ที่ปรึกษาจัดงานฟาสต์ฯ แนะรัฐบาลใหม่หนุนด้านราคารถอีวีไปอีก  2  ปี

กรุงเทพฯ 5 ก.ค.- ที่ปรึกษาจัดงานฟาสต์ ออโต้ โชว์ แอนด์ อีวี ไทยแลนด์ เอ็กซ์โป อยากให้รัฐบาลชุดใหม่ สนับสนุนด้านราคาต่อไปอีก 2 ปี เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในรถยนต์ไฟฟ้า


ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ที่ปรึกษาจัดงานฟาสต์ ออโต้ โชว์ แอนด์ อีวี ไทยแลนด์ เอ็กซ์โป ที่กำลังจัดงานฟาสต์ฯระหว่างวันที่ 5-9 กรกฎาคม ที่ไบเทค บางนา เปิดเผยว่า อยากจะให้รัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ ต่อสัญญามาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ออกไปอีก 2 ปีเพื่อเพิ่มจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ประมาณ 2 แสนคัน และการสนับสนุนของรัฐบาลใหม่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้ามาขายในเมืองไทย ช่วงที่ผ่านมาจะมีราคาไม่ถึง 4 แสนบาทไปจนถึงราคา 2 ล้านบาท โดยมีความเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงนโยบายเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าจะเปลี่ยนแปลงแบบรวดเร็วไม่ได้จะต้องใช้เวลาเพราะผู้ใช้รถยนต์ยังชื่นชอบอยู่กับรถยนต์แบบเก่า นอกจากนี้โดยส่วนตัวมองว่า รถยนต์ไฟฟ้าหรืออีวี ไม่ค่อยมีเสน่ห์จากรูปทรงที่เป็นกล่องและเสียงของเครื่องยนต์ไม่เร้าใจเหมือนกับรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์แบบเดิม

ทั้งนี้ มาตรการสนับสนุนด้านราคาอีวีของรัฐบาลชุดปัจจุบันจะสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 2566 นี้ ดังนั้น เดือนต.ค. 2566 นี้หากไม่มีการต่อมาตรการอีวี ราคาขายรถอีวี อาจแพงขึ้น เนื่องจาก 2 นโยบายกระตุ้นการใช้รถอีวีของรัฐบาลชุดปัจจุบัน คือ รัฐบาลให้เงินอุดหนุนรถยนต์ EV 70,000 – 150,000 บาทต่อคัน และ รัฐบาลลดภาษีนำเข้า และ ภาษีสรรพสามิตต่างๆ ให้กับค่ายรถอีวีที่นำเข้ารถมาขายในประเทศไทย ทั้งนี้ อาจส่งผลให้ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าต่าง ๆ ที่ขายกันอยู่ในปัจจุบัน อาจจะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการที่ต้องเสียภาษีมากขึ้น และ อาจจะต้องปรับราคาขายรถให้สูงขึ้นชดเชยสัดส่วนเงินสนับสนุนที่จะหายไป 70,000 – 150,000 บาท เนื่องจากปัจจุบันราคารถอีวี  เป็นราคาที่รวมส่วนลดแล้ว ดังนั้น ถ้านโยบายส่งเสริมต่างๆหมดอายุ รถอีวี รุ่นต่างๆก็อาจจะกลับไปที่ราคาตั้งต้นก่อนได้รับส่วนลด เป็นต้น


สำหรับมาตรการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ มีทั้งการส่งเสริมให้เกิดการใช้รถยนต์ไฟฟ้า 3 กลุ่ม คือ เงินอุดหนุนรถยนต์และรถกระบะคันละ 70,000 – 150,000 บาทต่อคัน และรถจักรยานยนต์ 18,000 บาทต่อคัน , การลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์จาก 8% เป็น 2% และรถกระบะเป็น 0% , ลดอากรขาเข้ารถยนต์ที่ผลิตต่างประเทศและนำเข้าทั้งคัน (CBU) สูงสุด 40% สำหรับรถยนต์ถึงปี 2566 , ยกเว้นอากรขาเข้ารถยนต์ที่ผลิตในประเทศ (CKD) จำนวน 9 รายการ

โดยมีข้อผูกผันในการผลิตและการใช้ชิ้นส่วนสำคัญในประเทศ ตามมติของคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ที่ได้เห็นชอบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้รัฐบาลตั้งเป้าหมายในการผลิตรถอีวีให้ได้ 30% ของการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยภายในปี 2573 .-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นหาร่างใต้ตึกถล่ม

คาดไม่เกิน 1 สัปดาห์ ทราบชัดมีผู้ติดค้างในซากอาคาร สตง.หรือไม่

คาดไม่เกิน 1 สัปดาห์ จะทราบชัดมีผู้ติดค้างในซากอาคาร สตง. หรือไม่ ปัจจุบันการทำงานบริเวณทางเชื่อมด้านอาคารจอดรถด้านหลังยังลงไปไม่ถึงพื้นของชั้นใต้ดิน

ผบ.ตร. สั่งเร่งตรวจสอบ ตร.พาผู้ต้องหาลอบนำข้อสอบฯ ออกจากโรงพัก

ผบ.ตร. สั่งเร่งตรวจสอบกรณีมีตำรวจพาผู้ต้องหาลักลอบนำข้อสอบฯ ออกจากโรงพัก ทั้งที่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ย้ำใครผิดว่าไปตามผิด

รวบมือปาหิน

รวบแล้วมือปาหินใส่รถ ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า

รวบแล้วมือปาหินใส่รถประชาชน ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า พบประวัติเคยถูกจับมาแล้ว 12 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 13

ข่าวแนะนำ

สร้างสถานการณ์ ปาประทัดบอลใส่บ้านชาวไทยพุทธที่ปัตตานี

คนร้ายสร้างสถานการณ์ปาประทัดบอลใส่บ้านชาวไทยพุทธ ในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบลายนิ้วมือ หาตัวผู้ก่อเหตุ

กำชับเฝ้าระวังโรค “แอนแทรกซ์” เข้มข้น

“สมศักดิ์” กำชับเฝ้าระวังโรค “แอนแทรกซ์” เข้มข้น จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย จับมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจำกัด-ยับยั้ง การแพร่ระบาด พร้อมเตือนรับประทานหมูดิบ เสี่ยงโรคหูดับตลอดชีวิต