เปิดเดินรถเมล์ไฟฟ้าเพิ่มอีก 2 สาย

กรุงเทพฯ 12 ต.ค.- ก.คมนาคม เดินหน้าเปิดรถเมล์ EV Bus เพิ่มอีก 2 สาย เชื่อมการเดินทางจากกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก เข้าเมืองอย่างไร้รอยต่อ พร้อมขยายเวลาจัดเก็บค่าโดยสาร 40 บาทตลอดสายออกไปอีก 3 เดือน


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม  กล่าวภายหลังเป็นประธานในงาน เปิดให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ของบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ฝั่งรามคำแหง สาย 2-24 หรือ สาย 44 เดิม เคหะคลองจั่น-ท่าเตียน และสาย

3-53 แอร์พอร์ตลิ้งค์ รามคำแหง – เสาชิงช้า ภายใต้แนวคิด “Seamless Connecting Charming Bangkok” ยลเสน่ห์กรุงเทพ ด้วยการเดินทางอย่างไรรอยต่อ ว่า วันนี้เป็นอีก 1 ความสำเร็จ ตามแนวคิดการเชื่อมโยงการเดินทางอย่างไรรอยต่อของรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ของไทย สมายล์ บัส ที่ผู้โดยสารสามารถเชื่อมต่อการเดินทาง “รถเรือ-ราง” แบบครบวงจร ซึ่งครั้งนี้ ไทย สมายล์ บัส จะเปิดเดินรถให้บริการผู้โดยสาร เพิ่มเติม 2 สายทาง จากกรุงเทพฯฝั่งตะวันออก โดยเฉพาะผู้โดยสารในพื้นที่เขตบางกะปิ เขตลาดพร้าว และพื้นที่ใกล้เคียง เข้าพื้นที่ชั้นในของ กทม. ด้วยเส้นทางการเดินรถสาย 44 (2-42) เส้นทาง เคหะคลองจั่น-ท่าเตียน และเส้นทางใหม่ / (3-53) เส้นทาง สถานี


รถไฟฟ้าหัวหมาก-เสาชิงช้า ที่จะผ่านสถานที่ สำคัญต่างๆ อาทิ เสาชิงช้า สามยอด หัวลำโพง ท่าเตียน สนามหลวงเป็นต้น และยังสามารถเชื่อมต่อการเดินทางด้วยเรือโดยสาร พลังงานไฟฟ้าและรถไฟฟ้า ไปยังสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อื่นๆ ได้อย่างไร้รอยต่อสะดวกสบาย และปลอดภัย ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ใช้บริการทุกราย

รวมทั้งขอความร่วมมือผู้ประกอบการขยายระยะเวลาการจัดเก็บค่าโดยสารของประชาชนทุกเส้นทางต่อวันไม่เกิน40บาท จาก 3 เดือน ซึ่งจะสิ้นสุดตุลาคมนี้ ออกไปอีก 3 เดือน สิ้นสุดเดือนมกราคม 2566 เพื่อเป็นการลดภาระค่าของชีพให้กับประชาชนโดยหากวันใดที่เดินทางและจ่ายค่าโดยสารครบ 40 บาทแล้วประชาชนจะไม่ต้องจ่ายเพิ่มอีก

ด้านนางสาวกุลพรภัสร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริทารไทย สมายล์ บัส จำกัด กล่าวว่า พร้อมที่จะขยายระยะเวลาการจัดเก็บค่าโดยสารตามที่กระทรวงร้องขอ สำหรับการเปิดรถเมล์ไฟฟ้า 2 เส้นทางในครั้งนี้สืบเนื่องจากแนวคิด


“เชื่อมโยงทุกการเดินทางอย่างไรรอยต่อ” ของรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ของไทย สมายล์ ที่ผู้โดยสามารถเชื่อมต่อการเดินทาง

“รถ-เรือ-ราง” แบบครบวงจรและไร้รอยต่อ โดยในครั้งนี้ ไทย สมายล์ บัส จะนำผู้โดยสารจากกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกโดยเฉพาะผู้โดยสารในพื้นที่เขตบางกะปิ เขตลาดพร้าว และพื้นที่ใกล้เคียง “มายลเสน่ห์ของกรุงเทพมหานครชั้นในที่มีประวัติศาสตร์ที่แฝงไปด้วยมนต์เสน่ห์ สามารถสัมผัสถึงกลิ่นอายของอารยธรรมรัตนโกสินทร์” ด้วยเส้นทางการเดินรถของไทย สมายล์ บัส สาย 44(2-42) เส้นทาง เคหะคลองจั่นท่าเตียน และเส้นทางใหม่ / (3-53) เส้นทาง สถานีรถฟฟ้าหัวหมาก-เสาชิงช้า ที่จะผ่านสถานที่สำคัญต่างๆ อาทิ เสาชิงช้า สามยอด หัวลำโพง ท่เตียน สนามหลวงเป็นต้น และยังสามารถเชื่อมต่อการเดินทางด้วยเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าและรถไฟฟ้า ไปยังสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อื่นๆ ได้อย่างไร้รอยต่อ สะดวกสบาย และปลอดภัย ไม่ต้องเผชิญกับมลพิษ ด้วยรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าที่ทันสมัย ซึ่งเชื่อว่า จะสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ใช้บริการทุกราย

นางสาวกุลพรภัสร์ ทิ้งท้ายว่า ไทย สมายล์  มีความมุ่งมั่น ที่จะเป็นผู้นำในการพลิกโฉมรถโดยสาร ในระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ ของกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ที่มีการออกแบบมาเป็นอย่างดี ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นับตั้งแต่ต้นปี 2565 เป็นต้นมา ไทย สมายล์ บัส ได้นำรถไฟฟ้า/มาให้บริการแก่พี่น้องประชาชนไปแล้ว20 สาย เป็นจำนวนรวมกว่า 225 คัน และได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง นับเป็นความภาคภูมิใจ และเป็นกำลังใจอันสำคัญ บริษัทฯ พร้อมที่จะตอบสนองความต้องการของประชาชน โดยจะบรรจุรถไฟฟ้าเข้ามาให้บริการอย่างต่อเนื่อง จนครบทุกสายภายในปลายปีนี้ ไทย สมายลั บัส ขอเป็นส่วนหนึ่ง ในการพัฒาคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทยทุกคน ตามนโยบายและแผนานของกระทรวงคมนาคมต่อไป ตามปณิธานของเราคือ “บริการด้วยรอยยิ้มใสใจสิ่งแวดล้อม” .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]

ตำรวจภาค 8 รวบ 3 ราย ขบวนการส่งยาขนมากับรถทัวร์

กระบี่ 11 มิ.ย. – รวบขบวนการค้ายาบ้า ขนมากับรถทัวร์ สายเชียงใหม่-ภูเก็ต 3 แสนเม็ด แวะลงกระบี่ ส่งให้เอเย่นต์สาขาสุราษฎร์ฯ ตำรวจรวบทีเดียวทั้งคนส่งและคนรับ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รักษาการ ผบ.ภ.จ.กระบี่ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ อายุ 54 ปี นายสุรพล อายุ 30 ปี และนางสาวสุนารี อายุ 27 ปี พร้อมยึดรถเก๋ง 1 คัน และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาบ้ากันบริเวณสามแยกเขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อถึงเวลาก็มีรถทัวร์สายเชียงใหม่-ภูเก็ต […]

‘ฮุน มาเนต’ ย้ำทหารกัมพูชาไม่ได้ถอยออกจากพื้นที่

ปารีส 10 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสารจากฝรั่งเศสถึงชาวกัมพูชา ยืนยันจุดยืนกองทัพไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ภายใต้อธิปไตย พร้อมร่วมมือกับไทยปักปันเขตแดน ตามกลไกเจบีซี ยกเว้น 4 จุดที่จะส่งศาลโลกตัดสิน ฮุน มาเนต ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยมหาสมุทรของสหประชาชาติ ครั้งที่ 3 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ส่งสารถึงชาวกัมพูชา มีใจความดังนี้ กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยสันติ แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการพยายามรุกรานใดๆ กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทยที่มีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพื่อดำเนินงานรังวัดและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป ยกเว้นประเด็นที่กัมพูชาจะส่งให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเจ (ICJ) พิจารณา

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ดูบังเกอร์หลบภัย ถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ มท.

