กรุงเทพฯ 7 ธ.ค. – สมอ.ขานรับนโยบายขออนุมัติบอร์ดจัดทำมาตรฐานเพิ่มอีก 77 มาตรฐาน เน้นอุตสาหกรรมเป้าหมายยานยนต์สมัยใหม่ สิ่งทอ และอุปกรณ์การแพทย์
นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา บอร์ด สมอ.เห็นชอบให้ สมอ.จัดทำมาตรฐานเพิ่มอีก 77 มาตรฐาน หลังจากเห็นชอบแผนการจัดทำมาตรฐานของ สมอ.ประจำปีงบประมาณ 2564 จำนวน 318 มาตรฐาน เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาแล้ว โดยเน้นกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล อาทิ มาตรฐานเปลือกกัญชง แกนกัญชง หมอนคอนกรีต เครื่องยึดเหนี่ยวทางราง ระบบขนส่งอัจฉริยะ อุปกรณ์จำกัดความเร็วของรถยนต์ แบตเตอรี่ swap สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ไนโตรเจนทางการแพทย์ เครื่องผลิตก๊าซออกซิเจนเข้มข้น ออกซิเจนเหลวแบบพกพา เครื่องฆ่าเชื้อโรค ตู้ความดันบวก เตียงความดันลบ PPE นักผจญเพลิง/นักดับเพลิง PPE ป้องกันความร้อนและเปลวไฟ ผ้าป้องกันแบคทีเรีย ชุดนักบิน ชุดสำหรับผู้สูงอายุ และชุดนอนเด็ก เป็นต้น โดยจะเร่งจัดทำมาตรฐานทั้งหมดนี้ให้เสร็จภายในปี 2564
นอกจากนี้ บอร์ด สมอ.ยังเห็นชอบมาตรฐานรวม 22 มาตรฐาน อาทิ มาตรฐานระบบเบรกรถยนต์ มาตรฐานพลาสติกชีวภาพ มาตรฐานถาดพลาสติกสำหรับรองรับกระเป๋าสัมภาระ มาตรฐานเอทานอลที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร และมาตรฐานเครื่องกำจัดมอดด้วยคลื่นความถี่วิทยุ เป็นต้น และเห็นชอบกำหนดให้สีย้อมสังเคราะห์รวม 5 มาตรฐาน เป็นสินค้าควบคุม เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ได้แก่ สีไดเร็กซ์ สีรีแอกทีฟ สีแวต สีซัลเฟอร์ และสีแอซิด ทั้งนี้ ได้เร่งรัดให้ สมอ.ดำเนินการประกาศใช้มาตรฐานดังกล่าวโดยเร็ว
นอกจากนี้ สมอ.ยังขอความเห็นชอบแก้ไขปรับปรุงมาตรฐานของเล่นให้มีความทันสมัย เพื่อให้มีความปลอดภัยสำหรับเด็กมากขึ้น โดยมาตรฐานเดิมมีการควบคุมความปลอดภัยด้านรูปร่าง ขนาด ความแหลมคม การป้องกันการติดไฟ และการควบคุมปริมาณสารโลหะหนักอยู่แล้ว แต่มาตรฐานฉบับใหม่จะเพิ่มข้อห้ามในการใช้สารเคมีกลุ่มทาเลต ที่ทำให้พลาสติกมีความนิ่มยืดหยุ่น เพราะหากเด็กนำของเล่นเข้าปาก จะมีการปนเปื้อนของสารเคมีเข้าสู่ร่างกายซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะเป็นสารก่อมะเร็ง ปัจจุบันมีผู้ได้รับใบอนุญาตให้ทำของเล่น 453 ราย และมีผู้ได้รับใบอนุญาตนำเข้ามาเพื่อจำหน่ายในประเทศ 1,011 ราย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทำประชาพิจารณ์ เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย คาดว่ามาตรฐานของเล่นฉบับใหม่จะประกาศใช้ได้ภายในกลางปี 2564.-สำนักข่าวไทย