อุตฯ มอบของขวัญปีใหม่65 จัดมหกรรมสินค้าราคาโรงงาน

กรุงเทพฯ 15 ธ.ค.- ก.อุตสาหกรรมมอบของขวัญให้ประชาชนและผู้ประกอบการปี 65 เตรียมจัดงานจำหน่ายสินค้าราคาโรงงานและงานจำหน่ายรถยนต์ราคาถูกในพื้นที่ต่างจังหวัด พร้อมระดมสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำวงเงินรวมกว่า 32,030 ล้านบาท ช่วยเหลือผู้ประกอบการและเอสเอ็มอีให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน พร้อมสนับสนุนเครื่องมือทางการเกษตรแก่เกษตรกรชาวไร่อ้อย


นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้มอบหมายให้ทุกกระทรวงจัดทำแผนงานโครงการมอบเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับคนไทยทุกคน กระทรวงอุตสาหกรรมจึงได้จัดของขวัญปีใหม่ 2565 เพื่อมอบให้ประชาชนและผู้ประกอบการ ด้วยการจัดมหกรรมจำหน่ายสินค้าราคาโรงงาน โดยคัดสรรสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อช่วยลดค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน โดยมีทั้งสินค้าจากศรีไทยซุปเปอร์แวร์ สินค้าจากผู้ประกอบการโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ.ชลบุรี ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย สินค้าSMEs และโอทอป สินค้าชุมชนจากโครงการ Farm to Factory โดยจะจัดระหว่างวันที่ 23-24 ธันวาคม 2564 ณ บริเวณนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดชลบุรี และมหกรรมแสดงและจำหน่ายสินค้า DIPROM MOTOR OUTLET จำหน่ายรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเครื่องจักรกลการเกษตรในราคาพิเศษ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและลดภาระให้ผู้บริโภค โดยจะจัด ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาวัสดุอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ จังหวัดลำปาง 

 พร้อมเสิร์ฟสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำมูลค่า 32,030 ล้านบาท กว่า 5 โครงการ จากสำนักงานกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ กสอ. และธพว. ได้แก่ สินเชื่อเพิ่มศักยภาพSME สำหรับ SME ผู้ผลิตให้บริการค้าปลีกค้าส่งในกลุ่มอุตสาหกรรม BCG (Bio Circular Green) กรอบวงเงิน 1,000 ล้านบาท วงเงินสินเชื่อต่อรายสูงสุดไม่เกิน 15 ล้านบาท ระยะเวลากู้ สูงสุดไม่เกิน 10 ปี ปลอดชำระคืนเงินต้น สูงสุดไม่เกิน 18 เดือน ดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี ตลอดอายุสัญญา คาดว่าจะเปิดรับคำขอสินเชื่อได้ในช่วงเดือนมกราคม 2565 


ทั้งนี้ สินเชื่อ สร้างโอกาส เสริมสภาพคล่อง SME สำหรับ SME ผู้ผลิตให้บริการค้าปลีกหรือค้าส่ง เพื่อสนับสนุนให้ความช่วยเหลือเงินทุนแก่เอสเอ็มอีที่มีศักยภาพที่เป็นนิติบุคคลและเป็นกลุ่มธุรกิจเป้าหมายที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน และเพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับ SME ให้นำเงินทุนไปใช้ในการปรับปรุง ลงทุนในกิจการ ฟื้นฟู กิจการในปัจจุบัน หรือเริ่มต้นกิจการใหม่ โดยมีกรอบวงเงิน 500 ล้านบาท วงเงินสินเชื่อต่อรายตั้งแต่ 1 แสนบาทและสูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 7 ปี ปลอดชำระคืนเงินต้น สูงสุดไม่เกิน 12 เดือน ดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี ตลอดอายุสัญญา คาดว่าจะเปิดรับคำขอสินเชื่อได้ในช่วงเดือนมกราคม 2565

สินเชื่อเพื่อฟื้นฟู SME เพื่อเป็นเงินทุนช่วยเหลือให้กับ SME กลุ่มเดิมที่เป็นลูกหนี้สินเชื่อของกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ที่มีภาระหนี้เงินต้นวงเงินกู้สินเชื่อระยะยาว (Term Loan) คงเหลืออยู่กับกองทุนได้นำเงินทุนไปใช้ในการปรับปรุง ลงทุน เงินทุนหมุนเวียน เสริมสภาพคล่องในการดำเนินกิจการ หรือฟื้นฟูกิจการในปัจจุบันหรือเริ่มต้นกิจการใหม่ โดยผู้รับสินเชื่อต้องเป็นลูกหนี้ในโครงการสินเชื่อของกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ 

