จีนออกระเบียบนำเข้าสินค้าอาหารใหม่เริ่มมีผลม.ค. 65

กรุงเทพฯ 4 ม.ค.– รมว. เกษตรฯ ย้ำเร่งความเข้าใจผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามระเบียบใหม่ของศุลกากรจีนในการนำเข้าสินค้าอาหาร พร้อมขอความร่วมมือจากเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยในการอำนวยความสะดวกการนำเข้าผลไม้และสินค้าอาหารจากไทย


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า สำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (General Administration of Customs of the People’s Republic China: GACC) ออกระเบียบใหม่สำหรับการนำเข้าสินค้าอาหารคือ ระเบียบฉบับที่ 248 (Decree 248) ว่าด้วยการขึ้นทะเบียนผู้ผลิตอาหารนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ซึ่งสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงปักกิ่งจัดทำเอกสารประกอบการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเผยแพร่ประกอบด้วย 

1. คู่มือการเข้าใช้ระบบฉบับภาษาไทย 


2. คู่มือการดำเนินงานการให้บริการของทางการ “การขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการผลิตอาหารในต่างประเทศที่นำเข้ามายังสาธารณรัฐประชาชนจีน” ฉบับภาษาไทย 

3. เอกสารรวบรวมประเด็นข้อคำถามของผู้ผลิตอาหารที่พบบ่อยในการปฏิบัติตาม Decree 248 (FAQ) จากการประสานงานกับศุลกากรจีนและการเข้าร่วมประชุมออนไลน์ระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนและศุลกากรจีน

ทั้งนี้ผู้ประกอบการผลิตอาหารของไทยที่จะส่งออกไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนสามารถดาวน์โหลดเอกสารได้ที่ https://www.moac.go.th/site-home หรือ https://www.opsmoac.go.th/news-preview-432991791570


นอกจากนี้ยังเสนอต่อนายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีน ประจำประเทศไทยว่า ไทยขอเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมทางเทคนิคด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพีชไทย-จีน ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับสำนักงานศุลกากรของจีนเพื่อให้เกิดความชัดเจนในระเบียบใหม่ดังกล่าว การติดตามความก้าวหน้าในการเปิดตลาดสินค้าเกษตรไทย รวมถึงแนวทางที่ชัดเจนในการอนุญาตผู้ประกอบการไทยที่ปฏิบัติตามมาตรการระงับการส่งออกด้วยตนเอง (self-ban) สามารถส่งออกสินค้าได้อีก เป็นต้น 

นายเฉลิมชัยกล่าวต่อว่า ได้หารือความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างไทยกับจีน โดยเฉพาะการลดผลกระทบจากมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ด่านศุลการกรนำเข้าของจีน ซึ่งยืนยันว่า สินค้าเกษตรไทยมีความปลอดภัย กระทรวงเกษตรฯ ให้ความสำคัญกับมาตรการป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโควิด-19 ในสินค้าเกษตรทั้งพืช ประมง และปศุสัตว์ตลอดห่วงโซ่การผลิตอย่างเข้มงวด รวมถึงปฏิบัติตามแนวทางสากล ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติที่ทางการจีนให้การยอมรับ และแนะนำให้ประเทศคู่ค้าปฏิบัติตาม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยหวังว่า จีนจะอำนวยความสะดวกสำหรับฤดูกาลผลไม้ของไทยในปี 2565 ต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย