กรุงเทพฯ 11 พ.ย. -หุ้นไทยบวกแรง บาทแข็งค่า ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้น หลัง เงินเฟ้อสหรัฐต่ำกว่าคาด ตลาดประเมินเฟด ปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ชะลอลงด้าน MSCI เพิ่ม5หุ้นไทยเข้ารวมในดัชนี MSCI Global Small Cap
ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (11 พ.ย. 65) ปรับขึ้นตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย หลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาดโดยดัชนี SET Index เปิดตลาด อยู่ที่ระดับ 1,636.50 จุด ปรับขึ้น +17.27 จุด และ เมื่อเวลา 10..35 น. เคลื่อนไหวที่1,631 จุด บวก 12.25 จุด
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นตามตลาดหุ้นโลก ตอบรับตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาด โดยดัชนี CPI ทั่วไปรวมหมวดอาหารและพลังงานปรับตัวขึ้น7.7% ในเดือน ต.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 7.9% และชะลอตัวจาก 8.2% ในเดือน ก.ย. ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับขึ้น 6.3% ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 6.5% และชะลอตัวจาก 6.6% ในเดือน ก.ย. ชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว และทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ชะลอลงในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค.นี้ คาดปรับขึ้นในระดับ 0.50% และคาดว่าจะขึ้นอีก 2 ครั้งในปี 66 ครั้งละ 0.25% ส่งผลดอกเบี้ยสหรัฐจะอยู่ที่ระดับไม่เกิน 5% ต่ำกว่าคาดการณ์เดิมที่ 5.25%
ทั้งนี้ จากเงินเฟ้อลดลง และราคาพลังงานที่ลดลง ประกอบกับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นของไทย ก็คาดว่าจะเป็นผลดีต่อกลุ่มค้าปลีก รวมไปถึงหุ้นกลุ่มไฟฟ้าที่ได้รับผลดีจากราคาเชื้อเพลิงลดลงและการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ(เอฟที)
ด้าน บริษัท MSCI ซึ่งเป็นผู้จัดทำดัชนีตลาดหุ้นระดับโลกเปิดเผยรายงานการทบทวนปรับดัชนี MSCI Global Standard และดัชนี MSCI Global Small Cap ครั้งล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดี (10 พ.ย.) โดยไม่มีการเพิ่มหุ้นใด ๆ ของบริษัทไทยในดัชนี MSCI Global Standard ขณะที่ได้ลบหุ้น บมจ.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) ออกจากดัชนีดังกล่าว
ในส่วนของดัชนี MSCI Global Small Cap นั้น MSCI ได้เพิ่มหุ้นของบริษัทไทยจำนวน 5 แห่งเข้ารวมในดัชนีได้แก่บมจ.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM), หุ้นบมจ.ดิเอราวัณ กรุ๊ป (ERW), บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์(JWD), บมจ.เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (NEX) และบมจ.โรงพยาบาลรามคำแหง (RAM) ขณะเดียวกันได้ลบหุ้น บมจ.พีเอสจี คอร์ปอเรชั่น (PSG) และหุ้นบมจ.ซินเน็ค (SYNEX) ออกจากดัชนีดังกล่าว
ทั้งนี้ การปรับดัชนี MSCI Global Standard และดัชนี MSCI Global Small Cap ดังกล่าว จะมีผลตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.นี้เป็นต้นไป
บมจ.ไทยออยล์ รายงานราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 1% หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อต่ำกว่าคาด ส่งผลให้ตลาดคาดว่า FED มีแนวโน้มจะปรับลดอัตราการขึ้นดอกเบี้ยลง ซึ่งจะส่งผลเชิงบวกต่อสภาวะเศษฐกิจโลก รวมทั้งอุปสงค์น้ำมันในตลาด อย่างไรก็ตาม ตลาดจับตามองสถานการณ์ COVID-19 ซึ่งยังคงรุนแรง โดยในมณฑลกวางโจวซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตทางตอนใต้ของจีน ซึ่งอาจส่งผลต่อความต้องการใช้น้ำมันในจีน
น.ส.กาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือนครึ่งที่ 36.04 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้า ก่อนจะกลับมาปรับตัวอยู่ที่ระดับ 36.16-36.18 บาทต่อดอลลาร์ฯแข็งค่าขึ้นมากเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 36.88 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเงินบาท สกุลเงินและตลาดหุ้นในเอเชียปรับตัวขึ้น ท่ามกลางแรงเทขายเงินดอลลาร์ฯ อย่างต่อเนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาด
นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ และบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ยังมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากท่าทีของเจ้าหน้าที่เฟด ซึ่งสะท้อนว่า เฟดอาจปรับขนาดการขึ้นดอกเบี้ยให้มีความแข็งกร้าวน้อยลงในการประชุม FOMC รอบถัดๆ ไป ด้วยเช่นกัน
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้ที่ 36.00-36.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการนับคะแนนเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ ทิศทางฟันด์โฟลว์ สถานการณ์สกุลเงินเอเชีย ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/65 ของอังกฤษ ดัชนีความเชื่อมั่นและตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในมุมมองของผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือนพ.ย. และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด-.สำนักข่าวไทย