กรุงเทพฯ 29 เม.ย.-สหรัฐ คงสถานะไทยเป็นประเทศต้องจับตามองเป็นพิเศษ แต่มียังโอกาสทบทวนสถานะให้ดีขึ้นในปีนี้
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า
เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2560 สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR)
ได้ประกาศผลการจัดสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศคู่ค้าตามกฎหมายการค้าสหรัฐฯ
มาตรา 301 พิเศษ ประจำปี 2559 โดยสหรัฐอเมริกา
ยังคงจัดไทยเป็นประเทศต้องจับตามองเป็นพิเศษ (Priority Watch List – PWL) ต่อไป หลังจากอยู่บัญชี PWL มาตั้งแต่ปี 2550
ยาวนานมา 10 ปีแล้ว อย่างไรก็ตาม USTR ระบุในรายงานด้วยว่าพร้อมทบทวนสถานะของไทยให้ดีขึ้นในปีนี้
หากไทยยังคงมีความก้าวหน้าเชิงบวกในการแก้ไขปัญหาข้อกังวลด้านทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯ
รัฐมนตรีพาณิยชย์ กล่าวว่า แม้ไทยยังคงอยู่ในสถานะเดิม แต่หากดูในเนื้อหารายงานจะเห็นว่า
มีความแตกต่างจากรายงานผลการจัดสถานะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กล่าวคือ สหรัฐฯ ตระหนักถึงเจตจำนงอันแน่วแน่ในระดับนโยบายของไทย
ในการคุ้มครองและป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาบ่อยครั้ง และกำหนดโรดแม็พทางด้านทรัพย์สินทางปัญญาระยะ 20 ปี (IP
Roadmap) รวมถึงการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา
และมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา
โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ) เป็นประธาน
ทำให้การบูรณาการระหว่างหน่วยงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมุ่งเน้นเป้าหมายการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดมากขึ้น
ในส่วนข้อกังวลของสหรัฐฯ เคยระบุในรายงานในปีที่ผ่านมา อาทิ
ปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทั้งในท้องตลาดและการละเมิดออนไลน์
และปัญหางานค้างการจดทะเบียนสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้า ระบุว่า ไทยดำเนินการในทิศทางที่เหมาะสมแล้ว
รวมทั้งการเพิ่มจำนวนผู้ตรวจสอบของกรมทรัพย์สินทางปัญญา
และข้อกังวลของสหรัฐฯ ที่นำมาประเมินในครั้งนี้ บางเรื่องสามารถทำความเข้าใจเพิ่มเติมกับสหรัฐฯ
ได้ ตัวอย่างเช่น เรื่องกฎหมายลิขสิทธิ์ในประเด็นการคุ้มครองมาตรการทางเทคโนโลยี
การคุ้มครองข้อมูลการบริหารสิทธิ และการป้องกันการแอบถ่ายภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์
ซึ่งสหรัฐฯ แสดงความกังวลมาอย่างต่อเนื่อง
กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้เคยเปิดรับฟังความคิดเห็นผู้มีส่วนได้เสีย
รวมทั้งเจ้าของลิขสิทธิ์ทั้งไทยและต่างประเทศ แต่ก็ไม่มีเจ้าของลิขสิทธิ์รายใดนำเสนอข้อมูลว่ามีปัญหาอุปสรรคแต่อย่างใด
เนื่องจากข้อกังวลส่วนหนึ่งที่สหรัฐฯ
ระบุในรายงานหรือต้องการผลักดันเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ หลายหน่วยงาน เช่น
กรณีกฎหมายภาพยนตร์ให้อำนาจคณะกรรมการตามกฎหมายในการกำหนดโควตาภาพยนตร์ต่างประเทศ
กรณีร่างกฎหมายความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าถึงข้อมูลการติดต่อสื่อสารของภาคเอกชน
กรณีการให้ความคุ้มครองข้อมูลผลการทดสอบยาและเคมีภัณฑ์เกษตร ที่สหรัฐฯ
ต้องการยกระดับความคุ้มครอง และกรณีการกำหนดมาตรการด้านสาธารณสุข ที่สหรัฐฯ
เน้นย้ำว่าควรมีกระบวนการที่โปร่งใสและเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเจ้าของสิทธิได้เข้าไปมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น
ในการนี้กระทรวงพาณิชย์จึงจะรายงานผลการจัดสถานะต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบด้วย
ในลำดับต่อไป
ไทยจะดำเนินการตามแผนที่นำทางด้านทรัพย์สินทางปัญญา (IP Roadmap) อย่างจริงจังและต่อเนื่องต่อไป เพื่อประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย
และโดยประการสำคัญ เพื่อพัฒนาระบบทรัพย์สินทางปัญญาของไทยเอง
เนื่องจากทรัพย์สินทางปัญญาเป็นกลจักรสำคัญที่จะผลักดันให้เกิดการเติบโตด้านการค้าและการลงทุน
ตลอดจนการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามแนวทางประเทศไทย 4.0.-สำนักข่าวไทย
