รมว.อุตฯ มั่นใจไทยจะเป็นศูนย์ยานยนต์ไทย สู่ท็อปเทนโลกได้แน่

กรุงเทพฯ 7 มี.ค.-เดลินิวส์” ร่วมเช็กยานยนต์ไทยสู่ท็อปเทนโลก จัดใหญ่ ประเดิมปีมังกรทอง “เดลินิวส์ ทอล์ก 2024” เช็กความพร้อมยานยนต์ไทย สู่ท็อปเทนโลก อย่างยั่งยืน โดย รมว.อุตสาหกรรมมั่นใจไทยพร้อมเป็นศูนย์ยานยนต์สู่ท็อปเทนโลกได้แน่ ตอกย้ำรัฐบาลเดินหน้าเต็มทีดันให้ไทยเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าพวงมาลัยขวาเกิดขึ้นได้แน่ไม่นานนี้


นายปารเมศ เหตระกูล กรรมการบริหารหนังสือพิมพ์เดลินิวส์และเดลินิวส์ออนไลน์ เปิดเผยว่าในโอกาสที่เดลินิวส์จะครบรอบ 60 ปี ในวันที่ 28 มีนาคม 67 นี้ ในฐานะสื่อมวลชนที่อยู่คู่กับสังคมไทยมายาวนาน ได้จัดกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ในหลากหลายรูปแบบรวมถึงการจัดงานเสวนา “เดลินิวส์ทอ ลัก2024” (Dailynews Talk 2024)) เพื่อเผยแพร่ความรู้และทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยภายใต้หัวข้อ “เช็กความพร้อมยานยนต์ไทย สู่…ท็อปเทนโลก อย่างยั่งยืน” นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมมาเป็นประธานเปิดงานพร้อมกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “ยุทธศาสตร์ยานยนต์ไทย สู่…ท็อปเทนโลก” และมีเวทีเสวนาในหัวข้อ
“อนาคตรถสันดาป-รถอีวี ไปทางไหน? “มีผู้ร่วมเสวนา ประกอบด้วย นายสุวัชร์ ศุภกาญจน์เดชากุล นายกสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย, นายกฤษฎา อุตตโมทย์ นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย และนายพงษศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่จะมาร่วม ถ่ายทอดมุมมองแนวคิด และอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยแบบครอบคลุมไม่ว่าจะเป็นรถสันดาปหรือรถยนต์ไฟฟ้า

อย่างไรก็ตาม การเสวนาฯครั้งนี้ มีทั้งผู้กำหนดนโยบาย และกรูด้านยานยนต์จะมาให้ความรู้ข่าวสาร การปรับเปลี่ยน ทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยและโลกในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร และในส่วนของผู้ประกอบการธุรกิจยานยนต์ของไทย มีความพร้อมเปลี่ยนแปลงเพื่อก้าวไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนได้อย่างไร เชื่อว่าทั้งหมดจะเป็นประโยชน์ต่อผู้รับฟังไม่น้อย


“เดลินิวส์” ในฐานะสื่อมวลชนที่อยู่คู่กับประเทศไทยมายาวนาน ยังขอทำหน้าที่สื่อมวลชนรายงานข่าวนำเสนอข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมาต่อไป โดยขอให้คำมั่นสัญญาว่า “เด ลินิวส์” ยังคงทำหน้าที่เป็นสถาบันสื่อมวลชนหลักของประเทศยึดถือหลักการ “เชื่อมั่น ยั่งยืน เคียงข้างคนไทย” และพร้อมชื่อมโยง ส่งต่อนโยบายของภาครัฐภาคเอกชน ทำให้สังคมทุกภาคส่วนได้รับรู้ เข้าถึงภายใต้ประสบการณ์ความเชี่ยวชาญของเดลินิวส์ขอบพระคุณทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุนเดลินิวส์เสมอมาและตลอดไป นอกจากเวทีเสวนา “ยุทธศาสตร์ยานยนต์ไทย สู่….ท็อปเทนโลก” ในวันนี้แล้ว เดลินิวส์ ยังมี”งานเดลินิวส์ทอล์ก” ในหัวข้อที่น่าสนใจในปีนี้ อีก 5 เวที ทั้ง เวทีเสวนา ด้าน Sustainable เรื่อง Action for change ทำเดี๋ยวนี้เพื่อการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 1 เมษายน 2567 นี้ เวทีเสวนาเรื่องอสังหาฯยังติดกับดัก!! รอวันรัฐบาลสนับสนุน ,เวทีเสวนา เรื่องจับเข็มทิศอุตสาหกรรมไทยไปทางไหน?, เวทีเสวนา ใช้ชีวิตง่าย ๆ แบบรักษ์โลก และเวทีเสวนา เรื่อง พลิกโฉม ท่องเที่ยวไทยจะไม่เหมือนเดิม อีกด้วย“นายปารเมศ กล่าว

นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ในช่วงประมาณ 20 ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมยานยนต์ ถือเป็น 1 ใน 3 เสาหลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย จนกลายเป็นฐานการผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกไปทั่วโลกด้วยการมีโปรดักส์ แชมเปี้ยน เช่น รถกระบะ รถอีโคคาร์โดยในปี2565 ประเทศไทยมีการผลิตยานยนต์รวม 1.9 ล้านคัน อยู่อันดับที่ 10 ของโลก และอันดับ 1 ของอาเซียน มีมูลค่าส่งออกรวมประมาณ 1.07 ล้านล้านบาท ที่สำคัญ คืออุตสาหกรรมยานยนต์ มีลักษณะที่โดดเด่นคือมีซัพพลายเชนด้านชิ้นส่วนที่เข้มแข็งและขยายวงกว้างอยู่ทั่วประเทศ

ปัจจุบันแบรนด์รถยนต์รายใหญ่ ๆ ล้วนมาตั้งโรงงานผลิตและประกอบรถยนต์ในประเทศไทยโดยเฉพาะในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางยานยนต์ของภูมิภาค ส่งผลให้อุตสาหกรรรมยานยนต์มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยทั้งด้านการลงทุนการจ้างงาน การสร้างมูลค่าเพิ่ม และการส่งออกอย่างไรก็ตามข้อมูลสถิติล่าสุดชี้ให้เห็นว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยถึงจุดอิ่มตัวแล้วนั่นก็คือในช่วงระยะ 10 ปีที่ผ่านมา ปริมาณการผลิตยานยนต์ค่อนข้างคงที่ไม่เกิน 2 ล้านคัน แบ่งเป็นขายในประเทศเกือบ 1 ล้านคัน ที่เหลือส่งออก นอกจากนี้ยังเผชิญกับกระแสการเปลี่ยนแปลงต่างๆทั้งการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี เช่น การขับขี่อัตโนมัติ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมซึ่งทั่วโลกมีเป้าหมายร่วมกันที่จะลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยเฉพาะอย่างยิ่งก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์(CO2) ซึ่งนำมาของกระแสรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV)


อย่างไรก็ตาม ความท้าทายต่างๆเหล่านี้ ล้วนส่งผลต่อทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยและโลกในอนาคต ปัจจุบันจึงเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ และคงไม่มีใครปฏิเสธว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนไปสู่การผลิตยานยนต์ที่มีประสิทธิภาพปลอดภัย เป็น มิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางตลาดโลก ดังนั้นในเวลานี้ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ที่จะปลุกให้อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยที่เป็นเสือหลับให้ตื่นกลับมายืนฉายแสงในภูมิภาคอีกครั้ง ดังนั้น ต้องกำหนดยุทธศาสตร์ทั้งระบบ เพื่อให้ไทยยังรักษาฐานการผลิตยานยนต์แห่งอนาคต โดยเฉพาะทันกระแสของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่โตก้าวกระโดดและไม่ตกจากเวทีโลก ที่ผ่านมารัฐบาลได้กำหนดให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายสอด รับกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 มีการตั้งคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติหรือ บอร์ด EV ซึ่งปัจจุบันมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเองเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ภายใต้วิสัย ทัศน์

ทั้งนี้ ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่สำคัญของโลกเป้าหมายการผลิตและการใช้ยานยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ในปี 2573 หรือที่เรียกว่า “แผน30@30” คือการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ 30% ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมดภายในปี 2573หรือปี 2030 โดยรถยนต์ไฟฟ้า มีมูลค่าการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ แบ่งตามประเภทรถยนต์ดังนี้รถยนต์ไฮบริด มูลค่าส่งเสริมการลงทุนประมาณ 30,000 ล้านบาท รถยนต์ปลัก-อิน ไฮบริด มูลค่า 10,000 ล้านบาท และรถยนต์ไฟฟ้า มูลค่า 40,000 ล้านบาท และในปี 2567 มีหลายบริษัทเริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ด้วยมาตรการสนับสนุนการใช้รถไฟฟ้าช่วยผลักดันให้ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ในปี 2566 สูงถึง 76,000 คัน สอดคล้องกับมติ ครม. รัฐบาลชุดนี้เห็นชอบมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าระยะที่ 2 หรือ มาตรการ EV3.5 เพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนสำคัญให้เติบโตต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่กระทรวงอุตสาหกรรมให้ความสำคัญเพื่อให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างราบรื่น คือ การ ขับเคลื่อนแผน 30@30 ในส่วนของการผลิตที่เหลืออีก 70% คือการพัฒนาการผลิตยานยนต์สันดาปภายใน (ICE) ซึ่งคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติได้เห็นชอบมาตรการในช่วงเปลี่ยนผ่าน ด้วยการส่งเสริมการผลิต รถยนต์ ICE ให้เปลี่ยนผ่านไปรถยนต์กึ่งไฟฟ้าได้แก่รถยนต์ไฮบริด และรถยนต์ปลัก-อิน ไฮบริด ซึ่งมีการใช้ชิ้นส่วนคล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) เช่น แบตเตอรี่ มอเตอร์ไฟฟ้า และ มีเครื่องยนต์หรือมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นทางเลือก ช่วยลดการใช้พลังงานและลดการปล่อยมลพิษได้มากขึ้นรวมทั้งการขยายสิทธิประโยชน์ภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์ประหยัดพลังงาน

กระทรวงอุตสาหกรรมพร้อมเป็นหน่วยงานหลัก มุ่งให้เกิดการพัฒนาสู่การเปลี่ยน ผ่านไปสู่การใช้ยานยนต์พลังงานสะอาดและพร้อมก้าวเดินไปพร้อมกับภาคเอกชน ในขณะเดียวกันก็ยัง ส่งเสริมให้อุตสาหกรรมยานยนต์เดิมให้ยืนหยัดในการพัฒนายานยนต์เดิมให้สะอาดและประหยัดขึ้น รวม ทั้งการบูรณาการความร่วมมือของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อผนวกกับศักยภาพของประเทศไทย ความพร้อมของปัจจัยพื้นฐานต่างๆทั้งในเรื่องของสิทธิประโยชน์การลงทุน ระบบโครงสร้างพื้นฐาน เชื่อว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยจะกลับมาเป็นเสือตื่นและผงาดอยู่ในท็อปเทนของฐานการผลิตยานยนต์โลกได้อีกครั้ง ดังนั้น รัฐบาลพร้อมเดินหน้าที่จะทำให้ไทย

“เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยจะสามารถกลับมาเป็นเสือที่ตื่นและผงาดอยู่ในท็อปเทนของฐานการผลิตยานยนต์ และยานยนต์ไฟฟ้าของโลก พร้อมกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการรักษาโลกที่สวยงามใบนี้ พร้อมส่งต่อให้กับคนรุ่นหลังต่อไปแน่น“นางสาวพิมพ์ภัทรา กล่าว.-514-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ แต่ขณะเดียวกันก็กดดันความคาดหวังประชาชน ย้ำต้องทำงานหนักตอบแทน ไม่ให้กลายเป็นยาพิษ ยันยึดสันติแก้ชายแดน บอกไทยนี้รักสงบ แต่ถ้ารบก็ลองดู ลั่นที่ผ่านมาเห็นความอัปยศอดสู วันนี้จะไม่มีวันให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ว่า ร่างนโยบายได้ส่งให้ทุกฝ่ายศึกษาแล้ว พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ตามรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีต้องลุกขึ้นอ่านนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาให้ได้รับทราบ ส่วนถามว่ามีความกังวลหรือไม่ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆ แล้วเราไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ สำหรับพรรคภูมิใจไทยทำงานต่อเนื่องมากกว่า 6 ปีแล้ว เพิ่งไปพักร้อนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น สิ่งที่ยังทำค้างอยู่ในช่วง 2 เดือนที่หยุดไป คงไม่ถึงขั้นที่ต้องทำให้ยกเลิก สิ่งที่เราอยากจะทำอะไรไป เราสามารถสานต่อ และมีนโยบายใหม่ๆ ในฐานะที่เรามาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะสามารถใช้นโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มมากขึ้น หลายคนมีความคาดหวังกับรัฐบาลใหม่ และผลโพลหลายสำนัก คะแนนความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีเพิ่มสูงขึ้น จะสอดคล้องกับนโยบายและเป็นความคาดหวังให้กับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหนนั้น […]

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

สิ้นตำนานเจ้าแม่รถทัวร์แห่งเมืองย่าโม

กรุงเทพฯ 28 ก.ย.- อาลัย “เจ๊เกียว” สิ้นตำนานเจ้าแม่รถทัวร์แห่งเมืองย่าโม เสียชีวิตอย่างสงบ สิริอายุ 88 ปี ครอบครัวเชิดชัย แจ้งว่า นางสุจินดา เชิดชัย หรือ “เจ๊เกียว” เจ้าแม่รถทัวร์เมืองไทย เสียชีวิตอย่างสงบ สิริอายุ 88 ปี เจ๊เกียว เกิดเมื่อ 20 มีนาคม 2480 ณ จังหวัดนครราชสีมา เสียชีวิตในช่วงบ่ายของวันที่ 27 ก.ย.68 ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ กทม. ด้วยอาการชรา ประกอบกับอายุมาก มีโรคประจำตัวหลายโรค เจ๊เกียว เป็นลูกคนที่ 6 ของครอบครัว เป็นเด็กเรียนดี สอบได้ที่ 1 มาตลอด ครอบครัวมีกำลังให้เรียน ป.4 เจ๊เกียว ตั้งปณิธานกับตัวเอง “จะต้องรวยกว่าแม่ให้ได้” จึงกลายเป็นแรงผลักดัน ตลอดเส้นทางดำเนินชีวิต นับว่า เจ๊เกียว มีประวัติสู้ชีวิตตั้งแต่เด็กๆ หลังออกจากโรงเรียน […]

ครึ่งวันเช้าเรียบร้อยดี เลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ คนทยอยใช้สิทธิ

ศรีสะเกษ 28 ก.ย.- ครึ่งวันเช้าเรียบร้อยดี ประชาชนทยอยใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 คึกคัก เผยแม้กังวลสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แต่อยากออกมาใช้สิทธิในฐานะคนไทย ด้านเลขาฯ กกต. ระบุตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเวลาเปิดหีบ ยังไม่พบสิ่งบ่งชี้เหตุฉุกเฉิน -สำนักข่าวไทย