กรุงเทพฯ3 เม.ย.- ผลพวงการตอบโต้ทางการค้าสหรัฐ-จีน รวมไปถึงการเพิ่มกำลังผลิตของรัสเซียกดดันราคาน้ำมันดิบอ่อนตัว
ในวันนี้หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลดลงหลังราคาน้ำมันดิบตลาดโลกลดลง โดยราคาปิดวานนี้(2 เม.ย.)สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 1.93 ดอลลาร์ ปิดที่ 63.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 67.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
บมจ.ไทยออยล์ รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังรายงานกำลังการผลิตน้ำมันดิบรัสเซียในเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้นจากเดือน ก.พ. มาอยู่ที่ 10.97 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยรัสเซียเป็นหนึ่งในประเทศที่อยู่ในความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบระหว่างกลุ่มประเทศโอเปก (OPEC) และนอกกลุ่มประเทศโอเปก (Non-OPEC) จึงส่งผลให้เกิดความกังวลในตลาดน้ำมันดิบโลก
ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันหลังผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่อย่างซาอุดิอาระเบียมีแนวโน้มปรับลดราคาน้ำมันดิบทุกชนิดที่ส่งมายังทวีปเอเชียในเดือน พ.ค. เพื่อสะท้อนถึงราคาน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางที่เริ่มอ่อนตัว
นอกจากนี้ยังเกิดจากแรงตึงเครียดระหว่างสหแรงตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีนยิ่งทวีคูณ หลังจีนสั่งเพิ่มราคาสินค้า 128 ชนิดที่นำเข้าจากสหรัฐฯ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 26 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยราคาสินค้าถูกปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดร้อยละ 25 หรือคิดเป็นจำนวนเงิน 3 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ สงครามเย็นที่เกิดขึ้นระหว่างสองประเทศส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก- สำนักข่าวไทย