11 มิ.ย.- นายกฯ ดูชาวบ้านทำบังเกอร์ ร้องโถ่ ก่อนถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ ก.มหาดไทย หลังรายงานขอรับบริจาคมาใช้แทนยางรถยนต์ วันนี้ (11 มิ.ย. 68) เวลา 13.40 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ต่อมายังหมู่บ้านสกลพัฒนา ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง เพื่อพบปะชาวบ้าน มอบสิ่งของ และตรวจดูการทำบังเกอร์หลบภัย โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีชาวบ้านนำผ้าขาวม้ามามอบให้ ซึ่งนายกฯ รับมาก่อนจะหันไปหานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า “ผูกกันเป็นทีม” ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภค – บริโภค เพื่อให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมการสร้างบังเกอร์ โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านสกลพัฒนา รายงาน โดยนายกรัฐมนตรี ถามผู้ว่าฯ ว่า ขอเข้าไปดูได้หรือไม่ และถามชาวบ้านบ้านว่า “ทำมานานหรือยัง” โดยชาวบ้านบอกว่า […]

คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา-ค้านประกันตัว

กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ ตำรวจคัดค้านการประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวฝากขังพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 ควบคุมตัวหมอแอร์ ไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากการกระทำความผิดมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะมีการหลบหนีและยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในระหว่างควบคุมตัว หมอแอร์สวมหมวก แว่นตาดำ และแมสก์ปิดบังใบหน้า พยายามแอบอยู่หลังเจ้าหน้าที่ โดยไม่ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด สำหรับผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ วันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) .-สำนักข่าวไทย

เปิดขบวนการ “หมอแอร์” สวมชื่อคนตายซื้อยาเสียสาว

11 มิ.ย. – ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำแถลงกรณี “หมอแอร์” พร้อมพวกรวม 7 คน แอบอ้างชื่อคลินิก 12 แห่ง สั่งซื้อยายาเสียสาว นำมาขายต่อ นาน 3 ปี และยังสวมชื่อคนตาย 370 คน รับยา ขณะที่ รพ.ตำรวจ มีคำสั่งให้ “หมอแอร์” ออกจากราชการไว้ก่อน หลังเมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.68) เจ้าหน้าที่บุกจับ “หมอแอร์” คุณหมอชื่อดัง สังกัดโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมพวก แอบอ้าง 12 คลินิก สั่งซื้อยาควบคุม (ยาเสียสาว) นำมาขายต่อ นาน 3 ปี วันนี้ (11 มิ.ย.68) มีการแถลงข่าวเรื่องนี้ นำโดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย […]

เปิดภาพความจริง! อดีต-ปัจจุบันชายแดนช่องบก

11 มิ.ย. – ‘กองทัพไทย’ เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ชายแดนช่องบก อุบลราชธานี เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน พบการทำกิจกรรมทางทหาร-ขุดคูเลต-ทำถนนส่งกำลังบำรุง ก่อนเหตุปะทะช่องบก 28 พ.ค.2568 ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดข้อมูลแผนที่ทางอากาศ จัดทำโดยกองบัญชาการกองทัพไทย จากกรณีไทย และกัมพูชา มีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศตรงจุดปะทะ โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ช่วงแรกถ่ายไว้จนถึงปี 2520, 2527 และมีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ จะยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่อย่างที่อ้าง ข้อมูลของกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย ทั้งนี้ กองทัพไทยยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546, 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่า ช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศว่า มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง […]