กระทรวงการคลัง 8 มี.ค.- ครม. เห็นชอบยกเว้นภาษีน้ำมันดีเซล น้ำมันเตา เพื่อผลิตไฟฟ้า เพื่อลดภาระค่าไฟ พร้อมหารือหน่วยงานเศรษฐกิจ ยอมรับ GDP หลุดเป้าหมาย เตรียมหามาตรการช่วยเหลือเพิ่ม เพื่อลดภาระค่าน้ำประปา ไฟฟ้า ทั้งกลุ่มเปราะบาง และประชาชนทั่วไป ยอมรับกองทุนน้ำมันแบกรับภาระถึงเดือน พ.ค. ยอมรับมาตรภาษีทุกประเภท ภาครัฐสูญเสียรายได้ 17,00 ล้านบาท
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบ ยกเว้นภาษีสรรพสามิต สำหรับการนำน้ำมันดีเซลและน้ำมันเตาไปผลิตกระแสไฟฟ้าโดยเฉพาะ เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตกระแสไฟฟ้า บรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชนและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ท่ามกลางปัญหาโควิด-19 โดย กฟผ.เปลี่ยนจากการใช้จากก๊าซธรรมชาติ (NG) มาเป็นน้ำมันดีเซลและน้ำมันเตา ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยของการผลิตไฟฟ้าลดลง 1-1.5 สตางค์ต่อหน่วย ในช่วงระยะเวลา 6 เดือน จึงไม่กระทบต่อประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า
นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า การผลิตกระแสไฟฟ้าของไทยกว่าร้อยละ 60 ผลิตจากก๊าซธรรมชาติ (NG) เมื่อราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และปัจจัยเงินบาทอ่อนค่าลง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตกระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้น รัฐบาลจึงต้องเปลี่ยนมาใช้น้ำมันดีเซล (บี0) และน้ำมันเตามาเป็นเชื้อเพลิงทดแทนก๊าซธรรมชาติ ปัจจุบันน้ำมันดีเซล (บี0) ราคา 3.44 บาทต่อลิตร ส่วนน้ำมันเตามีภาระภาษีสรรพสามิต ราคา 0.64 บาทต่อลิตร
นายอาคม กล่าวเพิ่มเติมว่า จากปัญหาการสู้รบในยูเครนกับรัสเซีย ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดิมคาดการ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อเบเรลล์ ได้ขยับเพิ่มเป็น 120 ดอลาร์สหรัฐต่อบาเรลล์ ยอมรับว่าขณะนี้กองทุนน้ำมันและเชื้อเพลิงยังดูแลราคาน้ำมันได้ โดยพยุงราคาดีเซล 30 บาทต่อลิตร ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ดูแลได้ถึงเดือนพฤษภาคมนี้ แต่ยังเดินหน้าหาแหล่งเงินกู้จาก 3 หมื่นล้านบาทเพิ่มเป็น 4 หมื่นล้านบาท หากราคาน้ำมันดิบ ยังคงระดับ 120-130 ดอลลาร์สหรัฐเป็นเวลานาน ทุกหน่วยงานต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อดูแลผลกระทบต่อต้นทุนขนส่ง และค่าครองชีพ ยอมรับว่ามาตรการภาษีทั้งหมดทำให้ภาครัฐสูญเสียรายได้ 17,00 ล้านบาท
เมื่อไทยได้รับผลกระทบจากราคาพลังงาน การท่องเที่ยว จากปัจจัยยูเครน-รัสเซียน หน่วยงานด้านเศรษฐกิจ ทั้งคลัง สภาพัฒน์ ธปท. สำนักงบประมาณ จึงต้องประเมิน GDP ร่วมกันอีกครั้ง จากเป้าหมายเดิมจีดีพีโตร้อยละ 3.5-4.5 อาจหลุดฐานด้านล่าง เพราะยอดนักท่องเที่ยวปี 65 อาจลดลงจาก 7 ล้านคน ผลกระทบจากรัสเซียนงดส่งออกปุ๋ย ทำให้ต้นทุนเกษตรกรสูงขึ้น สำหรับการส่งออกไทยไปยังรัสเซีย มีมูลค่า 30,000 ล้านบาท จึงต้องประเมินปัจจัยลบว่ามีผลต่อเศรษฐกิจไทยอย่างไรบ้าง แต่รัฐบาลยังเดินหน้าหามาตรการเพิ่มเติม เพื่อดูแลกลุ่มเปราะบาง และประชาชนทั่วไป ทั้งค่าน้ำประปา ไฟฟ้า คาดว่าสรุปได้ในเร็วๆนี้ โดยยังพอใจเมื่อเห็นรายได้กรมสรรพากร ในช่วง 5 เดือนแรกเกินเป้าหมาย 84,000 ล้านบาท ขณะที่กรมสรรพสามิตต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลยังเดินหน้าสานสัมพันธ์กับซาอุดิอารเบีย ผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก เพื่อขอโควต้าราคาพิเศษ นายกรัฐมนตรี ยังสั่งการให้ทุกหน่วยงานรณรงค์ประหยัดพลังงานในองค์กร ทั้งการเปิด ปิดแอร์ การขนบริหารส่งเที่ยวเปล่าขากลับ ทำทุกอย่างเหมือนที่เคยร่วมมือในช่วงที่ผ่านมา เพื่อร่วมกันลดผลกระทบจากพลังงานแพง.-สำนักข่าวไทย