หรือโครงการฟื้นฟูและเสริมศักยภาพวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สำหรับ SMEs – คนตัวเล็ก หรือโครงการสินเชื่อ SME โตไว ไทยยั่งยืน กรอบวงเงิน 500 ล้านบาท วงเงินสินเชื่อต่อรายสูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาท 


ทั้งนี้ เมื่อรวมกับภาระหนี้เงินต้นคงเหลือและดอกเบี้ยคงค้างของสัญญากู้ยืมเงินกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ต้องไม่เกินจากวงเงินสินเชื่อ ที่ได้รับอนุมัติเดิมระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 7 ปี ปลอดชำระคืนเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน ดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี ตลอดอายุสัญญา คาดว่าจะเปิดรับคำขอสินเชื่อได้ในช่วงเดือนมกราคม 2565

สินเชื่อพิเศษดีพร้อมเปย์ (DIProm Pay) สำหรับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ที่ผ่านการเข้าร่วมโครงการของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ยื่นคำขอภายใน 30 เมษายน 2565 หรือจนกว่าจะครบจำนวนวงเงินโครงการ ทั้งนี้ขอสงวนสิทธิ์ระยะเวลาสิ้นสุดโครงการก่อนกำหนด หากมีการอนุมัติสินเชื่อเต็มวงเงินแล้ว) โดยอัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะสั้นแบบขั้นบันได เริ่มต้นปีแรก 3% ปีที่สอง 4% และ ปีที่สาม 5% สนใจสามารถติดต่อได้ที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

สินเชื่อ SMEs Happy สำหรับลูกค้าเดิมของ ธพว. และผู้ประกอบการ SMEs ทั่วไป เพื่อขยายกิจการ 

เสริมสภาพ รักษาการจ้างงาน และฟื้นฟูกิจการหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย โดยแบ่งเป็น 3 โครงการได้แก่ โครงการ SMEs D Plus วงเงิน 5,000 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 4.5 ต่อปี โครงการSMEs D เพื่อการลงทุน วงเงิน 5,000 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 5.5 ต่อปี และโครงการ SMEs D เสริมสภาพคล่อง วงเงิน 5,000 ล้านบาท ดอกเบี้ยเริ่มต้นร้อยละ 6 ต่อปี วงเงินรวม 15,000 ล้านบาท โดยให้วงเงินกู้ลูกค้าเดิมของ ธพว. สูงสุด 25 ล้านบาทต่อราย ด้านลูกค้าใหม่สูงสุด 15 ล้านบาทต่อราย โดยผู้กู้จะได้รับการยกเว้นค่าประเมินราคาหลักประกันเมื่อยื่นกู้ในระหว่างวันที่ 3 มกราคม – 31 มีนาคม 2565 โดยคาดว่าโครงการนี้จะทำให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุนกว่า 2,000 ราย สร้างมูลค่าหมุนเวียนทางเศรษฐกิจกว่า 60,000 ล้านบาท และรักษาการจ้างงานกว่า 10,000 คน สนใจสามารถติดต่อได้ที่ SME D Bank ทุกสาขาทั่วประเทศ

นอกจากของขวัญข้างต้นแล้ว กระทรวงอุตสาหกรรมยังเตรียมของขวัญอีก 3 กล่อง เพื่อมอบให้แก่ผู้ประกอบการ ประชาชนและเกษตรกร ประกอบด้วย 1.การอำนวยความสะดวก ลดต้นทุนของผู้ประกอบการ 

2.ยกระดับผู้ประกอบการ และ 3.ดูแลเกษตรกรและประชาชน 

 1.การอำนวยความสะดวก ลดต้นทุนของผู้ประกอบการ เปิดให้ใช้บริการงานอนุญาตของสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ 100% การยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ประกอบการ การยกเว้นค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนเครื่องจักร ซึ่งผู้ประกอบการจะสามารถลดค่าใช้จ่าย และมีสภาพคล่องในการประกอบการเพิ่มขึ้น รวมทั้งลด

ความเสี่ยงในการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 การยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีให้แก่

ผู้ประกอบกิจการโรงงาน เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมได้อย่างมีสภาพคล่องเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาติดต่อราชการ ซึ่งโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ กว่า 59,796 โรงงานได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปี 

2. ยกระดับผู้ประกอบการ  ได้แก่ การกำหนดมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับ Covid-19 เพื่อเป็นเกณฑ์สำหรับการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพ คุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยปัจจุบัน สมอ. กำหนดมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับ Covid-19 ไปแล้วจำนวน 39 มาตรฐาน แจกต้นแบบผลิตภัณฑ์พัฒนาจากกัญชง 

