เกษตรฯ เร่งต่ออายุหนังสือคนประจำเรือ แก้ขาดแรงงานช่วงโควิด-19

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – รมว. เฉลิมชัยสั่งกรมประมงเร่งรัดการออก Seabook ให้แรงงานต่างด้าวเป็นกรณีพิเศษในสถานการณ์โควิด-19 เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน ย้ำต่อได้เพียง 1 ปีเท่านั้น


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยว่า สั่งการให้กรมประมงต่ออายุหนังสือคนประจำเรือ (Seabook เล่มเหลือง) ให้แรงงานต่างด้าวที่ได้รับหนังสือคนประจำเรือออกไปอีก 1 ปี นับแต่วันที่หนังสือคนประจำเรือเดิมสิ้นอายุ ตามที่ครม. มีมติให้ดำเนินการได้เป็นกรณีพิเศษ ล่าสุดกรมประมงรายงานว่า ประชุมร่วมกับสำนักงานประมงจังหวัดชายทะเล สมาคมการประมงชายทะเลในพื้นที่ทั้ง 22 จังหวัด และสมาคมการประมงแห่งประเทศไทยแล้ว เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้นายจ้างหรือผู้รับอนุญาตให้นำคนต่างด้าวมาทำงานซึ่งยื่นขอรับบัญชีรายชื่อความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าวไว้กับกระทรวงแรงงาน (Name list) ไม่สามารถดำเนินการขอตรวจลงตราขอรับใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) และขอจัดทำหรือปรับปรุงทะเบียนประวัติแรงงานที่ไม่มีสัญชาติไทยได้ทัน ส่งผลให้หนังสือคนประจำเรือที่กำหนดให้มีอายุเท่ากับใบอนุญาตทำงานตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการทำงานของคนต่างด้าวหมดอายุลงไปด้วย จึงส่งผลกระทบต่อการออกทำการประมง

นายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมงกล่าวว่า แรงงานต่างด้าวที่จะขอต่ออายุหนังสือคนประจำเรือ จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังนี้ 1.ต้องเป็นคนต่างด้าวที่ได้รับหนังสือคนประจำเรือตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2563


2. เจ้าของเรือได้จัดทำหนังสือสัญญาจ้างตามแบบที่กำหนดในประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมสวัสดิการฯ ได้ตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนของสัญญาจ้างและลงลายมือชื่อกำกับไว้

3.คนต่างด้าวต้องมีใบรับรองการตรวจสุขภาพซึ่งครอบคลุมถึงการตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และการประกันสุขภาพมีอายุคุ้มครองอย่างน้อย 1 ปี ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการตรวจสุขภาพและประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าว

4. คนต่างด้าวจะต้องยื่นคำขอจัดเก็บข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตรวจคนเข้าเมืองจังหวัด หรือสถานที่อื่นที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกำหนด ภายใน 45 วัน นับแต่วันที่ได้รับใบรับคำขอต่ออายุหนังสือคนประจำเรือจากกรมประมง


สำหรับเอกสารประกอบการยื่นขอต่อหนังสือคนประจำเรือได้แก่ หนังสือคนประจำเรือที่หมดอายุ บัญชีรายชื่อความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าว (Name list) ใบอนุญาตทำงานตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวฉบับเดิม สำเนาใบอนุญาตทำการประมงของเจ้าของเรือ สำหรับเรือประมงที่มีขนาดตั้งแต่สิบตันกรอสขึ้นไป สำเนาใบทะเบียนเรือ และสำเนาใบอนุญาตให้ใช้เรือ สำหรับเรือประมงที่มีขนาดน้อยกว่าสิบตันกรอส และสำเนาหนังสือสัญญาจ้างให้ทำงานในเรือประมง

ทั้งนี้ การต่ออายุหนังสือคนประจำเรือกรณีพิเศษ (Seabook เล่มเหลือง) ที่ได้รับการต่ออายุ จะมีอายุ 1 ปีเท่านั้น โดยกรมประมงมั่นใจว่า จะลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการประมงได้. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง