ยอดส่งออกไทย 6 เดือนสอบผ่านภายใต้ขัดแย้งการเมืองต่างประเทศสูง

กรุงเทพฯ 6 ส.ค.- สรท.เผยยอดส่งออกไทยช่วง 6 เดือนแรกปี 67 ถือว่าสอบผ่านภายใต้ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศมาอย่างต่อเนื่องและอาจรุนแรงขึ้นได้ และเจอมรสุมเศรษฐกิจจีนและสหรัฐทรงตัวระดับต่ำการผลิตของโลกเบาบางส่งผลให้เศรษฐกิจไทยกระทบตาม แต่กังวลครึ่งหลังปีหลายปัจจัยกระทบมากพอควร โดยมั่นใจยอดส่งออกทัังปีเป็นบวกร้อยละ 1-2 หรือมีมูลค่าเกิน 10 ล้านล้านบาท เรียกร้องรัฐรื้อกฎหมายเก็บภาษีธุรกิจออนไลน์ใหม่ หลังแพลตฟอร์ม“Temu”จีนบุกไทย


ดร.ชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.)กล่าวถึงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนมิถุนายน 2567 กับเดือนเดียวกันของปีก่อน พบว่า การส่งออกมีมูลค่า 24,796.6 หดตัวร้อยละ 0.3 และมีมูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 892,796 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 5 (เมื่อหักทองคำ น้ำมัน และอาวุธยุทธปัจจัย พบว่าการส่งออกในเดือนมิถุนายนหดตัวร้อยละ 1.6) ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 24,5785 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 0.3 และมีมูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 895,256 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 5.6 ส่งผลให้ดุลการค้าของประเทศไทยในเดือนมิถุนายน 2567 เกินดุลเท่ากับ 218 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขาดดุลในรูปของเงินบาท -2,489 ล้านบาท

ทั้งนี้ ส่งผลให้ภาพรวมการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือนมกราคม – มิถุนายน ของปี 2567 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน พบว่า ไทยส่งออกรวมมูลค่า 145,290 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 2 และมีมูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 5,191,014 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 7.4 (เมื่อหักทองคำ น้ำมัน และอาวุธยุทธปัจจัย พบว่าการส่งออกในช่วงมกราคม – มิถุนายน ขยายตัวร้อยละ
3.1) ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 150,532.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 3 และมีมูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 5,437,480 ล้านบาทขยายตัวร้อยละ 8.3 ส่งผลให้ดุลการค้าของประเทศไทยในเดือนมกราคม – มิถุนายน 2567 ขาดดุลเท่ากับ 5.242.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือคิดเป็นการขาดดุลในรูปเงินบาท 246,466 ล้านบาท


อย่างไรก็ตาม สรท. คงคาดการณ์การส่งออกปี 2567 เติบโตที่ร้อยละ 1-2 หรือมีมูลค่า 280,000-290,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเมื่อเทียบเป็นเงินบาทมากกว่า 10 ล้านล้านบาท (ณ เดือนสิงหาคม 2567) โดยมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังในครึ่งปีหลังที่สำคัญ ได้แก่ 1.ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ยึดเยื้อ และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ที่จะมีผลต่อการค้าและเศรษฐกิจโลกในภาพรวม โดยเฉพาะผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งผู้สมัครทั้งสองฝ่ายมีนโยบายหาเสียงที่แตกต่างกันและอาจส่งผลต่อมาตรการทางการค้าและมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม 2.ปัญหาสหภาพแรงงานสหรัฐฯ ทั่วประเทศที่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลง อาจทำให้เกิดความขัดแย้งการหยุดการผลิตและกระทบต่อการนำเข้าสินค้าในภาคการผลิตกับประเทศอื่นๆ รวมถึงไทย 3.ต้นทุนค่าระวางเรือ ค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่ม (Surcharge) ยังคงทรงตัวในระดับสูง แต่เริ่มมีสัญญาณการปรับลดลงในหลายเส้นทาง จากการที่การส่งออกสินค้าของจีนไปยังสหรัฐฯ เริ่มเติบโตในอัตราเร่งลดลง จากมาตรการกำแพงภาษีที่มีผลใน 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา ทว่าปัจจัยเฝ้าระวังจากสถานการณ์ในพื้นที่ทะเลแดงยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญและมีอิทธิพลต่อเส้นทางขนส่งสินค้าเข้าไปตะวันออกกลางและยุโรป 4.ปัญหาสินค้าล้นตลาดจากประเทศจีนที่ระบายออกสู่ตลาดโลก ส่งผลให้สินค้าต้นทุนต่ำเข้ามาทุ่มตลาดในประเทศไทยอีกนัยหนึ่งรวมถึงเข้าไปแย่งส่วนแบ่งการตลาดของสินค้าไทยในตลาดต่างประเทศ และ 5.การเข้าถึงสินเชื่อของภาคการผลิตมีปัญหาต่อเนื่องทำให้ขาดสภาพคล่องในการดำเนินการ