สู่การใช้ประโยชน์เชิงอุตสาหกรรม ให้เกษตรกร ผู้สนใจ หรือผู้ประกอบการสามารถรับตัวอย่างผลิตภัณฑ์จากกัญชงกว่า 28 ผลิตภัณฑ์ได้ฟรี เพื่อนำผลิตภัณฑ์ต้นแบบมาต่อยอดเชิงธุรกิจต่อไปได้ พร้อมทั้งบริการให้คำปรึกษาแนะนำและออกแบบรรจุภัณฑ์ ฉลาก สติกเกอร์ พร้อมทั้งจัดทำต้นแบบให้ผู้ประกอบการฟรี มอบต้นแบบเครื่องมือแพทย์ด้วยเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ สู่การใช้งานจริงในกลุ่มสถานพยาบาลระดับต่าง ๆ ทั้งสถานพยาบาลของรัฐและเอกชนการเตรียมความพร้อมสู่โรงงานการผลิต BCG Model เพื่อรองรับตลาด New Normal จำนวน 50 โรงงาน การเปิดคลินิคให้คำปรึกษาแนะนำด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์แก่วิสาหกิจชุมชน เพื่อให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึกในสาขาแฟชั่น ของใช้ของตกแต่งบ้าน สมุนไพร และอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงบริการออกแบบสเก็ตภาพผลิตภัณฑ์ เพื่อการพัฒนาเป็นต้นแบบผลิตภัณฑ์แก่ผู้ประกอบการแบบไม่มีค่าใช้จ่าย และทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมแจกซอฟแวร์สำหรับเอสเอ็มอีไทย จำนวน 34 โปรแกรม ให้ใช้ฟรี 6 เดือน เป็นโปรแกรมด้านบัญชี การเงิน ด้านการตลาดออนไลน์ ด้านการบริหารจัดการ ด้านการบริหารบุคคล ด้านการสื่อสาร และด้านบริการลูกค้าสัมพันธ์ 

3. ดูแลเกษตรกรและประชาชน ได้แก่ โครงการเหมืองแร่ปลอดภัยห่วงใยประชาชนปีที่5 โดยจัดกิจกรรมดูแลสุขภาพของประชาชนโดยรอบสถานประกอบการและบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง การติดตั้ง QR Code หน้าโรงงาน เปิดเผยข้อมูลพื้นฐานของโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อให้ภาคประชาชน/ชุมชน เกิดความเชื่อมั่นต่อการปฏิบัติงานของภาครัฐ และภาคอุตสาหกรรม ด้วยการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการเพิ่มช่องและอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลภาครัฐ และการมีส่วนร่วมในการกำกับดูแลสถานประกอบการ การแสดงคิวอาร์โค้ด (QR Code) คู่กับเครื่องหมายมาตรฐานที่ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตตามมาตรฐานเพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบและร้องเรียนได้ว่าสินค้าดี มีคุณภาพ และเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ การจัดหาเครื่องสางใบอ้อย จำนวน 288 เครื่องให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยได้ยืมใช้ เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือชาวไร่อ้อยในการตัดอ้อยสด รวมถึงช่วยลดPM 2.5 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

บุรีรัมย์สั่งอพยพชาวบ้านเพิ่ม 3 อำเภอ

บุรีรัมย์ 27 ก.ค.-บุรีรัมย์ ประกาศให้ชาวบ้านอพยพเพิ่มอีก 3 อำเภอ หลังพื้นที่ปะทะและรัศมีอาวุธขยายไปไกลขึ้น ทั้งวัด โรงเรียน ศูนย์พักพิงชั่วคราว และ รพ.อีก 2 แห่ง ต้องอพยพผู้ป่วยด่วน เหลือเพียงหน่วยรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ช่วงเวลาบ่าย 2-3 โมง เมื่อวานนี้ ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีเสียงปืน เสียงระเบิดดังเป็นระยะ และมีกระสุนปืนใหญ่ ตกในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จึงประกาศให้ชาวบ้านในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.ละหานทราย อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.โนนดินแดง อพยพไปอยู่ตามบ้านญาติ หรือศูนย์พักพิงที่ห่างไกลจากรัศมีวิถีกระสุนปืนใหญ่ และอาวุธหนัก บางครัวเรือนก็มีลูกหลานมารับออกไปแล้ว ส่วนชาวบ้านที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ทางเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ก็ได้จัดรถไปช่วยอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ด้วย ด้าน โรงพยาบาลในพื้นที่ 2 แห่ง คือ รพ.ละหานทราย และ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ก็มีการอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลเช่นกัน รวมถึงให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกจากพื้นที่ เหลือไว้แค่หน่วยที่จะรับผู้ป่วยฉุกเฉิน […]

