กฟผ.ศึกษาพร้อมเป็นเทรดดิ้งเชื้อเพลิงทุกชนิด


กรุงเทพฯ
5 ส.ค.- กฟผ.ศึกษาเตรียมพร้อมเป็นผู้ค้าเชื้อเพลิงทุกประเภท หลัง กพช.ให้เป็นผู้นำเข้าแอลเอ็นจี
6.5 ล้านตัน/ปี ชี้ การชะลอเวลาการนำเข้าจากไตรมาส4/61 เป็นเรื่องดี
สร้างภาระค่าไฟฟ้าลดน้อยลง ด้าน กรมเชื้อเพลิงฯ ระบุ
กฟผ.นำเข้าสร้างการแข่งขันรองรับก๊าซอ่าวไทยลดลง


นายถาวร
งามกนกวรรณ รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง 
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า  ในขณะนี้ กฟผ.เตรียมพร้อมนำเข้าก๊าซธรรมเหลว
(แอลเอ็นจี ) ตามนโยบายรัฐบาลทั้งนำเข้าในรูปแบบคลังลอยน้ำ (
FSRU
) 5 ล้านตัน/ปี ขณะนี้กำลังทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม
หรืออีไอเอ ซึ่งจะแล้วเสร็จในปลายปี 2561 และเตรียมนำเข้าผ่านคลังมาบตาพุด 1.5
ล้านตัน/ปี โดยส่วนนี้จะเปลี่ยนแปลงเวลานำเข้า
จากเดิมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติให้เริ่มนำเข้า ภายในปลายปี2561
โดยจะเลื่อนเป็นปี 2562

       “คงต้องรอผลประชุม กพช.ในการเลื่อนนำเข้าแอลเอ็นจี
1.5 ล้านตันต่อไป นับเป็นเรื่องที่ดีเพราะตามแผนเดิมที่จำนำเข้าไตรมาส4 ปีนี้เป็นช่วงที่ราคาแอลเอ็นจีจะมีราคาสูงจะกระทบต่อภาระต้นทุนค่าไฟฟ้าของประชาชนและประเทศ
โดยการชะลอการนำเข้าออกไปนั้น ไม่กระทบต่อความมั่นคงของระบบไฟฟ้า เนื่องจากปัจจุบันยังมีสำรองไฟฟ้าเพียงพอ”

นายถาวรระบุ

           นายถาวรกล่าวว่า ในการนำเข้าแอลเอ็นจีของ กฟผ.นั้น
นับเป็นข้อได้เนื่องจากมีความต้องการก๊าซฯ เพื่อมาใช้ผลิตไฟฟ้าของตนเอง
และยังเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อนำไปสู่ธุรกิจค้าเชื้อเพลิงหรือเทรดดิ้ง ซึ่งในขณะนี้ได้ส่งบุคลากรศึกษาเรื่องนี้
และศึกษาการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลและค้าเชื้อเพลิง
โดยมองไปถึงการค้าเชื้อเพลิงทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน ถ่านหิน หรือก๊าซธรรมชาติ


        สำหรับFSRU เพื่อนำเข้าแอลเอ็นจี 5 ล้านตัน/ปี
ในอ่าวไทยนั้นจะอยู่ห่างจากชายฝั่ง 20 กิโลเมตร กำหนดแล้วเสร็จในปี 2567 ใช้ส่งก๊าซให้โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ
และโรงไฟฟ้าพระนครใต้ โดย กฟผ.กำลังศึกษาจะขยายความจุของถังเก็บแอลเอ็นจีจาก
210,000 ลูกบาศก์เมตร เป็น 260,000ลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะเท่ากับขนาดของเรือบรรทุกแอลเอ็นจีที่มีขนาดใหญ่ที่สุด
1 ลำ

          นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี
อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า มติ กพช.ให้
กฟผ.นำเข้าแอลเอ็นจีนั้นเพื่อให้เกิดการแข่งขันการนำเข้าแอลเอ็นจี จากที่
ปัจจุบันมี ปตท.นำเข้ารายเดียว โดย ปตท.ก่อสร้าง สถานีนำเข้าบนฝั่ง 2 แห่ง
ในจังหวัดระยองคือที่มาบตาพุด(สร้างเสร็จแล้ว ) 11.5 ล้านตัน/ปี และที่หนองแฟบ
(กำลังก่อสร้าง) 7.5 ล้านตัน/ปี กำหนดแล้วเสร็จในปี 2565 นับเป็นแผนรองรับ
การผลิตก๊าซจากอ่าวไทยที่น้อยลงหลังปี 2565-2566 ที่แหล่งก๊าซธรรมชาติและเอราวัณบงกชจะหมดอายุสัมปทาน  ที่ทำให้ปริมาณการจัดหาก๊าซธรรมชาติจากทั้ง 2
แหล่งลดลงเหลือ 1,500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน จากเดิมที่จัดหาได้ประมาณ 2,100
ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน

            ทั้งนี้ ปัจจุบัน
การจัดหาก๊าซธรรมชาติจากแหล่งในประเทศทั้งบนบกและในทะเลมีอัตราเฉลี่ยรวมประมาณ 3
, 500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
โดยแบ่งเป็นการจัดหาจากแหล่งบนบก เฉลี่ยประมาณ 100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
และจากแหล่งในทะเล จำนวนประมาณ

 3,400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ขณะที่ปริมาณการใช้ในประเทศอยู่ที่เฉลี่ย
4,700  ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน-
สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

5ตัวประกันถึงไทย

5 ตัวประกันถึงไทยแล้ว ปล่อยโฮโผกอดครอบครัว

5 ตัวประกันถึงไทยแล้ว ปล่อยโฮโผเข้ากอดครอบครัวด้วยความดีใจ “ทูตอิสราเอล” ก็มาส่งด้วย น้ำตาคลอคุยครอบครัวตัวประกัน “มาริษ” สัญญาจะนำอีก 1 คน และ 2 ร่างผู้เสียชีวิตที่เหลือกลับมาให้ได้ ด้าน 1 ในตัวประกัน พูดไม่ออก ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ทำให้ได้กลับแผ่นดินแม่

ไทยตอนบนอุณหภูมิลด 1-3 องศาฯ อีสานอากาศเย็นถึงหนาว

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ กับมีลมแรง อีสานอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคเหนือ กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อากาศเย็นตอนเช้า ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่