ราคาผักเริ่มลดลง แต่ปาล์มราคาตกผิดปกติ เร่งหาสาเหตุ

นนทบุรี 24 พ.ค.-อธิบดีกรมการค้าภายใน เผยราคาเกษตรสำคัญทั้งข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ส่วนใหญ่ยังทรงตัวดี มีเพียงผลปาล์มน้ำมัน ที่ลดลงเยอะแบบผิดปกติ เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบ หากพบรายใดกดรับซื้อปาล์มเจอดีแน่ ขณะที่ราคาผักหลายชนิด เริ่มปรับลดลงแล้ว หลังฝนตกต่อเนื่อง โดยเฉพาะพริกขี้หนู

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน รายงานสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรพืชสำคัญ โดยข้าวเปลือก ยังทรงตัวอยู่ในเกณฑ์สูง ข้าวเปลือกหอมมะลิ อยู่ที่ตลาดละ 15,750 บาท สูงสุดถึง 16,500 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ตันละ 15,500 บาท สูงสุดที่ 16,300 บาท ข้าวเปลือกเจ้าปทุมธานี อยู่ที่ตันละ 15,300 บาท ส่วน ข้าวเปลือกจ้าวปรับเพิ่มขึ้นตันละ 300 บาท อยู่ที่ตันละ 12,350 บาท สูงสุดที่ 13,000 บาท จากสัปดาห์ก่อนที่ 12,050 บาท รวมทั้ง เค้าเปลือกเหนียวอยู่ที่ตันละ 14,300 บาท สูงขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้วที่ตันละ 14,220 บาท ขณะที่ราคามันสำปะหลัง ยังทรงตัว ใกล้เคียงเดือนที่แล้ว อยู่ที่กิโลกรัมละ 3.20 บาท สูงสุดที่ 3.40 บาท


สำหรับราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ขยับขึ้นเล็กน้อย อยู่ที่กิโลกรัมละ 10.40 บาท จาก 9.75 บาท และราคาที่โรงงานอาหารสัตว์ รับซื้อขยับขึ้น อยู่ที่กิโลกรัมละ 11 บาท จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 10.56 บาท

ส่วนราคาผลปาล์มย่อลง อยู่ที่กิโลกรัมละ 4.60 บาท จากสัปดาห์ก่อน ที่กิโลกรัมละ 4.98 บาท จากสถานการณ์ที่ราคาตกในช่วงนี้ นาย ภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่หาสาเหตุโดยเร็ว เพราะเป็นช่วงที่ผลผลิตผลกำลังออกสู่ตลาดจำนวนมากมากดดันราคาให้ต่ำลง โดยขณะนี้สตอกน้ำมันปาล์มดิบถือว่าอยู่ในระดับปกติที่ 200,000 ตัน รวมไปถึงสถานการณ์การส่งออกก็ยังไปได้ดีและความต้องการใช้ในประเทศก็คงที่


อย่างไรก็ตาม แต่เบื้องต้นฝากไปยัง ลานเท และโรงสกัด อย่ากดราคารับซื้อ ซึ่งมีกฎหมายมาดูแลป้องกัน โดยเฉพาะการทำลูกร่วงผิดธรรมชาติหรือ การกระแทกลูกร่วงไปขายก่อน ซึ่งหากฝ่าฝืน จะมีโทษจำคุก ไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะเดียวกันฝากพี่น้องเกษตรกร ให้ตัดปาล์มคุณภาพ เพื่อให้ได้เปอร์เซ็นต์น้ำมันที่ดีและได้ราคาดี สำหรับภาพรวมปริมาณผลปาล์มน้ำมัน ปีนี้ อยู่ที่ 18.12 ล้านตัน ลดลงจากปีที่แล้วเล็กน้อยที่ 18.27 ล้านตัน ขณะที่ราคาน้ำมันปาล์ม ขวดเฉลี่ยขวดลิตรละ 45 บาท ลดลงจากปีก่อนหน้าที่ขวดละ 46 บาทกว่า

ส่วนราคาอาหารสด หมูเนื้อแดงสัปดาห์นี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 135.81 บาทใกล้เคียงกับสัปดาห์ก่อนหน้า เนื้อไก่ แต่ละชิ้นส่วนมีปรับขึ้นลง โดยเนื้อน่องติดสะโพก ลดลง 50 สตางค์ มาอยู่ที่ กิโลกรัมละ 83.50 บาท เนื้อสะโพก 87.13 บาท ลงจากสัปดาห์ก่อนที่ 87.59 บาท 59 สตางค์ และเนื้อหน้าอก 83.44 บาท ลดลงจาก 83.98 บาทในสัปดาห์ก่อน ส่วนเนื้อน่อง 85.50 บาท เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ 85.26 บาท ขณะที่ราคาไข่ไก่ทรงตัว โดยไข่คละ เฉลี่ยฟองละ 3.80 บาท และขนาดเบอร์ 3 เฉลี่ยฟองละ 4.06 บาท

