ญี่ปุ่นเตือนนักท่องเที่ยวระวังโลมาทำร้าย

โตเกียว 16 ส.ค. – จังหวัดฟุกุอิ ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศชื่อดังของญี่ปุ่น ประกาศเตือนนักท่องเที่ยวให้อยู่ห่างจากโลมา หลังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 6 คนถูกโลมาทำร้าย และมีผู้บาดเจ็บคนหนึ่งถูกโลมากัดแขนจนต้องเย็บแผลถึง 14 เข็ม หนังสือพิมพ์ไมนิจิของญี่ปุ่นรายงานว่า มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 6 คนถูกโลมาปากขวดอินโดแปซิฟิกกัด เหตุเกิดที่ชายหาด 3 แห่งในจังหวัดฟุกุอิ ทางตอนกลางค่อนไปทางตะวันตกของเกาะฮนชู ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่ถูกโลมากัดขณะว่ายน้ำในทะเลห่างจากฝั่งไม่ถึง 10 เมตร เจ้าหน้าที่ของทางการจังหวัดฟุกุอิพยายามหาวิธีแก้ปัญหานี้ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์ใต้น้ำที่ปล่อยคลื่นอัลตราโซนิคเพื่อไล่โลมา แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากได้รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวอีก 2 คนถูกโลมาทำร้ายหลังจากที่ติดอุปกรณ์ดังกล่าว หนังสือพิมพ์ไมนิจิยังระบุว่า ผู้บาดเจ็บ 6 คนที่ถูกโลมาทำร้าย ได้แก่ ชาย 2 คน อายุ 40-49 ปี ถูกโลมากัดและต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจากอาการบาดเจ็บเล็กน้อยในวันเดียวกันที่หาดโคชิโนะในจังหวัดฟุกุอิ ชายอีกคน อายุ 60-69 ปี ที่ถูกโลมากัดที่มือขวาขณะว่ายน้ำในทะเลนอกหาดทาคาสึไม่ถึง 4 เมตร และมีผู้บาดเจ็บคนหนึ่งถูกโลมากัดแขนจนต้องเย็บแผลถึง 14 เข็ม ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดฟุกุอิเผยว่า โลมาไม่ชอบให้มนุษย์สัมผัสบางส่วนของร่างกาย เช่น […]

โพลล์ชี้แรงงานในสิงคโปร์ 40% ปฏิเสธงานถ้าไม่ได้ WFH

สิงคโปร์ 16 ส.ค. – ผลโพลล์ชี้ว่า แรงงานในสิงคโปร์ราวร้อยละ 40 จะปฏิเสธงาน หากไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานจากที่บ้าน หรือนายจ้างไม่อนุญาตให้เข้างานแบบเหลื่อมเวลาทำงานได้ แรนด์สตัด (Randstud) บริษัทที่ปรึกษาด้านทรัพยากรมนุษย์ของเนเธอร์แลนด์ ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นรายครึ่งปีของผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นแรงงานในสิงคโปร์ 1,000 คน อายุ 18-67 ปี ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคมที่ผ่านมา ผลสำรวจดังกล่าว ซึ่งได้รับการเผยแพร่เมื่อวันจันทร์ พบว่า แรงงานในสิงคโปร์ร้อยละ 42 จะปฏิเสธงาน หากนายจ้างไม่อนุญาตให้ทำงานจากที่บ้าน ขณะที่ร้อยละ 52 เล็งเห็นความสำคัญของการทำงานจากที่บ้าน และมีเพียงร้อยละ 52 ที่ระบุว่านายจ้างอนุญาตให้ทำงานจากบ้านได้ นอกจากนี้ ร้อยละ 41 ยังระบุว่า จะปฏิเสธงาน หากนายจ้างไม่อนุญาตให้เข้างานแบบเหลื่อมเวลาทำงาน ผลสำรวจความเห็นของแรนด์สตัดยังพบว่า แรงงานในสิงคโปร์ร้อยละ 80 ให้ความสำคัญกับการเข้างานแบบเหลื่อมเวลาทำงาน แต่มีเพียงร้อยละ 60 ที่ระบุว่าได้รับอนุญาตให้เข้างานแบบเหลื่อมเวลาทำงาน  และมีร้อยละ 27 ที่ลาออกจากงาน เพราะนายจ้างไม่มีนโยบายยืดหยุ่นเรื่องเวลาทำงานและสถานที่ทำงาน ก่อนหน้านี้ กระทรวงแรงงานสิงคโปร์ สภาสหภาพการค้าแห่งชาติสิงคโปร์ และสภาองค์กรนายจ้างแห่งชาติสิงคโปร์ ได้ออกมาสนับสนุนให้นายจ้างปรับใช้แนวทางการทำงานที่ยืดหยุ่นให้แก่ลูกจ้าง […]

