อีอีซีจะหนุนจีดีพีไทยโตร้อยละ 5

สนามบินอู่ตะเภา 18 ก.พ.-เลขาธิการฯ อีอีซี ระบุการลงทุนในอีอีซีจะช่วยให้จีดีพีโตร้อยละ 5 พร้อมดึงวิทยาลัยอาชีพปั้นแรงงานคุณภาพป้อนระเบียงเศรษฐกิจ    


นายคณิศ  แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี)  เปิดเผยว่า  หลังจากการร่างพ.ร.บ.อีอีซี ผ่านความเห็นชอบจาก สนช.  เชื่อว่า จะทำให้เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ จะขยายตัวได้ถึงร้อยละ 5 และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) คาดว่า ตลอดปีนี้ จะมีคำขอรับส่งเสริมโครงการลงทุนกว่า  300,000 ล้านบาท และเมื่อมีการลงทุนภาครัฐในโครงการขนาดใหญ่รวมถึงการลงทุนจาก ภาคเอกชน โดยเฉพาะการพัฒนาในเขต อีอีซี ในวงเงินที่บีโอไอคาด จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทยตั้งแต่ครึ่งปีหลังและต่อเนื่องไปในปีหน้าเติบโตได้ร้อยละ 5  นับเป็นอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่จะกลับมาขยายตัวตามศักยภาพที่แท้จริงของประเทศ และเมื่อการเดินหน้าการลงทุนในโครงการอีอีซี ทั้งภาครัฐและเอกชนไม่น้อยกว่า 1.7 ล้านล้านบาท ในช่วง 5 ปี ข้างหน้า เศรษฐกิจไทยก็จะขยายตัวในระดับสูงขึ้นประมาณร้อยละ 5 ต่อเนื่องไป จากที่ผ่านมาจีดีพีไทยขยายตัวเพียงประมาณร้อย 3 ต่ำกว่าศักยภาพจริงของประเทศ 


สำหรับแผนการลงทุนในช่วง 5 ปีแรก ประกอบด้วย 4 กลุ่ม 15 โครงการ ประกอบด้วย เมืองการบินภาคตะวันออก หรือ สนามบินอู่ตะเภา การพัฒนารถไฟความเร็วสูง เชื่อมต่อ 3 สนามบิน  การพัฒนาท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง ระยะที่  3 ท่าเรือมาบตามพุด ระยะที่ 3 ท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ รถไฟทางคู่เชื่อม  3 ท่าเรือ ทางหลวงและมอเตอร์เวย์ การพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต อุตสาหกรรมการบิน หุ่นยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมปิโตรเลียม และเคมีชีวภาพขั้นสูง อุตสาหกรรมการแพทย์และการดูแลสุขภาพแบบครบวงจร การท่องเที่ยวภาคตะวันออก ศูนย์กลางด้านธุรกิจระดับโลก เขตการค้าเสรี เมืองใหม่ บนพื้นที่ 3 จังหวัด ประกอบด้วย ฉะเชิงเทรา พัทยา ระยอง เป็นต้น 

นายคณิศ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้สำนักงานอีอีซี ยังหารือกับวิทยาลัยอาชีวะในเขตภาคตะวันออก จัดทำหลักสูตรด้านอาชีวะ ผลิตบุคคลากรเพิ่มจากเดิม 300 คนต่อปี เพิ่มเป็น 6,000 คนต่อปี เนื่องจากในพื้นที่ยังขาดแรงงานคุณภาพด้านอาชีวะกว่า 50,000 คน นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการยังเสนอ หัวหน้า คสช.ใช้ ม.44 อนุมัติหลักสูตรใหม่จากเดิมต้องใช้เวลา 2 ปี เหลือระยะเวลาอนุมัติ 2 เดือน และนำผู้เชี่ยวชาญในโรงงานบริษัทเอกชน ที่ได้รับใบรับรองมาช่วยสอนเด็กนักเรียนอาชีวะเพื่อรับประสบการณ์ตรงมาช่วยพัฒนาแรงงานคุณภาพ และการพัฒนาเมืองอีอีซีในส่วนพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้มาพัฒนา โดยเน้นเขตส่งเสริมอุตสาหกรรม 22 แห่งมาพัฒนา จึงระวังเรื่องเก็งกำไรราคาที่ดินอย่างมาก เมื่อเขตอีอีซีพัฒนา เมือง ที่อยู่อาศัย สำนักงานบริษัทจะขยายออกไปรัศมี 20-30 กิโลเมตร 


พล.ร.ต. ลือชัย ศรีเอี่ยมกูล ผู้อำนวยการท่าอากาศยานอู่ตะเภา กล่าวว่า  แผนพัฒนาสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา จะมีมูลค่าลงทุนในโครงการประมาณ 200,000 ล้านบาท และโครงการรถไฟทางคู่เชื่อม 3 สนามบิน คือ อู่ตะเภา-สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง มูลค่าโครงการ 64,300 ล้านบาท จะจัดทำร่างทีโออาร์ได้ในช่วงเดือนมีนาคมนี้และจะสรุปรายชื่อเอกชนที่ได้รับเลือกเข้ามาดำเนินการในช่วงปลายปี โดยคาดว่าทั้งสองโครงการจะดำเนินการควบคู่กันไป พร้อมเปิดให้บริการได้ในปี 2566 คาดว่าในช่วง 5 ปีแรก ประเมินว่าจะมีผู้ใช้บริการสนามบินอู่ตะเภา 15 ล้านคน และในช่วง 10 ปี เพิ่มเป็น 30 ล้านคน และเพิ่มเป็น 60 ล้านคนในช่วง 15 ปี จากบทเรียนการใช้พื้นที่เชิงพาณิชย์ของสนามบินสุวรรณภูมิ จึงต้องเปิดให้เอกชนเพียงรายเดียวบริหารพื้นที่ในเชิงพาณิชย์ แต่สนามบินอู่ตะเภาพร้อมจัดทำสถานที่ (Pickup Counter) จุดส่งมอบสินค้าปลอดอากรให้กับบริษัทเอกชน เขตปลอดสินค้าอากรคืนภาษีให้กับนักท่องเที่ยวจึงดำเนินการได้ในพื้นที่ต่างๆ-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย