นนทบุรี 24 พ.ค.-อธิบดีกรมการค้าภายใน เผยราคาเกษตรสำคัญทั้งข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ส่วนใหญ่ยังทรงตัวดี มีเพียงผลปาล์มน้ำมัน ที่ลดลงเยอะแบบผิดปกติ เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบ หากพบรายใดกดรับซื้อปาล์มเจอดีแน่ ขณะที่ราคาผักหลายชนิด เริ่มปรับลดลงแล้ว หลังฝนตกต่อเนื่อง โดยเฉพาะพริกขี้หนู
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน รายงานสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรพืชสำคัญ โดยข้าวเปลือก ยังทรงตัวอยู่ในเกณฑ์สูง ข้าวเปลือกหอมมะลิ อยู่ที่ตลาดละ 15,750 บาท สูงสุดถึง 16,500 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ตันละ 15,500 บาท สูงสุดที่ 16,300 บาท ข้าวเปลือกเจ้าปทุมธานี อยู่ที่ตันละ 15,300 บาท ส่วน ข้าวเปลือกจ้าวปรับเพิ่มขึ้นตันละ 300 บาท อยู่ที่ตันละ 12,350 บาท สูงสุดที่ 13,000 บาท จากสัปดาห์ก่อนที่ 12,050 บาท รวมทั้ง เค้าเปลือกเหนียวอยู่ที่ตันละ 14,300 บาท สูงขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้วที่ตันละ 14,220 บาท ขณะที่ราคามันสำปะหลัง ยังทรงตัว ใกล้เคียงเดือนที่แล้ว อยู่ที่กิโลกรัมละ 3.20 บาท สูงสุดที่ 3.40 บาท
สำหรับราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ขยับขึ้นเล็กน้อย อยู่ที่กิโลกรัมละ 10.40 บาท จาก 9.75 บาท และราคาที่โรงงานอาหารสัตว์ รับซื้อขยับขึ้น อยู่ที่กิโลกรัมละ 11 บาท จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 10.56 บาท
ส่วนราคาผลปาล์มย่อลง อยู่ที่กิโลกรัมละ 4.60 บาท จากสัปดาห์ก่อน ที่กิโลกรัมละ 4.98 บาท จากสถานการณ์ที่ราคาตกในช่วงนี้ นาย ภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่หาสาเหตุโดยเร็ว เพราะเป็นช่วงที่ผลผลิตผลกำลังออกสู่ตลาดจำนวนมากมากดดันราคาให้ต่ำลง โดยขณะนี้สตอกน้ำมันปาล์มดิบถือว่าอยู่ในระดับปกติที่ 200,000 ตัน รวมไปถึงสถานการณ์การส่งออกก็ยังไปได้ดีและความต้องการใช้ในประเทศก็คงที่
อย่างไรก็ตาม แต่เบื้องต้นฝากไปยัง ลานเท และโรงสกัด อย่ากดราคารับซื้อ ซึ่งมีกฎหมายมาดูแลป้องกัน โดยเฉพาะการทำลูกร่วงผิดธรรมชาติหรือ การกระแทกลูกร่วงไปขายก่อน ซึ่งหากฝ่าฝืน จะมีโทษจำคุก ไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะเดียวกันฝากพี่น้องเกษตรกร ให้ตัดปาล์มคุณภาพ เพื่อให้ได้เปอร์เซ็นต์น้ำมันที่ดีและได้ราคาดี สำหรับภาพรวมปริมาณผลปาล์มน้ำมัน ปีนี้ อยู่ที่ 18.12 ล้านตัน ลดลงจากปีที่แล้วเล็กน้อยที่ 18.27 ล้านตัน ขณะที่ราคาน้ำมันปาล์ม ขวดเฉลี่ยขวดลิตรละ 45 บาท ลดลงจากปีก่อนหน้าที่ขวดละ 46 บาทกว่า
ส่วนราคาอาหารสด หมูเนื้อแดงสัปดาห์นี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 135.81 บาทใกล้เคียงกับสัปดาห์ก่อนหน้า เนื้อไก่ แต่ละชิ้นส่วนมีปรับขึ้นลง โดยเนื้อน่องติดสะโพก ลดลง 50 สตางค์ มาอยู่ที่ กิโลกรัมละ 83.50 บาท เนื้อสะโพก 87.13 บาท ลงจากสัปดาห์ก่อนที่ 87.59 บาท 59 สตางค์ และเนื้อหน้าอก 83.44 บาท ลดลงจาก 83.98 บาทในสัปดาห์ก่อน ส่วนเนื้อน่อง 85.50 บาท เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ 85.26 บาท ขณะที่ราคาไข่ไก่ทรงตัว โดยไข่คละ เฉลี่ยฟองละ 3.80 บาท และขนาดเบอร์ 3 เฉลี่ยฟองละ 4.06 บาท
นอกจากนี้ ราคาผักเริ่มกลับมาดีขึ้นแล้ว หลังจากฝนตกต่อเนื่อง ทำให้ผักหลายชนิดเติบโตดี ราคาลดลง โดยผักคะน้า สัปดาห์นี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 39 บาทจากสัปดาห์ก่อนที่ 42 บาท ถั่วฝักยาว ลดลงเยอะอยู่ที่กิโลกรัมละ 66.50 บาท จาก 89 บาทในสัปดาห์ก่อน กะหล่ำปลีอยู่ที่กิโลกรัมละ 36 บาท จากสัปดาห์ก่อนที่ 37.60 บาท ผักบุ้งจีน กิโลกรัมละ 31.90 บาท จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 35.70 บาท ต้นหอม ลดลงเหลือ กิโลกรัมละ 112.50 บาทจากสัปดาห์ก่อนที่ 118.80 บาท และมะนาว ก็ปรับลดลง เฉลี่ยลูกละ 4.40 บาท จากสัปดาห์ก่อนลูกละ 4.74 บาท แต่ผักชี ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากฝนที่ตกแรง ทำให้ผลผลิตเสียหาย ใบเสียหายง่าย
ส่วนที่มีข่าวก่อนหน้านี้ ว่า พริกขี้หนู พุ่งไปถึงกิโลกรัมละ 800 บาทนั้น จากการตรวจสอบของสำนักงานพาณิชย์จังหวัด พบว่า ราคาไม่ถึง 800 บาทตามข่าว โดยเฉลี่ยที่ 600-650 บาท ซึ่งพริกขี้หนู มีอยู่ 3 ชนิด และชนิดที่ราคาแพงในขณะนี้ คือ พริกขี้หนูสวนหอม ราคาเฉลี่ยในตลาดสด ปีที่แล้ว ที่กิโลกรัมละ 320 ถึง 400 บาท แต่ปีนี้ เฉลี่ย กิโลกรัมละ 450 ถึง 680 บาท ซึ่งแหล่งเพาะปลูกใหญ่ อยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศร้อนจัด แต่เชื่อว่า จากสภาพอากาศที่ดีขึ้นในขณะนี้ จะทำให้ผลผลิตดีขึ้น และได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัด ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดและเชื่อมโยงสินค้าไปเสริมให้เพียงพอกับความต้องการ โดยพริกขี้หนูสวนธรรมดา ปีที่แล้วเฉลี่ยที่กิโลกรัมละ 180-220 บาท ถือว่าใกล้เคียงกับปีนี้ที่เฉลี่ย 200-240 บาท และพริกจินดา ทรงตัว ทั้งปีที่แล้วและปีนี้เฉลี่ย 80 บาทต่อกิโลกรัม เป็นต้น. -514-สำนักข่าวไทย