รถบัสพุ่งชนรถขนน้ำมันในปากีสถาน ตาย 20 คน

อิสลามาบัด 16 ส.ค. – รถบัสบรรทุกผู้โดยสารพุ่งชนกับรถบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงบนถนนมอเตอร์เวย์เชื่อมเมืองมุลตานกับเมืองซัคเกอร์ของปากีสถานเมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน และบาดเจ็บ 6 คน เจ้าหน้าที่ของเมืองมุลตานในแคว้นปัญจาบของปากีสถานระบุในแถลงการณ์ว่า เกิดเหตุรถบัส ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารจากนครลาฮอร์ เมืองเอกของแคว้นปัญจาบ ไปยังนครการาจี เมืองเอกของแคว้นสินธ์ พุ่งชนกับรถบรรทุกน้ำมันบนถนนมอเตอร์เวย์ เหตุดังกล่าวทำให้เกิดไฟลุกท่วมและมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 20 คนเมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวยังได้เผยแพร่ภาพถ่ายผ่านสื่อโซเชียลมีเดียที่แสดงให้เห็นภาพซากรถบัสและรถบรรทุกน้ำมันที่ถูกไฟไหม้เกรียมอีกด้วย สถานีโทรทัศน์ดอว์นนิวส์ทีวีของปากีสถานรายงานอ้างคำพูดของโฆษกสำนักงานตำรวจทางหลวงพิเศษของปากีสถานที่ระบุว่า รถบรรทุกคันดังกล่าวได้บรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงหลายพันลิตรขณะที่เกิดเหตุพุ่งชนกับรถบัส ทั้งยังระบุว่า อุบัติเหตุในครั้งนี้อาจมีสาเหตุมาจากคนขับรถบัสหลับใน ด้านเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลท้องถิ่นระบุว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้ส่งผู้บาดเจ็บ 4 คนเข้ารับการรักษาในเบื้องต้นที่แผนกผู้ป่วยแผลไฟไหม้ในโรงพยาบาล และกำลังเตรียมการขนย้ายศพผู้เสียชีวิต 20 คนไปยังห้องเก็บศพของโรงพยาบาล.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ ปฏิเสธข่าวถูกจีนแบนนำเข้าเนื้อสัตว์

ออสเตรเลียกับนิวซีแลนด์ระบุว่า ทั้งสองประเทศยังคงส่งออกเนื้อสัตว์ไปจีนได้ตามปกติ หลังสื่อของจีนรายงานว่า ทางการจีนอาจสั่งระงับนำเข้าเนื้อสัตว์จากออสเตรเลียกับนิวซีแลนด์ เนื่องจากวิตกกังวลเกี่ยวกับการระบาดของโรคปากและเท้าเปื่อยในสัตว์

รัสเซียเปิดตัวโมเดลสถานีอวกาศที่จะสร้างเอง

มอสโก 15 ส.ค. – รัสเซียเปิดตัวโมเดลสถานีอวกาศที่วางแผนสร้างขึ้นเองเป็นครั้งแรกในงานจัดแสดงอุตสาหกรรมทางทหารที่จัดขึ้นนอกกรุงมอสโกเมื่อวันจันทร์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการถอนตัวจากสถานีอวกาศนานาชาติ หรือไอเอสเอส องค์การอวกาศสหพันธ์รัสเซีย หรือรอสคอสมอส เปิดตัวโมเดลสถานีอวกาศที่รัสเซียวางแผนสร้างขึ้นเอง หรือที่สื่อของทางการรัสเซียมักเรียกกันว่า ‘รอสส์’ (ROSS) ในงานจัดแสดงอุตสาหกรรมทางทหาร ‘อาร์มี-2022’ (Army-2022) ที่จัดขึ้นนอกกรุงมอสโกเมื่อวันจันทร์ รอสคอสมอสระบุในแถลงการณ์ว่า ภารกิจสร้างสถานีอวกาศแห่งใหม่ของรัสเซียจะแบ่งออกเป็น 2 ระยะ แต่ไม่ได้เปิดเผยวันที่แน่นอน ระยะแรกจะเป็นการส่งโมดูล 4 โมดูลขึ้นไปเริ่มปฏิบัติการ ส่วนระยะที่สองจะส่งโมดูลที่เหลืออีก 2 โมดูลและชิ้นส่วนอื่น ๆ ที่จำเป็นในการปฏิบัติงาน ซึ่งจะทำให้เพียงพอต่อการทำงานของนักบินอวกาศสูงสุด 4 คน นอกจากนี้ สถานีอวกาศแห่งใหม่ของรัสเซียจะช่วยให้นักบินอวกาศมองเห็นโลกในมุมที่กว้างขึ้นกว่าเดิมเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการติดตามและเฝ้าระวัง ในขณะเดียวกัน สื่อของทางการรัสเซียคาดการณ์ว่า รัสเซียจะเริ่มเข้าสู่แผนสร้างสถานีอวกาศระยะแรกในช่วงปี 2568-2569 และจะเสร็จสิ้นกระบวนการสร้างระยะแรกภายในปี 2573 จากนั้น จะเริ่มแผนระยะสองและระยะสุดท้ายในปี 2573-2578 ก่อนหน้านี้ นายยูริ บอริซอฟ ผู้อำนวยการรอสคอสมอส ซึ่งเพิ่งได้รับแต่งตั้งจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ในเดือนกรกฎาคม เผยว่า รัสเซียจะถอนตัวจากสถานีอวกาศนานาชาติหลังปี 2567  แต่องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐ […]

อังกฤษไฟเขียววัคซีนปรับปรุงใหม่ต้านโควิดดั้งเดิม-โอไมครอน

ลอนดอน 16 ส.ค. – อังกฤษอนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ปรับปรุงใหม่ที่มีประสิทธิภาพต้านเชื้อโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิมและโอไมครอนเป็นประเทศแรกในโลกเมื่อวันจันทร์ สำนักงานควบคุมยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ (MHRA) ของอังกฤษ ซึ่งเป็นประเทศแรกในโลกที่อนุมัติใช้วัคซีนโควิดเมื่อช่วงปลายปี 2563 ประกาศอนุมัติใช้วัคซีนโควิดปรับปรุงใหม่ที่มีประสิทธิภาพต้านเชื้อโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิมและโอไมครอนของโมเดอร์นาแบบมีเงื่อนไขเพื่อใช้ฉีดเป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันในกลุ่มผู้ใหญ่เมื่อวันจันทร์ ทั้งยังอ้างผลการวิเคราะห์เชิงสำรวจที่ระบุว่า วัคซีนที่ปรับปรุงใหม่มีประสิทธิภาพต้านเชื้อโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ที่กำลังระบาดหนักในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี และไม่พบข้อวิตกกังวลด้านสุขภาพในการฉีดวัคซีนดังกล่าว ขณะที่คณะกรรมการว่าด้วยการฉีดวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกันโรค (JCVI) ของอังกฤษ จะประกาศคำแนะนำใช้วัคซีนดังกล่าวในประเทศในเร็ว ๆ นี้ การตัดสินใจของสำนักงานควบคุมยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของอังกฤษมีขึ้นโดยอ้างอิงข้อมูลจากการทดลองทางคลินิกที่ชี้ว่า วัคซีนที่ปรับปรุงใหม่มีประสิทธิภาพสูงในการต้านทานเชื้อโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิมและโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.1 ส่วนโมเดอร์นาเผยข้อมูลจากการทดลองเมื่อเดือนมิถุนายนว่า หากนำวัคซีนปรับปรุงใหม่ไปฉีดเป็นวัคซีนเข็มที่สี่ จะทำให้ร่างกายมีระดับภูมิต้านทานต่อเชื้อโควิดโอไมครอนเพิ่มขึ้นถึง 8 เท่า นอกจากนี้ วัคซีนขนานดังกล่าวยังมีประสิทธิภาพต้านเชื้อโควิดสายพันธุ์ย่อยอื่น ๆ ได้ดีกว่าวัคซีนเข็มกระตุ้นสูตรดั้งเดิมถึง 1.69 เท่า.-สำนักข่าวไทย

นอร์เวย์ตัดสินใจฆ่า “เฟรยา” วอลรัสชื่อดังแล้ว

ออสโล 15 ส.ค. – นอร์เวย์ฆ่า ‘เฟรยา’ (Freya) วอลรัสเพศเมียชื่อดังขวัญใจชาวนอร์เวย์ ที่มักโผล่ขึ้นมานอนเล่นบนเรือหรือนอนอาบแดดบนท่าเรือตามแนวชายฝั่งกรุงออสโล โดยให้เหตุผลว่า เฟรยาเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของมนุษย์ สำนักงานประมงของนอร์เวย์ระบุในแถลงการณ์ว่า ทางการนอร์เวย์ได้ตัดสินใจการุณยฆาตเฟรยา น้ำหนักตัว 590 กิโลกรัม เมื่อช่วงเช้ามืดวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น หลังประชาชนไม่สนใจคำเตือนหลายครั้งของทางการว่าให้เว้นระยะห่างจากเฟรยาเพื่อความปลอดภัย แนวทางนี้เป็นวิธีที่ถูกต้องในการแก้ปัญหาดังกล่าว ทั้งยังระบุว่า นอร์เวย์ให้ความสำคัญเรื่องสวัสดิภาพของสัตว์ แต่ความสำคัญของชีวิตและความปลอดภัยของมนุษย์ต้องมาก่อน อย่างไรก็ดี การตัดสินใจฆ่าเฟรยาทำให้ทางการนอร์เวย์ถูกตำหนิอย่างหนักในสื่อโซเชียลมีเดีย ผู้ใช้งานสื่อโซเชียลมีเดียหลายคนมองว่า การตัดสินใจดังกล่าวเป็นเรื่องน่าอับอายระดับชาติ และบางส่วนก็ตั้งคำถามว่า ทำไมนอร์เวย์ถึงไม่พยายามย้ายเฟรยาไปปล่อยในน่านน้ำที่ปลอดภัยก่อนใช้วิธีการุณยฆาต หนังสือพิมพ์เดอะวอชิงตันโพสต์ของสหรัฐ รายงานว่า วอลรัสเพศเมียตัวนี้ได้รับการตั้งชื่อว่า ‘เฟรยา’ ตามชื่อของเทพธิดาแห่งความงามและความรักของนอร์เวย์ มันปรากฏตัวขึ้นตามท่าเรือในกรุงนอร์เวย์ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกรกฎาคมและได้รับความสนใจจากชาวเมืองอย่างล้นหลาม จนกระทั่งสื่อท้องถิ่นถึงขั้นติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อตามติดชีวิตของมันตลอด 24 ชั่วโมง ก่อนหน้านี้ เคยมีผู้พบเห็นเฟรยาในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาตามแนวชายฝั่งของประเทศในทวีปยุโรป เช่น อังกฤษ เดนมาร์ก และเนเธอร์แลนด์ ทั้งนี้ กลุ่มอนุรักษ์สัตว์ป่าคาดการณ์ว่า ทะเลน้ำแข็งที่ละลายเร็วขึ้นจากปัญหาโลกร้อนอาจมีส่วนทำให้วอลรัส ซึ่งปกติมักนอนพักบนทะเลน้ำแข็ง ต้องหันมานอนพักบนบกมากขึ้น นอกจากนี้ ปัญหาดังกล่าวยังทำให้วอลรัสต้องอยู่ห่างไกลจากแหล่งหาปลาดั้งเดิมอีกด้วย. -สำนักข่าวไทย

อิหร่านปฏิเสธไม่เกี่ยวเหตุกระหน่ำแทง “ซัลมาน รัชดี”

เตหะราน 15 ส.ค. – อิหร่านปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยสิ้นเชิงจากเหตุการณ์ที่นายซัลมาน รัชดี นักเขียนนวนิยายชื่อดัง ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกกระหน่ำแทงขณะปรากฏตัวต่อสาธารณะในรัฐนิวยอร์กของสหรัฐเมื่อวันศุกร์ แต่กล่าวโทษว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นจากผลการกระทำของนายรัชดีเอง โฆษกกระทรวงต่างประเทศของอิหร่านกล่าวที่งานแถลงข่าวประจำสัปดาห์ในวันนี้ว่า รัฐบาลอิหร่านไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยสิ้นเชิงจากเหตุการณ์ที่นายรัชดีถูกกระหน่ำแทงขณะปรากฏตัวต่อสาธารณะในรัฐนิวยอร์กของสหรัฐ และทุกคนก็ไม่มีสิทธิกล่าวหาอิหร่านว่าอยู่เบื้องหลังเหตุดังกล่าวเช่นกัน ทั้งยังระบุว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นจากผลการกระทำของนายรัชดีและกลุ่มผู้สนับสนุน เนื่องจากนายรัชดีทำให้ชาวมุสลิมที่นับถือศาสนาอิสลามกว่า 1,500 ล้านคนทั่วโลกไม่พอใจจากการเขียนหนังสือดูหมิ่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลาม ขณะนี้ นายรัชดี วัย 75 ปี ยังคงรักษาอาการบาดเจ็บสาหัสจากการถูกกระหน่ำแทง แต่แพทย์ได้ถอดเครื่องช่วยหายใจแล้ว และสามารถพูดคุยได้ ก่อนหน้านี้ นายรัชดีต้องใช้ชีวิตภายใต้การอารักขาของตำรวจมาเป็นเวลานานหลายปี หลังบรรดาผู้นำอิหร่านระบุว่า นายรัชดีได้ทำลายภาพลักษณ์ของศาสนาอิสลามและศาสนทูตมูฮัมหมัด ผู้ส่งสารพระเจ้าและศาสดาของอิสลาม ในนวนิยายเรื่อง ‘เดอะ ซาทานิค เวอร์ซิส’ (The Satanic Verses) หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อไทยว่า ‘โองการปีศาจ’ ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 2531 จนทำให้อยาตอลเลาะห์ รูฮอลเลาะห์ โคไมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านในสมัยนั้น ประกาศในปี 2532ให้ชาวมุสลิมสังหารนายรัชดีจากการดูหมิ่นศาสนาอิสลามในผลงานเขียนเรื่องดังกล่าว. -สำนักข่าวไทย

เซี่ยงไฮ้สั่งล็อกดาวน์ร้านอิเกียทำคนแห่หนีกักตัว

เซี่ยงไฮ้ 15 ส.ค. – เกิดเหตุโกลาหลขึ้นที่ร้านอิเกีย (Ikea) ในนครเซี่ยงไฮ้ของจีน เมื่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขพยายามปิดร้านไม่ให้คนเข้าหรือออกจากร้านเมื่อวันเสาร์ หลังพบผู้มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโควิดเดินทางมายังร้านแห่งนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กของสหรัฐรายงานอ้างคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียว่า ร้านอิเกียในนครเซี่ยงไฮ้ได้ประกาศว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขขอให้ร้านปิดบริการทันทีและไม่อนุญาตให้คนเข้าหรือออกจากร้าน แต่ในขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ซึ่งสวมชุดป้องกันการติดเชื้อ กำลังพยายามปิดประตูร้านไม่ให้คนเข้าหรือออก ก็มีผู้ที่อยู่ในร้านหลายสิบคนวิ่งกรีดร้องและดันประตูจนหลบหนีออกไปได้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของทางการนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งมีประชากร 25 ล้านคน เผยว่า ทางการท้องถิ่นได้ประกาศใช้มาตรการควบคุมโรคโควิดชั่วคราวที่ร้านแห่งนี้ หลังพบว่าผู้มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดเด็กชาย วัย 6 ขวบ ที่ติดเชื้อโควิด ได้เดินทางมายังร้านนี้ แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าผู้มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดคนดังกล่าวเดินทางมาที่ร้านเมื่อใด ขณะที่รองผู้อำนวยการคณะกรรมการด้านสุขภาพของนครเซี่ยงไฮ้ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ทุกคนที่เดินทางไปร้านอิเกียและพื้นที่เสี่ยงอื่น ๆ จะต้องกักตัวเพื่อรอดูอาการ 2 วัน และเฝ้าระวังอาการป่วยของตนเองต่อไปอีก 5 วัน ทางการจีนรายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ 2,312 คน ทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 เดือน และมียอดผู้ป่วยโควิดสูงกว่า 2,000 คนติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกระบุว่า ขณะนี้ จีนมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 5.89 ล้านคน […]

นายกฯ อินเดียตั้งเป้าเป็นประเทศพัฒนาแล้วใน 25 ปี

นิวเดลี 15 ส.ค. – นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย ประกาศตั้งเป้าให้อินเดียเป็นประเทศพัฒนาแล้วภายใน 25 ปีข้างหน้า พร้อมเดินหน้านโยบายส่งเสริมการผลิตในประเทศด้านพลังงาน การป้องกันประเทศ และเทคโนโลยีดิจิทัล นายกรัฐมนตรีโมดี วัย 71 ปี กล่าวสุนทรพจน์ความยาว 75 นาทีที่ป้อมแดงในกรุงนิวเดลีเนื่องในโอกาสครบรอบ 75 ปีที่อินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษ หรือวันชาติอินเดีย ว่า เขาขอให้ชาวอินเดียรุ่นใหม่ตั้งเป้าหมายให้ใหญ่และร่วมกันพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า โดยทุกคนต้องช่วยกันทำให้อินเดียกลายเป็นประเทศพัฒนาแล้วในอีก 25 ปีข้างหน้า ปัจจุบัน ธนาคารโลก หรือเวิลด์ แบงก์ จัดให้อินเดียอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีรายได้ปานกลางค่อนไปต่ำ ซึ่งมีรายได้ต่อหัวอยู่ที่ 1,086-4,255 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 38,500-150,000) ต่อปี ขณะที่ประเทศที่มีรายได้สูง เช่น สหรัฐ มีรายได้ต่อหัวอยู่ที่ 13,205 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 468,000 บาท) ต่อปี หรือมากกว่านั้น อย่างไรก็ดี อินเดียเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 6 ของโลก และคาดว่าเศรษฐกิจอินเดียจะเติบโตกว่าร้อยละ […]

เมืองในเยอรมนีเลิกสั่งล็อกดาวน์แมวออกนอกบ้าน

เบอร์ลิน 15 ส.ค. – เจ้าของแมวในเมืองวอลล์ดอร์ฟของเยอรมนี จะได้รับอนุญาตให้ปล่อยแมวออกนอกบ้านได้เป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน หลังทางการท้องถิ่นยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์พิเศษที่สั่งให้แมวอยู่แต่ในบ้านเพื่อปกป้องนกที่ใกล้สูญพันธุ์ ทางการเมืองวอลล์ดอร์ฟในรัฐบาเดิน-เวิร์ทเทมแบร์ก ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเยอรมนี ประกาศอนุญาตให้ประชาชนปล่อยแมวออกนอกบ้านเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หลังใช้มาตรการล็อกดาวน์สั่งห้ามแมวออกนอกบ้านตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อปกป้องนกจาบหัวหงอน (crested lark) ที่ใกล้สูญพันธุ์ มาตรการดังกล่าวยังกำหนดโทษปรับเงินเจ้าของแมวสูงสุดถึง 50,000 ยูโร (ราว 1.8 ล้านบาท)  หากพิสูจน์ได้ว่าแมวออกนอกบ้านไปทำร้ายหรือฆ่านกจาบหัวหงอน อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่ามาตรการล็อกดาวน์ดังกล่าวช่วยปกป้องนกจาบหัวหงอนได้หรือไม่ เนื่องจากทางการเมืองวอลล์ดอร์ฟได้ประกาศยกเลิกมาตรการนี้เร็วกว่ากำหนดเดิม 2 สัปดาห์ บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า ทางการเมืองวอลล์ดอร์ฟกำลังหาทางปกป้องประชากรนกจาบหัวหงอนที่ใกล้สูญพันธุ์ในรัฐบาเดิน-เวอร์ทเทมแบร์ก และอีกหลายพื้นที่ของเยอรมนี ขณะที่กลุ่มนักเคลื่อนไหวได้ออกมาตำหนิการใช้มาตรการดังกล่าวของทางการเมืองวอลล์ดอร์ฟ โดยระบุว่า มาตรการนี้ส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพของแมว แต่ก็เล็งเห็นความสำคัญและพร้อมสนับสนุนการปกป้องนกจาบหัวหงอน ทั้งนี้ ข้อมูลจากราชสมาคมคุ้มครองนกแห่งสหราชอาณาจักร ระบุว่า ทุกปีมีนกหลายล้านตัวตายตามธรรมชาติ แต่ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าการที่แมวทำร้ายนกมีส่วนทำให้ประชากรนกลดลง. -สำนักข่าวไทย

เผย “ปูติน” จ่อขยายสัมพันธ์ทวิภาคีกับเกาหลีเหนือ

เปียงยาง 15 ส.ค. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย บอกกับนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือว่า รัสเซียกับเกาหลีเหนือจะขยายความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีที่ครอบคลุมและสร้างสรรค์ร่วมกัน สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือเคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือ รายงานว่า ประธานาธิบดีปูตินระบุในจดหมายที่ส่งถึงนายคิมเนื่องในวันประกาศอิสรภาพของเกาหลีเหนือ ซึ่งตรงกับวันที่ 15 สิงหาคมของทุกปี ว่า รัสเซียกับเกาหลีเหนือจะมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นต่อกันมากยิ่งขึ้น และจะช่วยกันสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงบนคาบสมุทรเกาหลีและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ เคซีเอ็นเอยังระบุว่า นายคิมได้ส่งจดหมายถึงประธานาธิบดีปูตินเช่นกัน ข้อความในจดหมายระบุว่า ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์และยุทธวิธี การสนับสนุน และความสามัคคี ระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซียได้บรรลุถึงระดับใหม่ โดยที่ทั้งสองประเทศจะช่วยกันกำจัดภัยคุกคามและการยั่วยุจากกองกำลังทหารที่เป็นศัตรู อย่างไรก็ดี นายคิมไม่ได้ระบุว่ามีประเทศใดที่เป็นศัตรู แต่ส่วนใหญ่มักจะใช้คำนี้เรียกสหรัฐและชาติพันธมิตร ก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือได้ออกมาประกาศในเดือนกรกฎาคมรับรองสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์และสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์ของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครน ซึ่งประธานาธิบดีปูตินลงนามรับรองเอกราชเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ นอกจากนี้ ทางการเกาหลีเหนือยังเล็งที่จะส่งแรงงานเกาหลีเหนือไปยังพื้นที่ดังกล่าวเพื่อช่วยเรื่องการก่อสร้างและการใช้แรงงานอื่น ๆ อีกด้วย. -สำนักข่าวไทย

1 57 58 59 60 61 315