Trump says he is seeking a ceasefire between Thailand, Cambodia

“ทรัมป์” โยงเรื่องการค้ากับหยุดยิงไทย-กัมพูชา

เอดินบะระ 27 ก.ค.-  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ พูดคุยกับผู้นำของทางการไทยและกัมพูชา โดยโยงเรื่องการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐกับเรื่องหยุดยิงของทั้ง 2 ประเทศ ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ในระหว่างการเยือนสกอตแลนด์เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ไทยและกัมพูชา 3 โพสต์ติดต่อกัน โพสต์แรกระบุว่า ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี มาเนตกัมพูชาและนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษานายกรัฐมนตรีของไทย เรื่องการหยุดยิงและยุติสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ สหรัฐซึ่งกำลังหารือทางการค้ากับทั้ง 2 ประเทศอยู่ในขณะนี้ไม่ต้องการทำข้อตกลงกับประเทศใดประเทศหนึ่งหากยังมีการสู้รบกันอยู่ กัมพูชาจะแสดงท่าทีเรื่องหยุดยิงหลังจากที่เขาได้คำตอบจากไทยในเรื่องนี้ นายทรัมป์ระบุด้วยว่า สถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาทำให้เขานึกถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างปากีสถานกับอินเดียที่ได้รับการยับยั้งเป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมง ประธานาธิบดีทรัมได้โพสต์ข้อความใหม่ว่า ได้สนทนากับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ฝ่ายไทยต้องการหยุดยิงและสันติภาพเช่นเดียวกับกัมพูชา และหลังจากนั้นไม่นานผู้นำสหรัฐโพสต์ข้อความที่ 3 ว่า เพิ่งเสร็จสิ้นการสนทนากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและแจ้งเรื่องที่ได้หารือกับทางการไทย ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการหยุดยิงและสันติภาพ และต้องการกลับมาเจรจาทางการค้ากับสหรัฐ โดยตกลงจะพบหารือและหาทางหยุดยิงโดยทันที ด้านนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย เปิดเผยกับสื่อที่เมืองปุตราจายาเมื่อวานนี้ว่า จะเดินหน้าผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งยังคงมีการยิงปะทะกันอยู่ เขาได้ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียประสานงานกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชา และหากเป็นไปได้ เขาจะเข้าไปประสานงานด้วยตัวเองเพื่อหยุดยั้งการสู้รบ รอยเตอร์รายงานว่า กัมพูชาสนับสนุนข้อเสนอของนายอันวาร์ ส่วนไทยระบุว่า เห็นชอบในหลักการ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ “กัมพูชา” เปิดฉากยิงทหารไทยแต่เช้าตรู่

กทม. 27 ก.ค.-โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ กัมพูชาโจมตีทหารไทยแต่เช้าตรู่ หลัง “ทรัมป์” ขอให้หยุดยิง พบบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากจรวดBM-21 เมื่อวันที่ 27 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือ นายกฯ กัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ หากไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาเรื่องภาษีสหรัฐนั้น ว่า กัมพูชายังไม่หยุดยิง และยังตอบโต้มาอยู่ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ มีจรวดตกนอกเขตปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ เมื่อเวลา 04.30 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทย ด้วยเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 แต่ด้วยเป้าหมายของทางกัมพูชาไม่ใช่พื้นที่ทางทหาร แต่เป็นบ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานพยาบาล และชุมชน โดยเมื่อ เวลา 06.30 น. กระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านตาโสร์ ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สรินทร์ […]

“ภูมิธรรม” เผยเห็นชอบข้อเสนอ “ทรัมป์” แต่กัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผยคุย “ทรัมป์” เห็นชอบข้อเสนอหยุดยิง แต่ต้องการเห็นความตั้งใจจริงของกัมพูชาและเร่งหารือทวิภาคี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านfacebook Phumtham Wechayachai เมื่อคืนวานนี้ (27 ก.ค.) ว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที เพื่อยุติความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นบริเวณชายแดน ฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีจากสหรัฐฯ พร้อมยืนยันว่า “ในหลักการ ฝ่ายไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง” อย่างไรก็ดี ไทยยังต้องการเห็น “ความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว” ไทยจึงได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยถ่ายทอดจุดยืนนี้ไปยังกัมพูชา โดยเสนอให้มีการหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด และให้กัมพูชาแสดงความจริงจังและจริงใจ เพื่อกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนในการหยุดยิง ซึ่งจะนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืนในระยะยาว การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของนานาชาติในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา สำหรับข้อความที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ระบุว่า “เมื่อครู่ที่ผ่านมา ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที ผมได้กล่าวขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีของฝ่ายสหรัฐฯ และยืนยันว่า […]