฐกิจไทยในปี 65 ขยายตัวร้อยละ 3-4 มาจากแรงขับเคลื่อนภายในประเทศ และการท่องเที่ยวเริ่มคลี่คลายดีขึ้น การส่งออกขยายตัวได้ดี จากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว รวมถึงมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อจากมาตรการรัฐ แต่ไทยยังเฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยง จากปัญหาโควิด-19 ความเปราะบางด้านแรงงาน หนี้ครัวเรือน ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ราคาพลังงาน และสินค้าปรับสูงขึ้น
รัฐมนตรีคลัง พอใจ Moody’s คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย Baa1 และมุมมองความน่าเชื่อถือที่ระดับมีเสถียรภาพ ซึ่งคาดจีดีพีไทยขยายตัวร้อยละ 3.4 จากการทำนโยบายการคลังรอบคอบ แม้ขยายเพดานก่อหนี้ยังใช้เงินอย่างระมัดระวัง เพื่อลดภาระหนี้สาธารณะ เพราะทุนสำรองระหว่างประเทศยังเข้มแข็ง การดำเนินโยบายการเงินการคลัง ประสานงานกันด้วยดี การผลักดันอุตหสากรรมเป้าหมาย เข้ามาลงทุนในเขตอีอีซี และการฟื้นเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้สถาบันต่างประเทศมีความเชื่อถือต่อการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล .-สำนักข่าวไทย