ทั้งนี้ สรท.มีข้อเสนอแนะที่สำคัญ ประกอบด้วย 1.เร่งปรับโครงการสร้างการส่งออกของไทยเพื่อรองรับการแข่งขันและการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว โดยมุ่งเน้นให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น Trading Nation 2.เร่งส่งเสริม กิจกรรมส่งเสริมการขายในต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดใหม่ๆ เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์และสร้างโอกาสให้สินค้าไทยในสายตา คู่ค้าและผู้บริโภคในต่างประเทศ 3.ผู้ส่งออกต้องวางแผนการขนส่งด้วยการจองระวางเรือล่วงหน้า รวมถึงการเจรจากับคู่ค้าเพื่อปรับ อัตราค่าขนส่งให้สอดคล้องกับค่าระวางในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้นในทุกเส้นทาง รวมถึงต้องบริหารจัดการสต็อกสินค้าให้เหมาะสม 4.รัฐต้องกำกับดูแลสินค้าการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติที่ต้องเอื้อประโยชน์ให้กับซัพพลายเขนในประเทศ รวมถึงกำกับดูแลสินค้า ต้นทุนต่ำที่ทะลักเข้ามาในประเทศก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้ผลิตในประเทศโดยเฉพาะ SMEs และปัญหาการจ้างงานลดลง และ 5.สนับสนุน ส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ให้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน ให้เพียงพอต่อการหมุนเวียนกระแสเงินสดและการผลิตเพื่อการส่งออก

นอกจากนี้ สรท.มีจุดยืนที่ชัดเจนเกี่ยวกับโครงการแลนด์บริดจ์ เมกะโปรเจกต์รัฐบาลไทย ยังไม่เหมาะสมต่อการพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศมากนัก แม้จะมีเม็ดเงินลงทุนมหาศาลและอำนวยความสะดวกด้านคมนาคมก็ตาม ดังนั้น สรท.ไม่ได้ขัดขวางโครงการนี้ แต่มองว่าไม่คุ้มค่าลงทุน หากจะเปลี่ยนเป็นการลงไปพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้แบบครบวงจรแทนการทำโครงการแลนด์บริดจ์จะเหมาะสมกว่า


พร้อมกันนี้ สิ่งที่น่ากังวลใจเกี่ยวกับแพลตฟอร์ม“Temu”จีนที่เข้ามาแข่งขันตลาดออนไลน์ในไทยแล้วนั้น หากภาครัฐไม่เร่งแนวทางป้องกันอาจทำให้สินค้าและอุตสาหกรรมที่ผลิตโดยเอสเอ็มอีไทยจะต้องแข่งขันลำบาก โดยจะเห็นได้ชัดใน 3 กลุ่มสินค้าไทย คือ ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและสิ่งทอไทยเป็นต้น

อย่างไรก็ตาม จึงอยากให้ภาครัฐเข้ามาดูโดยต้องให้มีการแข่งขันที่เท่าเทียบกัน โดยเฉพาะการจัดเก็บภาษีสินค้าที่นำเข้ามาขายในประเทศต้องไม่แตกต่างกับภาษีที่จัดเก็บในประเทศ พร้อมต้องมีการแก้ไขกฎหมายด้านการสนับสนุนพื้นที่ฟรีเทรดโซนใหม่ เพราะเดิมพื้นที่เหล่านี้จะยกเว้นไม่เก็บภาษีแต่ปัจจุบันการค้าออนไลน์เกิดขึ้นมามาก จึงอยากให้ภาครัฐแก้ไขกฎหมายและระเบียบในส่วนของฟรีเทรดโซนใหม่เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมของการแข่งขันในธุรกิจออนไลน์อีกด้วย.-514-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

ปล่อยตัว “แซม ยุรนันท์” สวมกอดครอบครัว ขอกลับบ้านก่อน

“แซม ยุรนันท์” ได้รับการปล่อยตัวแล้ว สวมกอดครอบครัวด้วยสีหน้ามีความสุข พร้อมขอบคุณสื่อมวลชนที่มาต้อนรับ ขอกลับบ้านก่อน ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม

จับแล้วมือยิงอดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ย่านบางลำพู

“ผู้การจ๋อ” ส่ง “สารวัตรแจ๊ะ” นำทัพสืบ บช.น. ร่วมตำรวจกัมพูชา แกะรอยบุกจับ “จ่าเอ็ม” มือยิง “ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ถึงพระตะบอง ประเทศกัมพูชา

ปล่อยตัว “มิน พีชญา” หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีดิไอคอน ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม

ปล่อยตัว “มิน พีชญา” หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดี “ดิไอคอน” เปิดใจขอบคุณกระบวนการยุติธรรมและทัณฑสถานหญิง ดูแลเป็นอย่างดี ยืนยันบริสุทธิ์ใจตั้งแต่แรก พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งวันนี้ได้พิสูจน์ตนเองแล้ว

พบ จยย.มือยิงอดีตนักการเมืองกัมพูชาจอดทิ้งปั๊ม คาดได้ตัวเร็วๆ นี้

ตำรวจตรวจพบรถจักรยานยนต์มือยิงอดีตนักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาแล้ว จอดทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง บริเวณเลียบด่วนมอเตอร์เวย์ คาดได้ตัวคนร้ายเร็วๆ นี้