นอกจากนี้ ราคาผักเริ่มกลับมาดีขึ้นแล้ว หลังจากฝนตกต่อเนื่อง ทำให้ผักหลายชนิดเติบโตดี ราคาลดลง โดยผักคะน้า สัปดาห์นี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 39 บาทจากสัปดาห์ก่อนที่ 42 บาท ถั่วฝักยาว ลดลงเยอะอยู่ที่กิโลกรัมละ 66.50 บาท จาก 89 บาทในสัปดาห์ก่อน กะหล่ำปลีอยู่ที่กิโลกรัมละ 36 บาท จากสัปดาห์ก่อนที่ 37.60 บาท ผักบุ้งจีน กิโลกรัมละ 31.90 บาท จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 35.70 บาท ต้นหอม ลดลงเหลือ กิโลกรัมละ 112.50 บาทจากสัปดาห์ก่อนที่ 118.80 บาท และมะนาว ก็ปรับลดลง เฉลี่ยลูกละ 4.40 บาท จากสัปดาห์ก่อนลูกละ 4.74 บาท แต่ผักชี ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากฝนที่ตกแรง ทำให้ผลผลิตเสียหาย ใบเสียหายง่าย


ส่วนที่มีข่าวก่อนหน้านี้ ว่า พริกขี้หนู พุ่งไปถึงกิโลกรัมละ 800 บาทนั้น จากการตรวจสอบของสำนักงานพาณิชย์จังหวัด พบว่า ราคาไม่ถึง 800 บาทตามข่าว โดยเฉลี่ยที่ 600-650 บาท ซึ่งพริกขี้หนู มีอยู่ 3 ชนิด และชนิดที่ราคาแพงในขณะนี้ คือ พริกขี้หนูสวนหอม ราคาเฉลี่ยในตลาดสด ปีที่แล้ว ที่กิโลกรัมละ 320 ถึง 400 บาท แต่ปีนี้ เฉลี่ย กิโลกรัมละ 450 ถึง 680 บาท ซึ่งแหล่งเพาะปลูกใหญ่ อยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศร้อนจัด แต่เชื่อว่า จากสภาพอากาศที่ดีขึ้นในขณะนี้ จะทำให้ผลผลิตดีขึ้น และได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัด ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดและเชื่อมโยงสินค้าไปเสริมให้เพียงพอกับความต้องการ โดยพริกขี้หนูสวนธรรมดา ปีที่แล้วเฉลี่ยที่กิโลกรัมละ 180-220 บาท ถือว่าใกล้เคียงกับปีนี้ที่เฉลี่ย 200-240 บาท และพริกจินดา ทรงตัว ทั้งปีที่แล้วและปีนี้เฉลี่ย 80 บาทต่อกิโลกรัม เป็นต้น. -514-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

กองทัพบกประณามกัมพูชา โจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตไทย

กทม. 24 ก.ค.-กองทัพบก ประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชา กรณีใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตแดนไทย กองทัพบกขอประณามการกระทำอันรุนแรงและไร้มนุษยธรรมของฝ่ายกัมพูชา จากกรณีที่มีการใช้อาวุธจรวด BM-21 จำนวน 2 นัด ยิงเข้ามาในพื้นที่ชุมชนภายในศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อเวลา 09.40 น. วันนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ราษฎรได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ซึ่งฝ่ายไทยได้ดำเนินการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่โดยทันที เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังเฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเตรียมมาตรการรองรับอย่างรอบด้าน ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม จะได้รายงานให้ทราบต่อไปโดยเร็วที่สุด.-313.-สำนักข่าวไทย

