กรุงเทพฯ 2 เม.ย.-บมจ. บีพีเอส เทคโนโลยี ผู้จำหน่ายอุปกรณ์เชื่อมต่อไฟฟ้าภายในอาคาร สินค้าเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง อุปกรณ์โซลาร์เซลแบบติดตั้งบนหลังคา โครงข่ายไฟเบอร์ออพติกเพื่อการสื่อสาร และผลิตภัณฑ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกภายในที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ 3 เม.ย. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 360 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “BPS”
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai ยินดีต้อนรับ บมจ. บีพีเอส เทคโนโลยี เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “BPS” ในวันที่ 3 เมษายน 2567
BPS เป็นผู้จัดหาและจำหน่ายสินค้าประเภทวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์เทคโนโลยี ซึ่งปัจจุบันธุรกิจของ BPS เข้าสู่การเป็น Solution Provider ด้วยกลยุทธ์ในการต่อยอดผลิตภัณฑ์และบริการที่มีอยู่ให้เป็นผลิตภัณฑ์และบริการประเภทเทคโนโลยีและดิจิทัลแบบครบวงจร โดยเป็นศูนย์รวมของสินค้าและบริการที่เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยให้กับลูกบ้าน กลุ่มลูกค้าองค์กรธุรกิจและโรงงาน นอกจากนี้ บริษัทได้รับใบอนุญาตในการประกอบกิจการโทรคมนาคมที่สามารถให้บริการระบบโทรคมนาคมที่มีโครงข่าย (Network Service) แก่บุคคลทั่วไป โดยได้เริ่มงานติดตั้งสายไฟเบอร์ออพติกภายในอาคารชุด เพื่อให้บริการด้านการสื่อสารแก่ลูกบ้าน โดยร่วมมือกับผู้ประกอบการด้านอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ (recurring income) ในปี 2566 บริษัทมีรายได้หลักจากการขายสินค้า โดยแบ่งเป็นสินค้างานเชื่อมต่อไฟฟ้าร้อยละ 80.39 สินค้าสำหรับผลิตไฟฟ้าพลังงานโซลาร์ร้อยละ 5.40สินค้าเทคโนโลยีและสื่อสารร้อยละ 1.40 และมีรายได้จากการบริการร้อยละ 12.81
BPS มีทุนชำระแล้วหลังเสนอขาย 200 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 280 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 120 ล้านหุ้น โดยเป็นการเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์จำนวน 90 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัท 18 ล้านหุ้น และกรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือพนักงาน 12 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 27 – 29 มีนาคม 2567 ในราคาหุ้นละ 0.90 บาท คิดเป็นมูลค่าการเสนอขาย IPO 108 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 360 ล้านบาท ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO พิจารณาอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio: P/E Ratio) เท่ากับ 18 เท่า ซึ่งคำนวณจากกำไรสุทธิ 12 เดือนย้อนหลัง (งบปี 2566) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (fully diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.12 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายสุรพงษ์ สาเรชพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. บีพีเอส เทคโนโลยี เปิดเผยว่า 19 ปีที่ผ่านมา บริษัทเป็นแหล่งรวมสินค้าประเภทวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับระบบไฟฟ้า เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมที่ครบวงจร บริษัทมุ่งมั่นสร้างการเติบโตด้วยการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยดิจิทัลเพื่อความยั่งยืน ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการในรูปแบบของโซลูชั่น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับลูกค้า สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทจะนำไปลงทุนในโครงการต่างๆ ได้แก่ โครงการขยายธุรกิจการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา อุปกรณ์และงานติดตั้งนวัตกรรมบ้านอัจฉริยะ อุปกรณ์และงานติดตั้งไฟเบอร์ออพติกเพื่อการสื่อสาร ศูนย์การเรียนรู้สำหรับช่างฯ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
BPS มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO คือ กลุ่มนายสุรพงษ์ สาเรชพันธุ์ ถือหุ้นร้อยละ 45.16 ทรัสต์เพื่อกิจการเงินร่วมลงทุน กองทุนร่วมลงทุนในกิจการ SME ถือหุ้นร้อยละ 13.55 และนางสาวภัทรภร แก้วโพธิ์คา ถือหุ้นร้อยละ 11.29 บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองตามกฎหมาย
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ สามารถดูรายละเอียด จากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.big-eletric.com และ www.set.or.th ได้ .-511-สำนักข่าวไทย