ลุ้น! ค่าไฟงวด 3/66 จะพุ่งหรือไม่หลัง งวด 2/66 ลดลงจากงวด แรก 2 สต.

กรุงเทพฯ 24 เม.ย.-บอร์ด กกพ. เห็นชอบลดค่าไฟฟ้า งวด 2/66 ทำให้ลดลงได้จากงวด 1/66 อีก 2 สตางค์/หน่วย รอลุ้นงวด 3/66 จะลดลงอีกหรือไม่ ปัจจัยหลักการผลิตของแหล่งเอราวัณต้องมาตามแผน และราคาแอลเอ็นจีโลกต้องอยู่ในเกณฑ์ต่ำ ส่วนการยืดหนี้ของ กฟผ.เผยกระทบต้นทุนค่าไฟ 700 ล้านบาท/งวด หรือกว่า 1 สตางค์/หน่วย  ผลกระทบต่ออาจทำให้ กฟผ.จ่ายเงินเข้ารัฐล่าช้าลงอีก


นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์  เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.)นัดพิเศษวันนี้(24เม.ย.)พิจารณาปรับลดค่าไฟฟ้าผันแปร(เอฟที)งวด2/66(พ.ค.-สค.)ตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)เสนอพร้อมรับภาระค่าเอฟทีลดลง 7 สต.ทำให้ค่าไฟฟ้า ค่าเอฟทีลดลงจากเดิมที่ 98.27 สตางค์ต่อหน่วย คิดเป็นอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยรวม 4.77 บาทต่อหน่วยเป็นอัตราเอฟทีใหม่จะอยู่ที่ 91.19 สตางค์และค่าไฟเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ4.70บาท/หน่วย  นับว่าเป็นอัตราที่ลดลงจากงวด 1/66 อีก 2 สตางค์/หน่วยเพราะงวดนี้ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 4.72 บาท/หน่วย

สำหรับการลดค่าเอฟทีได้นั้น เนื่องจาก กฟผ.ขยายเวลารับภาระหนี้ต้นทุนค่าไฟฟ้าแทนประชาชนที่วงเงินล่าสุดเหลือประมาณ1.3แสนล้านบาท (จากหนี้รวม 1.5 แสนล้านบาท )โดยงวดนี้ กฟผ.จะได้คืนหนี้คิดเป็นค่าเอฟที 27.82สตางค์/หน่วย(18,158ล้านบาท)จากเดิมจะได้คืน34.90 สตางค์(22,781ล้านบาท)หรือได้คืนลดลง4,623ล้านบาท


โดยมติ กกพ.มีผลทันทีโดยไม่ต้องรับฟังความเห็นประชาชนรอบใหม่เนื่องจากสมมุติฐานอื่นๆไม่เปลี่ยนแปลง ยกเว้นกรณีการปรับเลื่อนคืนหนี้ .กฟผ.จากเดิมคืนหนี้ให้หมดภายใน2ปีหรือ6งวด(ม.ค66-ธ.ค.67)ก็เลื่อนเป็น7งวด(ม.ค.66-เม.ย.68)อย่างไรก็ตามความเห็นหน่วยงานเกี่ยวข้องเช่นกระทรวงการคลังต่างระบุไม่ขัดข้องเรื่องการยืดหนี้รอบนี้ แต่ให้ระมัดระวังเงินกู้และการเงิน ของ.กฟผ.ที่อาจประสบปัญหาสภาพคล่องในงวดต่อๆไปและอาจกระทบต่อเครดิตเรตติ้ง

“ส่วนค่าไฟฟ้าที่ขณะนี้บ่นกันมากว่าแพงขึ้นก็ขอชี้แจงว่า งวดเดือน มี.ค. –เม.ย.ค่าไฟฟ้ายังไม่ได้ปรับขึ้นแต่อย่างใดยังคิดที่เฉลี่ย 4.72 บาท/หน่วย แต่จากอากาศร้อน เครื่องใช้อากาศทำงานหนัก ค่าไฟฟ้าเป็นอัตราก้าวหน้า ยิ่งใช้แยอะยิ่งจ่ายแพง และหากใช้เงิน 300 หน่วยต่อเดือนก็ไม่มีส่วนลดจากรัฐบาล ก็ยิ่งทำให้ค่าไฟพุ่งขึ้น”นายคมกฤชกล่าว

นายประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)กล่าวว่า กฟผ.พร้อมร่วมรับภาระค่าไฟงวด2/66เพราะประเมินรอบด้านแล้วฐานะการเงินยังพอรับได้แต่ในงวดถัดๆไปคงไม่สามารถรับภาระเพิ่มได้อีก โดยแต่ละงวดนั้นต้นทุนดอกเบี้ยจะมีราว700ล้านบาทหรือเทียบค่าไฟเอฟทีสูงกว่า1สตางค์ต่อหน่วยซึ่งกระทบต่อค่าไฟในที่สุดดังนั้นข้อเสนอเอกชนที่ให้ยืดหนี้ไปเป็น3ปีหรือ9งวดก็กระทบค่าไฟเพิ่มขึ้นเช่นกัน


ในขณะเดียวกันในงวด2/66ที่กฟผ.ได้รับชำระหนี้ช้า4,623ล้านบาท .ทาง กฟผ.ก็จะรอดูสมมุติฐานโดยรวมว่าต้นทุนค่าก๊าซธรรมชาติจะผิดไปจากแผนงานที่ บมจ.ปตท.นำเสนอหรือไม่และการใช้ไฟภาพรวมผิดจากแผนมากน้อยเพียงใด เช่น เดือนม.ค.-มี.ค.66อากาศเย็นทำให้การใช้ไฟต่ำกว่าแผนและทำให้ กฟผ.ได้เงินคืนต่ำกว่าแผน 750ล้านบาทดังนั้น หาก กฟผ.ได้รับผลกระทบจากการผิดแผนก็อาจจะเจรจากระทรวงการคลังเลื่อนการนำเงินส่งรัฐ4,623ล้านบาทจากที่ต้องนำส่งรายได้ปี65วงเงิน 18,000 ล้านบาทในเดือนก.ย.66และงวดแรกปี66 อีก9,000ล้านบาทในเดือนต.ค.66 ในขณะที่กฟผ.มีวงเงินกู้เสริมสภาพคล่อง ที่ครม.อนุมัติไว้ 2รอบรวม1.1แสน และเงินกู้เบิกโอดีได้อีก 3 หมื่นล้านบาท 

คมกฤช ยังกล่าวถึงข้อเสนอเอกชนที่ให้ ลดค่าไฟงวด 2/66 ลงเหลือ 4.40 บาท/หน่วย เพราะราคาก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี) ตลาดโลกลดลงว่า ในการพิจารณานั้นเป็นการตั้งสมมุติฐานล่วงหน้า ดังนั้น หากราคำนวณสุดท้ายลดลงจริงก็จะนำไปลดในงวดถัดไป หรืองวดที่  3/66 ( ก.ย.-ธ.ค.) อย่างไรก็ตาม ในงวด 3/66 ราคาจะลดต่ำกว่า 4.70 บาท/หน่วยหรือไม่นั้น ก็ยังมีความเสี่ยงที่ต้องพิจารณาหลายปัจจัยทั้งค่าเงินบาท เรื่องปริมาณก๊าซอ่าวไทย โดยเฉพาะแหล่งเอราวัณจะขึ้นได้ตามแผนงานหรือไม่ โดยขณะนี้ยังผลิตไม่ได้ถึง 300 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และเบื้องต้นทราบว่าจะล่าช้าลงอีกจากเดิมที่กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติรายงานว่า เดือน ก.ค. 66 จะผลิตได้ 400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันและ สิ้นปีนี้ 66 จะผลิตได้ 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งหาก ผลิตได้ต่ำก็ต้องพึ่งพานำเข้าแอลเอ็นจี และปกติแล้วช่วงหน้าหนาวค่าแอลเอ็นจีจะแพงกว่านี้ และหาก ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์มีเพิ่มเติมก็จะกระทบต่อราคาอีก ก็จะทำให้ต้นทุนค่าไฟแพงขึ้นด้า

นายคมกฤช ยังกล่าวถึงมีผู้เสนอให้ยกเลิกค่าเอฟทีว่า เรื่องนี้ คงต้องดูความพร้อมทั้งหมด ค่าไฟฟ้าของไทยอยู่ภายใต้มาตรการกำกับดูแลให้เกิดผลกระทบการเปลี่ยนแปลงที่ผันผวนต่ำที่สุด คิดจากต้นทุนค่าไฟฟ้าฐาน ปรับทุก5 ปีและบวกด้วยค่าเอฟทีที่เกิดจากต้นทุนการเปลี่ยนแปลงค่าเชื้อเพลิงและอื่นๆทุก 4 เดือน และยังมีค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่หากปรับยกเลิกไม่มีเอฟที แล้วจะคิดค่าไฟฟ้าแบบใด เป็นกลไกเสรีเช่น กลุ่มยุโรป หรือมี 2 ระบบเหมือนกับสิงคโปร์ซึ่งก็จะเห็นได้ว่าระบบเสรีนั้น ต้นท้นค่าไฟแพงขึ้น 3 เท่า เพราะสะท้อนต้นทุนราคาก๊าซฯที่พุ่งกระฉูด ส่วนข้อเสนอเรื่องการส่งเสริมพลังงานทดแทนนั้นทาง สำนักงาน กกพ.พร้อมสนับสนุน ตามฝ่ายนโยบายทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” บอกฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว-เร่งเดินหน้าแก้ปัญหา

พรรคภูมิใจไทย 5 ก.ย.-“อนุทิน” ขอบคุณเสียงโหวตนั่งนายกฯ คนที่ 32 เร่งเดินหน้าแก้ปัญหาทดแทนโอกาสที่เสียไป เผย วินาทีกราบพ่อ เป็นสิ่งแรกที่อยากทำ ฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว บอกผมโอเค พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องโอเค นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภายหลังร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร พร้อมเปิดใจเป็นครั้งแรก หลังจากได้รับการโหวตเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยนายอนุทินได้กล่าวขอบคุณประชาชน ในโอกาสที่ได้รับเสียงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะถือเป็นเสียงของประชาชนที่ได้ใช้สิทธิ์ ผ่านสส. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สส.พรรคประชาชน และพรรคการเมืองที่ได้ลงคะแนนให้กับตน หรือพรรคที่ไม่ได้ลงคะแนนให้กับตน โดยการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่มีนายชัยเกษม นิติสิริ ได้รับการเสนอชื่อโหวตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อการโหวตผ่านพ้นไปแล้ว ก็อยากให้ทุกอย่างมันจบไปด้วยดี และอยากให้เราหันหน้าเข้าหากัน เพื่อทำงานให้กับประชาชน ให้กับประเทศ ในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้า ด้วยความรวดเร็ว เพื่อทดแทนโอกาสที่เสียไป ซึ่งตนเชื่อว่าหากเราหันหน้าทำงานด้วยกัน ก็จะทำให้ทะลุเป้าหมายต่างๆ ได้ ส่วนจะผลักดันนโยบายอะไรต่อขอยังไม่ลงรายละเอียด เมื่อถามถึงการเข้าพบนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ผู้เป็นบิดา หลังจากได้รับการโหวตเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทินเล่าว่า นายชวรัตน์ ไม่ค่อยสบาย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งตนก็คิดว่านายชวรัตน์ ก็อยากให้ไปหา จึงเร่งไปกราบเป็นอันดับแรก เมื่อถามว่านายชวรัตน์ให้พรอะไรบ้าง […]

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย