“มาดามแป้ง” พอใจช้างศึก เปิดหัวถล่ม บรูไน-อัดฉีด 5 ล้าน ทะลุรอบรองฯ ชิงแชมป์อาเซียน 

“มาดามแป้ง” พอใจเกมช้างศึกประเดิมสนาม ถล่ม บรูไน 5-0 ศึกชิงแชมป์อาเซียน 2022 มอบเงินอัดฉีด 5 ล้าน หากผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ 

“มาดามแป้ง” ชี้เกมแรกยากเสมอ แต่หวังทีมช้างศึกชนะ บรูไน ประเดิมชิงแชมป์อาเซียน 2022 

20 ธ.ค.65-“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย ยอมรับเกมแรกยากเสมอไม่ว่าเจอใคร ก่อนประเดิมพบกับ บรูไน ในศึกชิงแชมป์อาเซียน 2022 รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก ยืนยันไม่ประมาท แต่ตั้งเป้าคว้า 3 แต้มให้ได้เท่านั้น โดยทีมชาติไทย  คว้าแชมป์สมัยที่ 6 ณ ประเทศสิงคโปร์ มาครอง ก่อนเตรียมเริ่มต้นเส้นทางป้องกันแชมป์ ด้วยการพบกับบรูไน ที่ผ่านเข้ามาเล่นในรอบแบ่งกลุ่ม เป็นครั้งแรกในรอบ 26 ปี “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทัพช้างศึก กล่าวว่า แม้ บรูไน จะเป็นทีมที่มีอันดับโลกต่ำที่สุดในครั้งนี้ (อันดับ 190 ของโลก) แต่เราก็ประมาทไม่ได้ เพราะการลงเล่นเกมแรกไม่ว่าเจอใครเป็นอะไรที่ยากเสมอ และการที่บรูไน ห่างหายจากรอบนี้มาถึง 26 ปี แป้งเชื่อน่าจะมีความกระหาย และแรงจูงใจเป็นพิเศษ ดังนั้นต้องเตรียมทีมให้ดีที่สุด” “แป้ง พูดทุกครั้ง เราให้ความเคารพกับทุกทีม เช่นเดียวกับ บรูไน ซึ่งล่าสุดโค้ชมาโน (โพลกิ้ง) ก็ให้ทีมศึกษา และ ดูแนวทางการเล่นของ บรูไน เป็นที่เรียบร้อย ถือเป็นทีมที่น่าสนใจ พลังหนุ่ม และ มีทีมเวิร์ดที่ดี เพราะผู้เล่นมาจากสโมสรเดียวกันหลายคน อย่างไรก็ตามแม้ว่าไม่ง่าย แต่เราก็ตั้งเป้าเริ่มต้นด้วย 3 คะแนนแรกให้ได้เท่านั้น เชื่อว่าทุกคนจะทำให้ดีที่สุด และ แป้ง อยากฝากแฟนบอลที่ไทย เป็นกำลังใจ สนับสนุนเราด้วย”  สำหรับ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย จะเดินทางมาให้กำลังใจทัพช้างศึกด้วยตัวเอง ในวันแข่งขัน ที่เตรียมพบกับ บรูไน วันที่ 20 ธันวาคม 2565 เวลา 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ที่สนาม กัวลาลัมเปอร์ฟุตบอล สเตเดียม (ประเทศมาเลเซีย)-สำนักข่าวไทย.

“แพน”ร่วมมอบรองเท้ากีฬา ลูกฟุตบอลในโครงการปันน้ำใจให้น้องต้านภัยหนาว ที่จ.เชียงราย

19 ธ.ค.65-นายชยกฤต ปัญญาธนะธร ผู้จัดการแบรนด์แพน พร้อมด้วยนายธีรวิทย์ เชาวนศิลป์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด ได้ร่วมเดินทางไปกับ นิตยสารข่าวตำรวจ Cop Hero Thailand Magazine ในการทำกิจกรรมเพื่อสังคม  ภายใต้ “โครงการปันน้ำใจให้น้องต้านภัยหนาว ครั้งที่ 9/2565” ที่โรงเรียนบ้านผาฮี่ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย  โดยทาง แพน ได้ร่วมสนับสนุนกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นรองเท้านักเรียน รองเท้ากีฬาและลูกฟุตบอล เพื่อให้น้องๆได้มีอุกรณ์ในการเล่นกีฬาและการเดินทางมาโรงเรียน โดยน้องๆนักเรียนต้อนรับทีมงานทุกๆท่านอย่างอบอุ่นด้วยการแสดงโชว์ จำนวน 2 การแสดง 1. การแสดงแรกเต้นประกอบกระทุ้งไม้ไผ่…เป็นการแสดงประจำชนเผ่าอาข่า…ซึ่งจะแสดงปีละ 1 ครั้งในเทศการโล้ชิงช้าซึ่งจะจัดช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปี 2. การแสดงที่สองเต้นประกอบเพลงธิดาดอยเป็นการเต้นประยุกต์เต้นประกอบจังหวะของนักเรียนชนเผ่าอาข่าและลาหู่-สำนักข่าวไทย

ว่ายน้ำไทยกวาดเพิ่ม 17 ทอง ศึกว่ายน้ำ “sea age group 2022” วันที่ 2

ทัพว่ายน้ำไทยช่วยกันโกยเพิ่ม 17 เหรียญทอง พร้อมทำลายสถิติอีก 5 รายการ ในการแข่งขันว่ายน้ำ “sea age group swimming championships 2022” วันที่ 2 ที่มาเลเซีย

“กุลวุฒิ – พาณิภัค – ภูริพล”คว้ารางวัลนักกีฬาดีเด่น ในวันกีฬาแห่งชาติ 2565 

อินดอร์สเตเดียม 16 ธ.ค.65-นายอารัญ บุญชัย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในงานประกาศเกียรติคุณนักกีฬาดีเด่น เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2565 โดยมี ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และคณะผู้บริหาร, บุคลากร, ผู้ฝึกสอน และนักกีฬา ร่วมงาน ที่อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก การกีฬาแห่งประเทศไทย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า “การกีฬา” ในปี พ.ศ. 2565 ถือเป็นปีแห่งความท้าทายของวงการกีฬาไทย เนื่องจากนักกีฬาและบุคลากรทางการกีฬาทุกคนได้ทุ่มเท และร่วมกันขับเคลื่อนกีฬาของประเทศไทยให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่วางไว้ จนสามารถพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการกีฬาของอาเซียนและเอเชีย จากผลงานของนักกีฬาที่สร้างชื่อในมหกรรมกีฬาซีเกมส์, อาเซียนพาราเกมส์, เวิลด์เกมส์ และกีฬาชิงแชมป์โลกอีกหลายรายการ ซึ่งส่งผลให้การเติบโตของอุตสาหกรรมกีฬาไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินหน้าผลักดัน “การกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว หรือ Sports Tourism” ด้วยการเป็นเจ้าภาพในการจัด World Class Sports Event ในประเทศไทย รวมไปถึงการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในมหกรรมกีฬาสำคัญๆที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต “ สำหรับการจัดงานประกาศเกียรติคุณนักกีฬาดีเด่น เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2565 พิจารณาจากผลงานของแต่ละบุคคลและทีมกีฬาในรอบปีนั้นๆ รวมไปถึงการสร้างคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ การเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เยาวชน ความทุ่มเท มุ่งมั่น ขยันฝึกซ้อมและมีวินัย จึงขอชื่นชม พร้อมทั้งขอแสดงความยินดีต่อผู้ที่ได้รับรางวัลทุกคนในวันนี้ ทั้งในระดับสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย รวมไปถึงรางวัลในระดับประเทศด้วยความจริงใจ และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนร่วมกันเดินหน้านำกีฬาไทย ไปให้ไกล และไปให้ได้อย่างยั่งยืนตลอดไป ”  ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 เมษายน2529 ได้กำหนดให้วันที่ 16 ธันวาคมของทุกปีเป็น “วันกีฬาแห่งชาติ” เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงชนะเลิศการแข่งขันเรือใบประเภท โอ.เค. ในการแข่งขันกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ.2510 ในนามนักกีฬาทีมชาติไทย ซึ่งถือเป็นวันประวัติศาสตร์ทางการกีฬาของประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย ทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค จึงได้พร้อมใจกันจัดกิจกรรมใน “วันกีฬาแห่งชาติ” เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ที่มีต่อการกีฬาของประเทศชาติ อีกทั้งการจัดงานวันกีฬาแห่งชาติยังเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงสืบสานพระราชปณิธานด้านกีฬาของประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง “ การจัดงานประกาศเกียรติคุณนักกีฬาดีเด่น เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2565 ถือเป็นครั้งที่ 36 ในนามของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติ ขอบคุณ และให้กำลังใจ นักกีฬา บุคลากร และสมาคมกีฬาที่ได้สร้างผลงานอันทรงคุณค่า และสร้างชื่อเสียงจนเป็นที่ประจักษ์นำความภาคภูมิใจมาสู่ประเทศไทยตลอดทั้งปี 2565 และการจัดงานครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “การพัฒนากีฬาสู่ความยั่งยืน” (Sports Make Sustainability) ซึ่งการกีฬาแห่งประเทศไทยตระหนักและให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนกีฬาที่ต้องสร้างความสมดุลทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม ควบคู่ไปกับการเป็นส่วนหนึ่งในการดำรงไว้ซึ่งสิ่งแวดล้อมที่ดีตามกรอบนโยบายเศรษฐกิจใหม่ BCG Model ของรัฐบาล ”สำหรับงานประกาศเกียรติคุณนักกีฬาและบุคลากรทางการกีฬาดีเด่น เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2565 พิจารณาโดยคณะอนุกรรมการพิจารณาคัดเลือกผู้รับรางวัลด้านกีฬาดีเด่น วันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2565 โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้มีการทูลเกล้าขอพระราชทานถ้วยรางวัลจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อพระราชทานแก่นักกีฬาสมัครเล่น นักกีฬาเยาวชน นักกีฬาอาชีพ นักกีฬาคนพิการ นักกีฬามวยไทยอาชีพดีเด่นทั้งชายและหญิง รวม 12 ประเภท 39 รางวัล ดังนี้ 1) รางวัลทรงคุณค่าทางการกีฬา จำนวน 1 รางวัล ได้แก่ พลตรี โอสถ ภาวิไล ประธานสหพันธ์กีฬาคนพิการแห่งอาเซียน, เลขาธิการคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย และรองประธานคณะอนุกรรมาธิการกีฬาสู่ความเป็นเลิศระดับนานาชาติรวมทั้งกีฬาคนพิการ 2) รางวัลปูชนียบุคคลกีฬา จำนวน 1 รางวัล ได้แก่ นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี อดีตประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย 3) รางวัลนักบริหารกีฬาผู้ทรงคุณค่า จำนวน 1 รางวัล ได้แก่ นายอดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และประธานพัฒนาฟุตซอลและฟุตบอลชายหาดทีมชาติไทย 4) รางวัลบุคลากรทางการกีฬาดีเด่น จำนวน 4 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลผู้บริหารดีเด่น ได้แก่ นายสมพร  ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย, รางวัลนักวิชาการดีเด่น ได้แก่ นายเอกวิทย์  แสวงผล ผู้ควบคุมเวตเทรนนิ่งของกลุ่มนักกรีฑาทีมชาติไทย, รางวัลผู้จัดการทีมดีเด่น ได้แก่ นายธวัช กุมุทพงษ์พานิช ผู้จัดการทีมเซปักตะกร้อ และรางวัลผู้ตัดสินดีเด่น ได้แก่ รศ.ดร.ไพบูลย์ ศรีชัยสวัสดิ์ ผู้ตัดสินมวยสากล 5) รางวัลผู้ฝึกสอนกีฬาดีเด่น จำนวน 5 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลผู้ฝึกสอนนักกีฬาสมัครเล่นดีเด่น ได้แก่ นายดนัย  ศรีวัชรเมธากุล ผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลในร่มทีมชาติไทย, รางวัลผู้ฝึกสอนนักกีฬาต่างประเทศดีเด่น ได้แก่ Mr. Heekang Park ผู้ฝึกสอนเทควันเทควันโดทีมชาติไทย, รางวัลผู้ฝึกสอนนักกีฬาอาชีพดีเด่น ได้แก่ นายบรรพต บุญไพศาลเสรี ผู้ฝึกสอนกอล์ฟ, รางวัลผู้ฝึกสอนนักกีฬาส่วนภูมิภาคดีเด่น ได้แก่ จ่าเอก สุวัฒน์ จันดำ ผู้ฝึกยกน้ำหนักสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดศรีสะเกษ และรางวัลผู้ฝึกสอนนักกีฬาคนพิการดีเด่น ได้แก่ นายวิสุทธิพงศ์ พันธ์ธง ผู้ฝึกสอนว่ายน้ำพิการทางปัญญา 6) รางวัลประเภทชนิดทีมกีฬาดีเด่น (EVENTS) และรางวัลชนิดกีฬาทีมดีเด่น (SPORTS) จำนวน 4 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลประเภทกีฬาทีมคนพิการดีเด่น (EVENTS) ได้แก่ บอคเซีย ทีม BC1-2, รางวัลชนิดกีฬาทีมคนพิการดีเด่น(SPORTS) ได้แก่ ฟุตบอลคนตาบอดทีมชาติไทย, รางวัลประเภทกีฬาทีมดีเด่น (EVENTS) ได้แก่ นายเดชาพล พัววรานุเคราะห์ และนางสาวทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย นักกีฬาแบดมินตันประเภทคู่ผสม และรางวัลชนิดกีฬาทีมดีเด่น(SPORTS) ได้แก่ วอลเลย์บอลทีมหญิงทีมชาติไทย 7) รางวัลสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยดีเด่น จำนวน 3 รางวัล ประกอบด้วย สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยดีเด่น ได้แก่สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยดีเด่น ได้แก่ สมาคมกีฬาคนพิการทางสมองแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดดีเด่น ได้แก่ สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดศรีสะเกษ 8) รางวัลนักกีฬาคนพิการดีเด่น จำนวน 4 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลนักกีฬาคนพิการชายดีเด่น ได้แก่ นายพงศกร  แปยอ นักกรีฑาวีลแชร์เรสซิ่ง, รางวัลนักกีฬาคนพิการชายรองดีเด่น ได้แก่ นายณัฐพล แก้วมณี นักกรีฑาพิการทางปัญญา, รางวัลนักกีฬาคนพิการหญิงดีเด่น ได้แก่ นางสาวณัฐรินีย์ ขจรเมธา นักว่ายน้ำพิการทางปัญญา และรางวัลนักกีฬาคนพิการหญิงรองดีเด่น ได้แก่ นางสาวอรวรรณ  ฉิมแป้น นักกรีฑาพิการทางสมอง 9) รางวัลนักกีฬามวยไทยอาชีพดีเด่น จำนวน 2 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลนักกีฬามวยไทยอาชีพชายดีเด่น ได้แก่นายรณชัย  แสวงทรัพย์ หรือฉายา รณชัย แป๊ะมีนบุรี (ต.รามอินทรา) และรางวัลนักกีฬามวยไทยอาชีพหญิงดีเด่นได้แก่ นางสาวรุ่งนภา  อ้นวิเชียร หรือฉายา รุ่งนภา พ.เมืองเพชร 10) รางวัลนักกีฬาอาชีพดีเด่น จำนวน 2 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลนักกีฬาอาชีพชายดีเด่น ได้แก่ นายสมเกียรติ  จันทรา นักแข่งรถจักรยานยนต์ รุ่นโมโตทู ซึ่งปี 2022 ลงแข่งขัน 18 สนาม เก็บได้  128 คะแนน คว้าอันดับ 10 ของโลก พร้อมสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแข่งไทยคนแรกที่คว้าแชมป์การแข่งรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกได้ ที่อินโดนีเซีย  รางวัลนักกีฬาอาชีพหญิงดีเด่น ได้แก่ นางสาวอาฒยา  ฐิติกุล นักกอล์ฟหญิง ซึ่งคว้า 2 แชมป์ในการเล่นแอลพีจีเอทัวร์ฤดูกาลแรก โดยทำได้ในศึกเจทีบีซี คลาสสิค และ ศึกวอลมาร์ท เอ็นดับเบิลยู อาร์คันซอ แชมเปี้ยนชิพ โดยตลอดปียังรักษาผลงานการเล่นได้อย่างสม่ำเสมอ โดยติด 10 อันดับแรก ถึง 16 รายการ จากทั้งหมด 26 รายการที่ลงเล่นในแอลพีจีเอ ทัวร์ พร้อมก้าวขึ้นมารั้งมือ 1 ของโลก ด้วยวัยเพียง 19 ปี 8 เดือน 11 วัน พร้อมกับคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี 2022 11) รางวัลนักกีฬาเยาวชนสมัครเล่นดีเด่น จำนวน 6 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลนักกีฬาเยาวชนสมัครเล่นชายดีเด่นได้แก่ นายภูริพล  บุญสอน นักกรีฑา, รางวัลนักกีฬาเยาวชนสมัครเล่นชายรองดีเด่น ได้แก่ นายวีรพล  วิชุมา นักยกน้ำหนัก และหม่อมหลวงเวฆา  ภาณุพันธ์ นักกีฬาเรือใบ, รางวัลนักกีฬาเยาวชนสมัครเล่นหญิงดีเด่น ได้แก่ นางสาวพิชฌามลณ์  โอภาสนิพัทธ์ นักแบดมินตันหญิงเดี่ยว, รางวัลนักกีฬาเยาวชนสมัครเล่นหญิงรองดีเด่น ได้แก่ นางสาวณัฐกมล  วาสนา นักเทควันโด และเด็กหญิงปัณชญา จันทร์น้อย นักสนุกเกอร์ 12) รางวัลนักกีฬาสมัครเล่นดีเด่น จำนวน 6 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลนักกีฬาสมัครเล่นชายดีเด่น ได้แก่ นายกุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักกีฬาแบดมินตัน, รางวัลนักกีฬาสมัครเล่นชายรองดีเด่น ได้แก่ นายจอชชัว โรเบิร์ต แอทคินสัน นักกรีฑา และนายณัฐวุฒิ สืบสวน นักยกน้ำหนัก, รางวัลนักกีฬาสมัครเล่นหญิงดีเด่น ได้แก่ เรืออากาศตรีหญิง พาณิภัควงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโด, รางวัลนักกีฬาสมัครเล่นหญิงรองดีเด่น ได้แก่ นางสาวรัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตัน และสิบเอกหญิง อรวรรณ พาระนัง นักเทเบิลเทนนิส นอกจากนี้ในการประกาศเกียรติคุณนักกีฬาดีเด่น เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2565 ยังมีการมอบรางวัลนักกีฬาดีเด่นของสมาคมกีฬา ประจำปี พ.ศ. 2565 จำนวน 232 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลนักกีฬาดีเด่นของสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด จำนวน 121 รางวัล และรางวัลนักกีฬาดีเด่นของสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย จำนวน 111 รางวัล โดยทุกรางวัลถือเป็นขวัญและกำลังใจให้นักกีฬาทุกคนที่เสียสละ มุ่งมั่น ทุ่มเททั้งแรงกายและใจในการทำหน้าที่เพื่อชาติและสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในรอบปีที่ผ่านมา ซึ่งหวังว่ารางวัลในครั้งนี้จะเป็นเครื่องกระตุ้นและเตือนให้ทุกคนนั้นรักษาผลงานพร้อมกับพัฒนาตัวเองต่อไป-สำนักข่าวไทย

กทม. ตอบรับ ททท. ร่วมจัดวิ่งผ่าเมือง หวังเป็นเจ้าภาพสนามชิงแชมป์โลก ปี 68

ศาลาว่าการกรุงเทพฯ 16 ธ.ค.65- นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ต้อนรับ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยนายสุชาติ แจสุรภาพ ผู้แทนสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ นายกอบเกียรติ แสงวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไทยแลนด์ไตรลีก และคณะทำงาน เพื่อร่วมหารือถึง ความร่วมมือในการจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนที่จัดขึ้นในเมืองหลวง และได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลกจากสมาคมกรีฑาโลกเพื่อหนึ่งเดียว รายการ “วิ่งผ่าเมือง” Amazing Thailand Marathon Bangkok  ที่ห้องประชุมอัมรินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร  โดยที่ประชุมครั้งนี้ที่ประชุมได้หารือถึงกรอบการทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ของรายการดังกล่าว โดยมีระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ.2566-2570) ระหว่าง 4 องค์กรหลัก คือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, กรุงเทพมหานคร, สมาคมกีฬากรีฑาฯ และบริษัท ไตรลีก (ประเทศไทย) จำกัด หลังการประชุม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า การแข่งขันวิ่งมาราธอน รายการ “วิ่งผ่าเมือง” Amazing Thailand Marathon Bangkok ถือเป็นรายการสำคัญของกรุงเทพมหานคร เราได้หารือกันว่าจะทำอย่างไรให้การแข่งขันรายการนี้มีความยิ่งใหญ่มากกว่าเดิม มีความเป็นสากล อย่างรายการเมเจอร์โลก ที่จัดขึ้นใจเมืองหลวง อาทิ โตเกียวมาราธอน ลอนดอนมาราธอน หรือ เบอร์ลินมาราธอน ซึ่งในแต่ละปีจะมีผู้เดินทางมาร่วมแข่งขันจากทั่วโลกเป็นจำนวนมาก ตนเห็นว่า จะเป็นประโยชน์มหาศาลต่อกรุงเทพมหานคร ในแง่ของการสร้างรายได้ในทุกมิติ และยังเป็นการสร้างชื่อเสียงให้แก่กรุงเทพมหานครได้เป็นอย่างดี ส่วนอีกมิติหนึ่งในด้านการท่องเที่ยว ทางผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ให้ข้อมูลว่า มีความมุ่งมั่นที่จะดึงนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพเข้าประเทศได้เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ททท. มีสำนักงานอยู่ในหัวเมืองสำคัญต่างๆ ทั่วโลก การทำประชาสัมพันธ์เพื่อชวนให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาร่วมแข่งขันจึงเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ ตนเห็นว่า เรายังสามารถต่อยอดให้ผู้แข่งขันเดินทางไปท่องเที่ยวในทุกภูมิภาคทั่วประเทศไทยได้อีก  ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้แบบคูณสองคือ อยู่กรุงเทพมหานครในช่วงแข่งขัน และเดินทางไปพักผ่อนต่อในช่วงหลังแข่งขันอีก 1 สัปดาห์ ซึ่งหากทั้ง กทม. และททท. ทำงานแบบบูรณการอย่างมีประสิทธิภาพ ตนก็มั่นใจว่าเราจะสามารถจัดมาราธอนระดับโลกได้ และจะสร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศได้ไม่น้อยกว่าพันล้านอย่างแน่นอน  “ในส่วนของกรุงเทพมหานครนั้น การที่มีกีฬาวิ่งระดับโลกเข้ามาจัดอย่างต่อเนื่อง ย่อมเป็นการสร้างความตื่นตัวให้กับพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ได้อีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งจะส่งผลต่อเรื่องของการสร้างสุขภาพ การสร้างระเบียบวินัย การสร้างจิตสำนึกในการ ดูแลสังคม ดูแลเมือง ไปด้วยกัน ผมมองว่าเป็นมิติที่ลึก แต่ก็มีผลบวกมากมายมหาศาลจากการออกกำลังกาย ผมเองได้สัมผัสการแข่งขันวิ่ง และสัมผัสกับผู้จัดมาราธอนมาหลายรายการ เห็นว่า รายการนี้คือรายการเมเจอร์หลักของกรุงเทพมหานคร ดังนั้น จะร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานนี้ โดยจะตั้งคณะทำงานอย่างจริงจัง เพื่อหารือในเชิงลึก และร่วมกันพิจารณาถึงรายละเอียดต่างๆ อาทิ การปรับเส้นทางหรือเวลาแข่งขันที่เหมาะสมยิ่งขึ้น หรือการมีส่วนร่วมของชุมชน การจัดหาอาสาสมัคร และอื่นๆ อีกมากมาย โดยตนจะไปเชิญผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้มาเป็นเจ้าภาพร่วมด้วยตัวเอง” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว ด้านนายสุชาติ แจสุรภาพ อดีตลมกรดทีมชาติไทยชื่อดัง ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้บริหารสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปุมภ์ มาร่วมประชุมในฐานะผู้แทนสมาคมกรีฑาโลก หรือ World Athletics เปิดเผยว่า “จากความสำเร็จของสมาคมกีฬากรีฑาฯ ที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน วิ่งเทรลภูเขาชิงแชมป์โลก ที่เชียงใหม่ และการจัดประชุมกรีฑาโลก เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้สมาคมกรีฑาโลกส่งสัญญาณมาถึงตนว่า ประเทศไทยมีศักยภาพในการจัดงานระดับโลก และมีความพร้อมเป็นอย่างมาก ดังนั้น อยากให้สมาคมฯ หารือกับ ททท. กรุงเทพมหานคร และผู้จัดไทยแลนด์ไตรลีก เพื่อเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมาราธอนชิงแชมป์โลก ในปี 2025-2026 หรือ อีก 3 ปีข้างหน้านี้ ซึ่งกรุงเทพมหานครมีโอกาสสูงที่จะได้รับสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ ในที่ประชุมทุกฝ่ายเห็นด้วยที่จะเสนอตัวการจัดมาราธอนชิงแชมป์โลก ซึ่งตนจะแจ้งให้สมาคมกรีฑาโลกทราบในลำดับต่อไป” อนึ่ง การแข่งขันมาราธอนส่งเสริมการท่องเที่ยว รายการ Amazing Thailand Marathon Bangkok กำหนดจัดขึ้นในทุกๆ ปี โดยปรับวันแข่งขันใหม่ จากเดิมจะจัดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ แต่ประสบปัญหาด้านฝุ่น PM2.5 ในทุกๆ ปี จึงได้พิจารณาเปลี่ยน มาจัดในสัปดาห์แรกเดือนธันวาคม ซึ่งครั้งหน้ากำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 3 ธค 66 โดยคณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ ต้องเป้าหมายว่า จะมีผู้เข้าร่วมแข่งขันไม่น้อยกว่า 28,000 คน เป็นนักวิ่งชาวไทย 23,000 คน และชาวต่างชาติ 5,000 คน ก่อให้เกิดรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว ทั้งทางตรงและทางอ้อม ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท และมีการจ้างงานในช่วงแข่งขัน ไม่น้อยกว่า 6,000 อัตรา ศึกษารายละเอียดของงานได้ทาง-สำนักข่าวไทย

“ธงชัย-ประหยัด-กิรเดช” ร่วม กอล์ฟการกุศลมูลนิธิจำนงค์ฯ หารายได้ช่วยเหลือการศึกษา

14 ธ.ค.65 ร.ท.ณัยณพ ภิรมย์ภักดี ในฐานะรักษาการ ประธานกรรมการมูลนิธิ จำนงค์ ภิรมย์ภักดี และ จีรานุช ภิรมย์ภักดี, เพิ่มพูน ไกรฤกษ, สุนิษฐ์ สก๊อต เป็นประธานในการแข่งขันกอล์ฟการกุศล “ซีบีเอฟ กอล์ฟ ชาริตี้ 2022” โดยมูลนิธิ จำนงค์ ภิรมย์ภักดี โดยได้รับเกียรติจาก นายภูริต ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด และ นายรังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ นายกสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ ร่วมงาน ทั้งนี้ได้มี 10 โปรกอล์ฟชั้นนำของประเทศไทย มาร่วมออกรอบรับแขกผู้มีเกียรติในครั้งนี้ ได้แก่ ธงชัย ใจดี, ประหยัด มากแสง, กิรเดช อภิบาลรัตน์, พรหม มีสวัสดิ์, ภาณุพล พิทยารัฐ, สดมภ์ แก้วกาญจนา, พรอนงค์ เพชรล้ำ, นิมมิตา จันต๊ะนาเขตร์, ภัทราพร ศรีภัทรประสิทธิ์, พริมา ธรรมารักษ์ ด้านผลการแข่งขัน คิดแต้มต่อแบบ 36 ซิสเทม คิดสกอร์แบบสเตเบิลฟอร์ด ชนะเลิศโอเวอร์ออล โลว์กรอส สรรพ์ฐสุจริตจันทร์ 39-36-75, ไฟล์ทเอ (แต้มต่อ 0-12) ที่ 1 ภูรินทร์ นฤหล้า, ที่ 2 ภูริต ภิรมย์ภักดี, ที่ 3 เพชร สุวรรณเวช, ไฟล์ทบี (แต้มต่อ 13-18) ที่ 1 พวงเพ็ญ หงษ์สิทธิวงศ์, ที่ 2 กฤษณะ ศิริเสาวลักษณ์, ที่ 3 ปริญญ์ จารุวร, ไฟล์ทซี (แต้มต่อ 19-24) ที่ 1 พนิช สบายเมือง, ที่ 2 ยงยศ กาญจนาโรจน์พันธ์, ที่ 3 อุดมชัย พันธ์รัตนมงคล รางวัลชนะเลิศประเภททีม ที่ 1 บริษัท เจ้าคุณเกษตรพืชผล จำกัด, ที่ 2 ทีม 88, ที่ 3 ธนาคารไทยพาณิชย์ สำหรับการจัดการแข่งขันกอล์ฟการกุศลในครั้งนี้ เพื่อนำเงินรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายสมทบทุนกิจกรรมเพื่อสาธารณกุศล ทั้งนี้ มูลนิธิจำนงค์ ภิรมย์ภักดี เป็นมูลนิธิที่ก่อตั้งเมื่อปี 2559 ภายใต้แนวคิดที่อยากเห็นทุกคนในสังคมมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดี ด้วยความเชื่อที่ว่าคนทุกคนมีสิทธิ์ที่จะสร้างสรรค์ชีวิตในแบบที่ตัวเอง มีชีวิตที่ดีทีคุณภาพได้อย่างเท่าเทียมกัน โดยได้สนับสนุนกิจกรรมสาธารณกุศลต่างๆหลายด้าน ทั้งด้านสาธารณสุข ทั้งการบริจาคเงินเพื่อสร้างและพัฒนาสถานพยาบาล สนับสนุนเงินทุนในการพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ ส่วนด้านการศึกษา เน้นส่งเสริมให้บุคคลได้เข้าถึงโอกาส พัฒนาชีวิตและครอบครัว รวมถึงสนับสนุนผู้พิการให้อยู่ในสังคมได้อย่างเท่าเทียม-สำนักข่าวไทย

“ต๊อด” ขึ้นโพเดี้ยมส่งท้ายไทยแลนด์ ซูเปอร์ซีรีส์ 2022 พร้อมตั้งเป้าทำผลงานดีขึ้นในปีหน้า

บุรีรัมย์ 11 ธ.ค.65-รถยนต์ทางเรียบระดับนานาชาติ ไทยแลนด์ ซูเปอร์ซีรีส์ สองเรซสุดท้ายของฤดูกาล ในสนามที่เจ็ดและสนามที่แปด  ที่ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์  รุ่นไทยแลนด์ ซูเปอร์คาร์ จีที 3 แข่งขันกัน 60 นาทีกับอีก 1 รอบ ด้วยรถในพิกัด เอฟไอเอ จีที3 จากโรงงานผู้ผลิตเต็มรูปแบบ “ต๊อด” ปิติ ภิรมย์ภักดี นักขับชาวไทยและ รีด ฮาร์เกอร์ เพื่อนร่วมทีมจากนิวซีแลนด์ จากทีมโตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีม ไทยแลนด์ หมายเลข 12 ควบรถเลกซัสอาร์ซีเอฟ จีที 3 เข้าเส้นชัยอันดับสามโอเวอร์ออลด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 2 นาที 35.680 วินาที และเป็นอันดับสองของรุ่นโปรแอมอีกด้วย  ส่วนอันดับหนึ่งของการแข่งขันในเรซปิดฤดูกาลเป็นออดี้ อาร์ 8 หมายเลข 27 ซึ่งขับโดย แดเนียล บิลส์กี้ และ ฟิลลิปจอห์นนี่ มาซูด สองนักขับออสเตรเลียนของทีมบี-ควิก แอบโซลูท เรซซิง เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 2 นาที 09.767 วินาที ทิ้งอันดับสอง มาร์คัส วินเคลฮ็อก นักขับเยอรมนี และ วินเซนต์ ฟลอยเรนโด จากฟิลิปปินส์ ในรถออดี้ อาร์ 8 หมายเลข 55 จากทีมเดียวกัน 25.168 วินาที หลังจบการแข่งขัน ปิติ ภิรมย์ภักดี ซึ่งเข้ามาขับให้โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีม ไทยแลนด์ เป็นฤดูกาลแรก กล่าวว่า “วันนี้เราเริ่มต้นด้วยยางเก่าทั้งสองคน เพราะว่าเป็นยางที่ใช้ในรอบควอลิฟาย พอช่วงหลังๆก็จะดร็อปเยอะหน่อย แต่ก็ยังสามารถรักษาในเรื่องของเวลาให้มีความสม่ำเสมอได้ดี ก็ถือว่าน่าจะลงตัวกับรถแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเซ็ตอัพหรือการปรับตัวกับรถคันนี้ ปีหน้าคงจะอยู่กับโตโยต้าต่อครับ เดี๋ยวจะทำผลงานรถคันนี้ให้ดีกว่านี้ ก็ขอขอบคุณที่ตามเชียร์ ทีพี12 และผม รวมไปถึงทีมโตโยต้า กาซู ฝากติดตามในปีต่อๆไปด้วยครับ”-สำนักข่าวไทย

“อันนา-มูนา” ตบคู่เกาหลี ขาด ทะลุตัดเชือกแบดขนไก่เวิลด์ทัวร์ไฟนอลส์

กรุงเทพฯ 9 ธ.ค.- “อันนา-มูนา” สองพี่น้องหญิงคู่ไทย ตบชนะคู่เกาหลีใต้ ขาดลอย 2-0 เซต 21-15, 21-8 ทะลุรอบตัดเชือกแบดมินตันเวิลด์ทัวร์ไฟนอลส์ 2022 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ การแข่งขันแบดมินตันทัวร์นาเมนต์ใหญ่ รายการ “เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ล ยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2022” ซึ่งมีเงินรางวัลสูงที่สุด 1,500,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 54,000,000 บาท ที่ อาคารกีฬานิมิบุตรสนามกีฬาแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร เป็นการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่ม แมตช์ที่สาม ประเภทหญิงคู่ กลุ่มเอ “อันนา” นันทน์กาญจน์  กับ “มูนา” เบญญาภา เอี่ยมสอาด คู่มือวาง 3 ของรายการ คู่มืออันดับ 13 ของโลก ลงสนามพบกับ จอง นาอึน กับ คิม ฮเยจอง คู่มือวาง 1 ของรายการ คู่อันดับ 5 ของโลกจากเกาหลีใต้  สำหรับสถิติในการพบกันของทั้งคู่ก่อนหน้านี้เคยพบกันมาทั้งหมด 5 ครั้ง เป็นทาง จอง นาอึน กับ คิม ฮเยจอง ที่ทำผลงานได้เหนือกว่าเป็นฝ่ายเก็บชัยชนะไปได้ 3 ครั้ง ล่าสุดในรอบรองฯ ศึกออสเตรเลียน โอเพ่น 2022  นันทน์กาญจน์ กับ เบญญาภา เอาชนะมาได้ 2-0 เกม  แมตช์นี้ คู่พี่น้องอันนา กับ มูนา โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมเอาชนะไปได้แบบสนุก 2-0 เกม 21-15, 21-8 ใช้เวลาแข่งขัน 34 นาที  “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธารากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ คู่มืออันดับ 6 ของโลก ลงสนามพบกับ วิเวียน โฮ กับ ลิม ชิวเซียง คู่มืออันดับ 24 ของโลกจากมาเลเซีย สำหรับสถิติในการพบกันของทั้งคู่ก่อนหน้านี้เคยพบกันมาทั้งหมด 2 ครั้งเป็นทาง จงกลพรรณ กับ รวินดา ที่ทำผลงานได้เหนือกว่ามากเป็นฝ่ายเก็บชัยชนะไปได้ทั้งหมด ล่าสุดในศึกชิงแชมป์เอเชีย 2022  จงกลพรรณ กับ รวินดา เอาชนะมาได้ 2-0 เกม  แมตช์นี้ คู่กิ๊ฟ กับ วิว สามารถเล่นได้ตามฟอร์มของตัวเองเอาชนะไปได้ 2 เกมรวด 21-10,21-17  ใช้เวลาแข่งขัน 37 นาที โดยกลุ่มนี้ “อันนา” นันทน์กาญจน์ กับ “มูนา” เบญญาภา เอี่ยมสอาด ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศโดยเป็นแชมป์ของกลุ่มนี้ ด้วยเฮดทูเฮดที่ดีกว่า ด้วยสถิติชนะ 2 แพ้ 1 เท่ากัน ส่วน “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธารากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ จบในอันดับที่ 3 ของกลุ่มนี้ เพราะเฮดทูเฮดเป็นรองคู่ของ จอง นาอึน กับ คิม ฮเยจอง จากเกาหลีใต้ ด้านคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก , กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล(IOC) และ นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้กล่าว่า เป็นการพัฒนาฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของคู่สองพี่น้อง อันนา กับ มูนา หลังจากที่ทั้งคู่ได้ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมาตลอดปีนี้ด้วยการคว้าไปถึง 3 แชมป์ สามารถทำอันดับโลกขึ้นมาติด 20 อันดับแรกของโลก และเป็นการเข้ารอบรองชนะเลิศเป็นครั้งแรกในศึกเวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ของทั้งคู่ซึ่งเป็นสิ่งที่เซอร์ไพรส์มาก จนเป็นความหวังหนึ่งคือเดียว ในประเภทหญิงคู่ในรายการนี้  ดาวรุ่งของไทยก็มีความหวังที่จะสร้างผลงานของตนเองเพราะจะเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ประมือกับมือระดับ1-8 ของโลก ในรายการนี้ เชื่อมั่น ว่าจะสร้างประโยชน์มหาศาล และทำให้เราสามารถสร้างความหวังใหม่ ให้กับแบดมินตันไทยเพิ่มมากขึ้นอีก 1 คู่ นอกจากนี้จะเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับทั้งคู่ เพื่อพัฒนาการเล่นต่อไปในปีหน้า สำหรับผลการแข่งขันคู่อื่นๆในรอบแบ่งกลุ่มแมตช์ที่สาม มีดังนี้ ประเภทหญิงเดี่ยว กลุ่มเอ :  เฉิน ยู่เฟย มือวาง 1 ของรายการ มืออันดับ 4 ของโลกจากจีน ชนะ อัน เซยอง มือวาง 4 ของรายการ มืออันดับ 2 ของโลกจากเกาหลีใต้ 21-16,21-12 ,  อากาเนะ ยามากูชิ มืออันดับ 1 ของโลกจากญี่ปุ่น ชนะ  เกรกลอเรีย มาริสก้า ทุนจุง มืออันดับ 18 ของโลกจากอินโดนีเซีย 21-15,13-21,21-18 ,  ประเภทหญิงคู่ กลุ่มบี :  เฉิน ยิงเฉิน กับ เจีย ยี่ฟาน คู่มือวาง 4 ของรายการ คู่มืออันดับ 1 ของโลกจากจีน ชนะ  อาภิรานี่ ราฮายู กับ ซีติ ฟาเดีย ซิลวา รามาดานติ คู่มืออันดับ 14 ของโลกจากอินโดนีเซีย 21-16,21-16 , จาง ซู่เสียน กับเจิ้ง หยู  คู่มือวาง 2 ของรายการ คู่มืออันดับ 7 ของโลกจากจีน ชนะ เพอรี่ ตัน กับ ทีน่า มูลาริทาราน คู่มืออันดับ 9 ของโลกจากมาเลเซีย 21-19, 20-22,21-9  ประเภทชายเดี่ยว  กลุ่มบี : โจนาธาน คริสตี้  มือวาง 4 ของรายการ มืออันดับ 5 ของโลกจากอินโดนีเซีย ชนะ  โจวเทียนเฉิน  มือวาง 2 ของรายการ มืออันดับ 4 ของโลกจากไต้หวัน 21-13,12-21,21-17 ,  แอนโทนี่ ซูนิซูกะ กินติ้ง มืออันดับ 7 ของโลกจากอินโดนีเซีย ชนะ โลว เคียงยิว มืออันดับ 3 ของโลกจากสิงคโปร์ 21-12,23-21   ประเภทชายคู่ กลุ่มเอ : ฟาจาร์ อัลเฟียน กับ มูฮัมหมัด ไรอัน อาเดรียนโต คู่มือวาง 1 ของรายการ คู่มืออันดับ 3 ของโลกจากอินโดนีเซีย ชนะ ออง ยิวซิน กับ เตียว อียี่ คู่มือวาง 3 ของรายการ คู่มืออันดับ 8 ของโลกจากมาเลเซีย  21-10,17-21,19-21-สำนักข่าวไทย

“เมย์” ควง “กิ๊ฟ-วิว” และ “บาส-ปอป้อ” ซิวชัยประเดิมแบดเวิลด์ทัวร์ไฟนอลส์

กรุงเทพฯ 7 ธ.ค. – “เมย์” ควง “กิ๊ฟ-วิว” และ “บาส-ปอป้อ” ซิวชัยประเดิมแบดเวิลด์ทัวร์ไฟนอลส์ ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ แบดมินตันทัวร์นาเมนต์ใหญ่ รายการ “เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2022” ซึ่งมีเงินรางวัลสูงที่สุด 1,500,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 54,000,000 บาท ที่อาคารกีฬานิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร เป็นการประเดิมแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่มแมตช์แรก โดยในรอบแบ่งกลุ่มแมตช์แรกทางฝ่ายจัดการแข่งขันได้วางโปรแกมให้นักกีฬาจากชาติเดียวกันที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันลงสนามแข่งขันกันเองในแมตช์แรกของทุกกลุ่ม ประเภทหญิงเดี่ยว กลุ่มบี  “เมย์” รัชนก อินทนนท์ มืออันดับ 7 ของโลก พบกับ “ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ มืออันดับ 10 ของโลกสำหรับสถิติในการพบกันของทั้งคู่ก่อนหน้านี้เคยพบกันมาทั้งหมด 11 ครั้ง เป็นทาง รัชนก ที่ทำผลงานได้เหนือกว่ามากเป็นฝ่ายเก็บชัยชนะไปได้ทั้งหมด ล่าสุดในศึก เจแปน โอเพ่น 2022 เป็นเมย์ รัชนก เอาชนะมาได้ 2-0 เกม   แมตช์นี้ เมย์ รัชนก เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 2-0 เกม 21-15 และ 21-13  ใช้เวลาแข่งขัน 40 นาที  “เมย์” รัชนก อินทนนท์ ประเดิมเก็บชัยชนะในแมตช์แรกในศึกเวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ ได้สำเร็จ เมย์ รัชนก ให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า พอใจในฟอร์มในการเล่นในวันนี้ที่สามารถควบคุมลมในสนามได้ดีทั้งฝั่งตามลมและ ต้านลม พยายามสปีดเกมให้ไวในฝั่งที่ตามลมถือว่าวันนี้ตัวเองเล่นตามที่วางแผนกันไว้ เมย์ ได้พูดถึง น้องครีม บุศนันทน์ ที่วันนี้น้องสามารถเล่นแฮนด์เวิร์กได้ค่อนข้างดี แต่เมย์ยังเป็นต่อในเรื่องฟุตเวิร์กที่ดีกว่า เล่นให้น้องนั้นเคลื่อนตัวมากขึ้นและหาจังหวะเข้าทำได้อย่างแม่นยำกว่า  เมย์ ได้พูดถึงแมตช์ต่อไปที่จะพบกับ เหอ บิงเจียว จากจีน ซึ่งก็ยอมรับว่า เป็นคนที่เล่นได้เขี้ยวมากๆ และอยู่ในฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมในช่วงที่ผ่านมา จากการที่เอาชนะ ไถ้ ซื้อหยิง จากไต้หวันมาได้ 2 เกมรวด โดยแต่ละแต้มถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก ซึ่งจะต้องเก็บชัยชนะให้ได้ในวันพรุ่งนี้ เจ้าตัวได้กล่าวปิดท้ายว่า วันนี้แฟนๆ เข้ามาชมในสนามเยอะผิดปกติทั้งที่เป็นวันธรรมดา ถือว่าเป็นการตอบรับที่ดีมาก ที่ไทยได้เป็นเจ้าภาพในการแข่งขันรายการนี้ ทำให้แฟนๆแบดมินตันไทยเข้ามาชมเกมกันตั้งแต่แมตช์แรก ประเภทหญิงคู่ กลุ่มเอ “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธารากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ คู่มืออันดับ 6 ของโลก  ลงสนามพบกับ “อันนา” นันทกาญจน์ และ “มูนา” เบญญาภา เอี่ยมสอาด  คู่มือวาง 3 ของรายการ คู่มืออันดับ 13 ของโลกสำหรับสถิติในการพบกันของทั้งคู่ก่อนหน้านี้เคยพบกันมาทั้งหมด 5 ครั้ง เป็นทาง จงกลพรรณ กับ รวินดา ที่ทำผลงานได้เหนือกว่าเป็นฝ่ายเก็บชัยชนะไปได้ 4 ครั้ง  แต่ล่าสุดในรอบชิงฯศึก ไฮโล โอเพ่น 2022 ที่ประเทศเยอรมัน  นันทกาญจน์ กับ เบญญาภา เฉือนเอาชนะมาได้ 2-1 เกม  แมตช์นี้ เป็นคู่กิ๊ฟ กับ วิว ที่อาศัยประสบการณ์ที่ดีกว่า เฉือนชนะไปได้แบบสนุก 2-1 เกม 21-19 , 10-21 และ 21-12 ใช้เวลาแข่งขัน 51 นาที   “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธารากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ กล่าวว่า ทั้งคู่ออกแรงถึง 3 เกม ทำคนดูหวาดเสียวอยู่ไม่น้อย แต่สามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้จนคว้าชัยชนะไปได้สำเร็จ ถึงรูปเกมออกมาจะต่ำกว่ามาตรฐานนิดๆและยังไม่ค่อยต่อเนื่องเท่าที่ควร กิ๊ฟ-วิว ยังชื่นชมคู่พี่น้องอันนา-มูนา ว่า วันนี้น้องเล่นได้ดีเลยสามารถกดดันเราได้มากทำให้เกมออกมาสนุกมากทำเอาเหนื่อยมากกว่าจะได้ชัยชนะในแมตช์นี้ ส่วนแมตช์ต่อไปที่จะต้องพบกับ จอง นาอึน กับ คิม ฮเยจอง คู่อันดับ 5 ของโลกจากเกาหลีใต้ ทั้งคู่บอกว่า จะไปศึกษากับทีมโค้ชว่าจะต้องเล่นแบบไหน แก้ตรงไหนบ้างเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาให้ดีที่สุด  สำหรับผลการแข่งขันคู่อื่นๆในรอบแบ่งกลุ่มแมตช์แรกมีดังนี้ ประเภทหญิงเดี่ยว กลุ่มเอ : อากาเนะ ยามากูชิ มืออันดับ 1 ของโลกจากญี่ปุ่น ชนะ อัน เซยอง มือวาง 4 ของรายการ มืออันดับ 2 ของโลกจากเกาหลีใต้  2-0 เกม 21-18 , 21-16  ประเภทชายเดี่ยว กลุ่มบี :  โลว เคียงยิว มืออันดับ 3 ของโลกจากสิงคโปร์ ชนะ โจว เทียนเฉิน  มือวาง 2 ของรายการมืออันดับ 4 ของโลกจากไต้หวัน 2-0 เกม 21-15 , 21-17  แอนโทนี่ ซูนิซุกะ กินติ้ง มืออันดับ 7 ของโลกจากอินโดนีเซีย ชนะ โจนาธาน คริสตี้  มือวาง 4 ของรายการ มืออันดับ5 ของโลกจากอินโดนีเซีย 2-1 เกม 6-21,21-10,21-9  ประเภทชายเดี่ยว กลุ่มเอ : โคไดอิ นาราโอกะ มืออันดับ 14 ของโลกจากญี่ปุ่น ชนะ เอช.เอส.ปรานอย มือวาง 3 ของรายการ มืออันดับ 12 ของโลกจากอินเดีย 2-1 เกม 21-12,9-21,21-17  ประเภทคู่ผสม กลุ่มบี  “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มือวางอันดับ 2 ของรายการ คู่อันดับ 1 ของโลก เอาชนะคู่รุ่นน้องอย่าง “เอ็ม” สุภัค จอมเกาะ กับ “เฟม” ศุภิสรา เพียวสามพราน คู่มืออันดับ 12 ของโลก 2 เกมรวด 21-6 และ 25-23 ใช้เวลาแข่งขัน 46 นาที  เก็บชัยชนะแมตช์แรก ด้านคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก , กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า วันนี้เป็นการแข่งขันในวันแรก โดยที่นักแบดมินตันไทยประเดิมสนามแข่งขันกันเองตามโปรแกรมที่ฝ่ายจัดการแข่งขัน ในรอบแบ่งกลุ่มแมตช์แรก ซึ่งทุกคนต่างทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และแฟนๆแบดมินตันไทยได้เข้าชมและส่งเสียงเชียร์ในสนามที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติมากกว่าปกติทั้งๆที่เป็นวันแรกของการแข่งขันเท่านั้น การแข่งขันในคู่อื่นๆ ก็มีความสนุกตื่นเต้นไม่แพ้กัน ส่วนแมตช์ต่อไปของนักแบดมินตันไทยที่จะลงสนามพบกับ นักแบดมินตันต่างชาติ ซึ่งจะมีผลต่อการเข้ารอบรองชนะเลิศ ก็อยากจะฝากแฟนๆแบดมินตันชาวไทยร่วมมาส่งใจเชียร์เหล่านักแบดมินตันไทยให้ทำผลงานที่ทำงานให้ดีที่สุด-สำนักข่าวไทย

“ภ.ป.ร. ราชวิทยาลัย-วชิราวุธวิทยาลัย” เตรียมระเบิดศึกรักบี้ฟุตบอลประเพณี ครั้งที่ 28  วันที่ 17 ธ.ค. นี้

6 ธ.ค.65-สมาคมนักเรียนเก่า ภ.ป.ร. ราชวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดงานแถลงข่าวการแข่งขัน รักบี้ประเพณี”ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย-วชิราวุธวิทยาลัย” ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ 28  ที่ห้องประชุมศุภชลาศัย สนามศุภชลาศัย สนามกีฬาแห่งชาติ ภายในงานแถลงข่าวนำโดย พ.ต.ต. สุทศธวรรศ อารีย์รัตนะนคร นายกสมาคมนักเรียนเก่า ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัยฯ ซึ่งปีนี้จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา นายกสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยฯ พร้อมด้วยผู้เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวความพร้อมของการจัดแข่งขัน หลังจากที่ห่างหายการชิงชัยไป 2 ปี เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด  พ.ต.ต. สุทศธวรรศ อารีย์รัตนะนคร นายกสมาคมนักเรียนเก่า ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัยฯ ในฐานะเจ้าภาพ เปิดเผยถึงความพร้อมว่า  “เรามีจุดเด่นในเรื่องของนักกีฬาซึ่ง ส่วนใหญ่น้องๆ จะมีดีกรีทีมชาติติดตัว แม้จะหายไป 2 ปี เนื่องจากโควิด19  แต่เราก็มีการเรียกเก็บตัวอยู่เป็นระยะเพื่อความพร้อม และน้องๆ ทุกคน ต้องบอกว่ามีความกระหายมาก เป้าหมายของเราคือ เราไม่ได้เอามาชนะอย่างเดียว และเราคงไม่แพ้ เรายึดมั่นในสโลแกน “กตัญญูฝังจิต มหามิตรตลอดกาล” “ก็ขอเชิญชวนแฟนรักบี้ทุกคนร่วมชมเกมการแข่งขันศึกรักบี้ที่ดีที่สุด  โดยในระหว่างพักการแข่งขัน จะมีจัดกิจกรรมจับของขวัญ สำหรับแฟนรักบี้ที่เข้ามาชมการแข่งขันด้วย” ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา นายกสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยฯ กล่าวว่า “หลังจากหายไปสองปี ปีนี้ก็นับเป็นครั้งที่ 28 ซึ่งเราเตรียมทีมมาตั้งแต่จบการแข่งขันของสโมสร ซ้อมกันมาประมาณ 2 สัปดาห์แล้ว นักกีฬาทุกคนมีความกระหาย และมีความตั้งใจสูงที่จะได้ลงแข่งขันรายการนี้”  “ผมบอกน้องๆ ไปว่า ขอให้ทุกคนเล่นให้สนุกเล่นให้เต็มที่ ทุ่มเท ทุกนาที เล่นแบบแฟร์ ๆ  เพราะเราคือ มหามิตรตลอดกาล ลงสนามไปเล่นให้คนดูมีความสุข ซึ่งปีนี้เราค่อนข้างมั่นใจว่าเราพร้อม และจะขอสู้สุดฝีมือครับ”   ทั้งนี้ การแข่งขันรักบี้ฟุตบอลของโรงเรียนชายล้วนที่เก่าแก่ 2 สถาบันของประเทศไทย ทั้ง โรงเรียน ภ.ป.ร. ราชวิทยาลัย และ โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย จัดขึ้นเพื่อเชื่อมความสามัคคีของครู, อาจารย์, นักเรียนและศิษย์เก่าของทั้ง 2 สถาบัน ภายใต้สโลแกน “กตัญญูฝังจิต มหามิตรตลอดกาล” รวมถึงเป็นการพัฒนานักกีฬารักบี้ของ 2 สถาบันให้ขึ้นไปสู่นักกีฬาระดับชาติต่อไป และยังเป็นการส่งเสริมและพัฒนากีฬารักบี้ฟุตบอลให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายยิ่งขึ้น สำหรับ ศึกรักบี้ฟุตบอลประเพณี ครั้งที่ 28 ในปีนี้ สมาคมนักเรียนเก่า ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน จะมีขึ้นในวันเสาร์ ที่ 17 ธันวาคม 2565 เวลา 17 นาฬิกา ที่สนามศุภชลาศัย สนามกีฬาแห่งชาติ โดยกิจกรรมเริ่มตั้งแต่เวลา 15.00 น. ส่วนบัตรเข้าชมการแข่งขันสามารถซื้อได้ที่หน้าสนาม ราคา 200 บาท-สำนักข่าวไทย

ส.ผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์ เชิญ “ดร.ณัฐ” ปธ.อำนวยการจัดงานวิ่ง “ดิ อาร์ทนิมอล รัน @ สวนผึ้งไฮแลนด์” 

17 พ.ย.65-สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์ เดินหน้าจัดงานวิ่งการกุศล ครั้งที่ 2 “ดิ อาร์ทนิมอล รัน @ สวนผึ้งไฮแลนด์” พร้อมเชิญ ดร.ณัฐ ธีรณัฐสุภานนท์ ประธานมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา เป็นประธานอำนวยการความคืบหน้า สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์ เตรียมกลับมาจัดงานวิ่งการกุศล ครั้งที่ 2 ในชื่อ “ดิ อาร์ทนิมอล รัน @ สวนผึ้งไฮแลนด์” จ.ราชบุรี โดยกำหนดการเบื้องต้น จะจัดขึ้นในช่วงเดือนแห่งความรัก กุมภาพันธ์ 2566 นั้น ล่าสุด “นายกกล้า” วันกล้า ขวัญแก้ว นายกสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์ พร้อมคณะกรรมสมาคมฯ ได้ประชุมหารือกับ ดร.ณัฐ ธีรณัฐสุภานนท์ ประธานมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา ถึงการจัดงานและให้การสนับสนุน พร้อมกันนี้ สมาคมฯ ได้เชิญ ดร.ณัฐ เป็นประธานอำนวยการ และประธานเปิดงานวิ่งการกุศลเพื่อสัตว์ป่า “ดิ อาร์ทนิมอล รัน @ สวนผึ้งไฮแลนด์” ครั้งที่ 2 ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2566  สำหรับกิจกรรม “ดิ อาร์ทนิมอล รัน @ สวนผึ้งไฮแลนด์” มีวัตถุประสงค์เพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งจัดหาอุปกรณ์กีฬา และอุปกรณ์ทางด้านการสร้างสรรค์ศิลปะ ให้กับนักเรียนหรือโรงเรียนที่ขาดแคลน รวมทั้ง จัดหาซื้ออุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือสัตว์ป่า ทั้งนี้ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางแฟนเพจเฟซบุ๊ก-สำนักข่าวไทย

1 23 24 25 26 27 92