กรุงเทพฯ 23 มิ.ย.-ปตท. แจ้งคำพิพากษาข้อพิพาทกับ อาร์พีซีจี สุดท้ายศาลแพ่งสั่งให้ 2 ฝ่ายจ่ายซึ่งกันและกันตามอนุญาโตตุลาการ โดย ปตท.ระบุจะหักลบกลบหนี้ระหว่างกัน ยอดบวกต่อ ปตท.ประมาณ 600 ล้านบาท
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ปตท.แจ้ง ตลท. โดย รายงานคําพิพากษาศาลฎีกา เรื่อง การดําเนินการเกี่ยวกับข้อพิพาทระหว่าง ปตท. กับบริษัท อาร์พีซีจี จํากัด (มหาชน) ซึ่งมีข้อพิพาทอนุญาโตตุลาการระหว่างกัน สรุปได้ดังนี้
- ข้อพิพาทของสถาบันอนุญาโตตุลาการ หมายเลขดําที่ 114/2552หมายเลขแดงที่ 23/2559RPCG เรียกร้องให้ ปตท. จ่ายค่าเสียหายจากการบอกเลิกสัญญาโดยไม่มีสิทธิ ซึ่งคณะอนุญาโตตุลาการเสียงข้างมากมีคําชี้ขาดให้ ปตท. จ่ายค่าเสียหายในอัตรา 390,000,000 บาทต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555 จนถึงวันที่คณะอนุญาโตตุลาการมีคําชี้ขาด (25 มีนาคม 2559) คิดเป็นเงินประมาณ 1,600ล้านบาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของยอดเงินค่าเสียหายที่ได้จากการคํานวณข้างต้น นับตั้งแต่วันที่คณะอนุญาโตตุลาการมีคําชี้ขาดจนถึงวันที่ ปตท. ชําระเงินครบถ้วน และต่อมา ปตท. ยื่นคําร้องต่อขอให้เพิกถอนคําชี้ขาดต่อศาลแพ่งและ RPCG ยื่นคําร้องขอให้บังคับตามคําชี้ขาดต่อศาลแพ่ง และเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2562ศาลแพ่งมีคําพิพากษาให้บังคับตามคําชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ ปตท. จึงใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์คําพิพากษาของศาลแพ่งต่อศาลฎีกา
- ข้อพิพาทของสถาบันอนุญาโตตุลาการ หมายเลขดําที่ 78/2555 หมายเลขแดงที่ 37/2560ปตท. เรียกร้องค่าผลิตภัณฑ์ค้างชําระจาก RPCG ซึ่งคณะอนุญาโตตุลาการมีคําชี้ขาดโดยมติเอกฉันท์ให้ RPCG จ่ายเงินจํานวน 1,555,275,403.59 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 9.375 ต่อปี คิดจากต้นเงินจํานวน 1,518,108,737.16 บาท นับถัดจากวันยื่นคําเสนอข้อพิพาท (18 พฤษภาคม 2555) จนกว่าจะชําระเสร็จ และต่อมา ปตท. ยื่นคําร้องขอบังคับตามคําชี้ขาดต่อศาลแพ่ง และ RPCG ยื่นคําร้องขอเพิกถอนคําชี้ขาดต่อศาลแพ่ง และเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2562ศาลแพ่งมีคําพิพากษาให้เพิกถอนคําชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ ปตท. จึงใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์คําพิพากษาของศาลแพ่งต่อศาลฎีกา
เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2564 ศาลแพ่งนัดฟังคําพิพากษาของศาลฎีกาทั้งสองคดีดังกล่าวข้างต้น สรุปได้ดังนี้
- ข้อพิพาทของสถาบันอนุญาโตตุลาการ หมายเลขดําที่ 114/2552หมายเลขแดงที่ 23/2559ศาลฎีกามีคําพิพากษายืนตามคําพิพากษาของศาลแพ่งให้บังคับตามคําชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ คดีถึงที่สุด เป็นผลให้ ปตท. ต้องจ่ายเงินแก่ RPCG เป็นจํานวนประมาณ 2,200ล้านบาทภายใน30 วันนับแต่วันที่ศาลมีคําพิพากษา
- ข้อพิพาทของสถาบันอนุญาโตตุลาการ หมายเลขดําที่ 78/2555 หมายเลขแดงที่ 37/2560ศาลฎีกามีคําพิพากษากลับคําพิพากษาของศาลแพ่งให้บังคับตามคําชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ คดีถึงที่สุด เป็นผลให้ RPCG ต้องจ่ายเงินแก่ ปตท. เป็นจํานวนประมาณ 2,800ล้านบาท ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ศาลมีคําพิพากษา
ปตท. จักได้ดําเนินการใช้สิทธิหักกลบลบหนี้กับหนี้ที่ ปตท. ต้องชําระแก่ RPCG ในข้อพิพาทของสถาบันอนุญาโตตุลาการ หมายเลขดําที่ 114/2552หมายเลขแดงที่ 23/2559ดังกล่าวข้างต้นต่อไป-สำนักข่าวไทย