น่าน จมมาบาดาลเกือบทั้งเมืองแล้ว

น่าน 24 ก.ค.-น้ำท่วมตัวเมืองน่านวิกฤติหนัก หลังน้ำยังเพิ่มสูงบางจุดท่วมมิดชั้น 2 แล้ว และขยายวงกว้างออกไปในรัศมีเกือบ 10 กม. รวมทั้ง รพ.น่าน ที่ต้องย้ายผู้ป่วยไปที่สนามบิน น้ำท่วมตัวเมืองน่านเรียกว่าสาหัสสากรรจ์จริงๆ ตอนนี้เมืองน่านจมมาบาดาลเกือบทั้งเมืองแล้ว จากที่ประเมินเท่ากับน้ำท่วมใหญ่ปี 49 ซึ่งเป็นน้ำท่วมใหญ่รอบร้อยปี แต่ตอนนี้น่าจะหนักเกินแล้ว น้ำท่วมถึงชุมชนสวนตาล ซึ่งอยู่ห่างจากริมน้ำน่าน 4 กิโลเมตร แม้จะเห็นว่าระดับไม่สูง แต่ด้านในสูงถึงคอแล้ว การเข้าออกต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียว และน้ำยังเพิ่มขึ้น ชาวบ้านยังเร่งอพยพข้าวของออกมา เขตเศรษฐกิจเมืองน่านไม่ต้องพูดถึงจมน้ำสูงกว่า 1 เมตร วัดวาอารามหลายแห่งถูกน้ำท่วม และยิ่งชุมชนใกล้น้ำน่านบ้านเรือนหลายพันหลังถูกน้ำท่วมสูง บางจุดน้ำท่วมถึงชั้น 2 ของบ้าน อย่างเจ้าของบ้านรายนี้ถ่ายภาพจากชั้น 2 ของบ้านย่านชุมชนบ้านพระเกิด ไม่ไกลจากโรงพยาบาลน่าน ส่งมาให้ทีมข่าว จะเห็นว่าน้ำท่วมสูงเกินรั้วบ้านและกำลังจะขึ้นชั้นสอง และมีชาวบ้านที่ติดอยู่ในบ้านกลางน้ำท่วมสูงอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่พยายามจะเข้าไปช่วยแต่เรือมีจำกัดและน้ำยังไหลเชี่ยว ทำให้บางจุดยังไม่สามารถเข้าไปได้ ชาวบ้านบางส่วนต้องเดินฝ่าน้ำท่วมสูงถึงคอออกมาด้านนอก เพื่อหาอาหารและน้ำดื่ม รวมทั้งโรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมตั้งแต่เมื่อคืน เจ้าหน้าที่เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลบอกว่า ตอนนี้น้ำท่วมสูงมาก ตึกอาคารเก่าน้ำท่วมถึงหน้าอก แต่ผู้ป่วยในราว 3 ร้อยคนอยู่บนตึกใหม่ตั้งแต่ชั้น 2 ปลอดภัยดี […]

เปิดแผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” ป้องกันประเทศจากภัยคุกคาม

กทม. 24 ก.ค.-เปิดแผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” ป้องกันประเทศจากภัยคุกคามฝ่ายตรงข้าม โฆษก ทบ. ชี้ชัดเจนแล้ว กัมพูชา เป็นฝ่ายที่บีบบังคับเรา ซัดเราคงไม่ปล่อยให้ใครเอาเปรียบ หรือลอบทำร้าย จากนี้จำเป็นต้องทำในสิ่งที่พยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด ลั่นขณะนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้! ขอให้พี่น้องคนไทย เชื่อมั่นในศักยภาพของกองทัพไทย พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงแผนจักรพงษ์ภูวนารถ ที่เราเปิดปฏิบัติการ ว่าคือ แผนป้องกันประเทศ ที่กำหนดหน้าที่ของแต่ละหน่วย และกำลังทางทหาร และให้เตรียมความพร้อม เมื่อมีคำสั่ง เป็นแผนที่ได้ถูกกลั่นกรอง โดยประเมินจากสถานการณ์ และสภาพแวดล้อมในกิจการป้องกันประเทศ ในกรอบของกองทัพบก ที่ผ่านมา ในศึกเขาพระวิหาร ที่ใช้แผนนี้ ปัจจุบันขีดความสามารถกำลังรบเราเป็นอย่างไร โฆษก ทบ. ระบุพัฒนามาตามลำดับ และพิจารณาให้เหมาะสมกับภัยคุกคาม และขีดความสามารถของฝ่ายตรงข้าม ป้องกันภัยคุกคามจากฝ่ายตรงข้าม ส่วนแผนหลักๆ เป็นการป้องกัน หรือรุกคืบ โฆษก ทบ. ระบุ อาจจะพูดไม่ได้ แต่โดยปกติ อันดับแรกต้องครอบคลุมอธิปไตยของเราก่อน ส่วนเป็นการซีลชายแดนหรือไม่ โฆษก ทบ. ระบุพูดง่ายๆ แผนนี้ […]

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย