นนทบุรี 7 ต.ค.-รองอธิบดีกรมการค้าภายในเตือนร้านธงฟ้าห้ามฉวยโอกาส รับแลกเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ-ขึ้นราคาสินค้า หลังมีการร้องเรียนจากประชาชน ย้ำตรวจเจอเพิกถอนสิทธิทันที พร้อมดำเนินการตามกฎหมายเด็ดขาด
นายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ร้านธงเป็นกลไกสำคัญในการเข้าถึงสิทธิของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับการซื้อสินค้าราคาประหยัดตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งปัจจุบันมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการจำนวนทั้งสิ้น 130,850 ร้านค้า และได้รับการร้องเรียนจากประชาชนทั่วไปว่า มีร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้า) บางแห่งมีพฤติกรรมที่เอาเปรียบผู้บริโภค เช่น รับแลกวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นเงินสด ยึดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไว้ คิดค่าบริการกับลูกค้าที่ชำระสินค้าด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (หักค่าหัวคิว) ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าโดยไม่มีเหตุอันสมควร และไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้า ประกอบกับ วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้รับวงเงินเข้าบัตรฯ เพื่อซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภค จำนวน 200-300 บาทต่อคน
ทั้งนี้ กรมการค้าภายในจึงได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันมิให้ประชาชนถูกเอาเปรียบ พร้อมลงพื้นที่แจกสื่อประชาสัมพันธ์เรื่อง ‘5 กฎเหล็กข้อห้ามร้านธงฟ้า’ 1.ห้ามจำหน่ายบุหรี่/สุรา/เบียร์ให้แก่ผู้ถือบัตร 2.ห้ามยึดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 3.ห้ามรับ/แลกเป็นเงินสด 4.ห้ามเอาเปรียบฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาและขายเกินราคาที่กำหนดโดยเด็ดขาด 5.ห้ามบังคับการซื้อ/ขายสินค้า เพื่อเป็นข้อปฏิบัติที่ควรพึงระวัง หากร้านธงฟ้าทำผิดจะได้รับบทลงโทษทันที
อย่างไรก็ตาม ซึ่งในวันนี้โดยในวันนี้ (7 ต.ค.) ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านธงฟ้าคุณโจ้ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ เขตบางแคกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นร้านที่รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้วยเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) พบว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีประชาชนมาใช้บริการสูงขึ้นจากช่วงก่อน ซึ่งทางร้านมีการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน และปฏิบัติตามระเบียบเงื่อนไขของทางภาครัฐมาตลอด โดยที่ผ่านมาได้ติดตามตรวจสอบร้านธงฟ้าที่ถูกร้องเรียน มีการเพิกถอนสิทธิร้านธงฟ้าไปแล้ว รวมทั้งสิ้น 123 ราย ซึ่งผลการตรวจสอบพบการกระทำผิดส่วนใหญ่มีพฤติกรรมรับแลกวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นเงินสด จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ และไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้า
“หากพบว่าร้านค้าใดจำหน่ายสินค้าแพงเกินสมควร จะมีโทษตามมาตรา 29 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่าย มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และขอฝากถึงร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ อย่าได้มีพฤติกรรมเอาเปรียบผู้บริโภค หากถูกร้องเรียนและตรวจสอบพบว่ากระทำผิดจะถูกเพิกถอนสิทธิการเป็นร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และถูกตัดสิทธิการรับชำระเงินจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทั้งนี้หากประชาชนพบเห็นร้านค้ามีพฤติกรรมที่เอาเปรียบผู้บริโภค หรือทำผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขต่างๆสามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ “นายอาวุธกล่าว.-สำนักข่าวไทย