อนามัยโลกรับกังวลโควิดระบาดในจีนอย่างมาก

เจนีวา 22 ธ.ค. – ดร. ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ระบุว่า เขารู้สึกวิตกกังวลอย่างมากต่อสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ในจีนที่พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดร. ทีโดรส กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ว่า เขารู้สึกวิตกกังวลอย่างมากต่อสถานการณ์ระบาดของโรคโควิดในจีน และองค์การอนามัยโลกก็รู้สึกเช่นเดียวกันต่อการระบาดของโรคโควิดที่รุนแรงขึ้นในจีน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทางการจีนเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตัวเลขผู้ป่วยที่มีอาการหนัก ผู้ป่วยที่รักษาตัวในโรงพยาบาล และผู้ป่วยที่ต้องรักษาตัวในหอผู้ป่วยวิกฤต ขณะที่ นพ. ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการโครงการฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก กล่าวว่า จีนรายงานตัวเลขผู้ป่วยโควิดที่รักษาตัวในหอผู้ป่วยวิกฤตน้อยเกินจริง ทั้งที่มีผู้ป่วยรักษาตัวในหอผู้ป่วยวิกฤตเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนรายงานวันนี้ว่า จีนพบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ 3,030 คนเมื่อวันพุธ ลดลงจากวันอังคารที่มี 3,101 คน และไม่พบผู้เสียชีวิตรายใหม่จากโรคโควิด ทั้งยังระบุว่า มีผู้ป่วยโควิดอาการรุนแรงเพียง 45 คนทั่วประเทศ ลดลงจากวันอังคารที่มี 53 คน ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์สตั้งข้อสังเกตว่า ทางการจีนอาจรายงานยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดและผู้ป่วยอาการหนักน้อยเกินจริงนับตั้งแต่จีนยกเลิกมาตรการตรวจหาเชื้อโควิดในประชาชนทั่วประเทศเมื่อไม่นานมานี้ ทั้งนี้ ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า จีนมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 10.11 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 31,400 คน.-สำนักข่าวไทย  

ดินถล่มจุดตั้งแคมป์ในมาเลเซีย ตายเพิ่มเป็น 30 ราย

กัวลาลัมเปอร์ 22 ธ.ค. – สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของมาเลเซียเผยว่า พบร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุดินถล่มบริเวณจุดตั้งแคมป์ที่เขตบาตังกาลีในรัฐสลังงอร์เพิ่มอีก 4 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 30 ราย และยังคงมีผู้สูญหายอีก 3 คน สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของมาเลเซียระบุว่า พบร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุดินถล่มบริเวณจุดตั้งแคมป์ที่เขตบาตังกาลีในรัฐสลังงอร์เพิ่มอีก 4 รายเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่หนังสือพิมพ์เดอะสตาร์ของมาเลเซียรายงานอ้างหน่วยงานดับเพลิงและกู้ภัยของมาเลเซียที่ระบุว่า ผู้เสียชีวิตรายใหม่ที่พบเมื่อช่วงเช้าเป็นเด็ก 2 ราย ผู้หญิง 1 ราย และผู้ชาย 1 ราย ส่วนเจ้าหน้าที่ค้นหาและกู้ภัยยังคงเดินหน้าปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอีก 3 คนเป็นวันที่ 7 นับตั้งแต่เกิดเหตุดินถล่มบริเวณจุดตั้งแคมป์ที่เขตบาตังกาลีในรัฐสลังงอร์เมื่อช่วงเช้ามืดของวันศุกร์ที่แล้ว โดยสามารถช่วยชีวิตผู้คนได้รวม 94 คน เหตุดินถล่มในครั้งนี้เกิดขึ้นที่จุดกางเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยวที่เปิดให้บริการภายในสวนเกษตรอินทรีย์ชื่อ ‘ฟาเธอร์ส ออร์แกนิค ฟาร์ม’  (Father’s Organic Farm) ที่เขตบาตังกาลีในรัฐสลังงอร์ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปทางตอนเหนือราว 50 กิโลเมตร และอยู่ไม่ไกลจาก ‘เกนติ้ง ไฮแลนด์’ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของมาเลเซีย โดยเกิดขึ้นเมื่อเวลาราว 02.00 น. ของวันศุกร์ […]

“ดองกิ” เปลี่ยนใจกลับไปใช้มาสคอตเพนกวินเหมือนเดิม

โตเกียว 22 ธ.ค. – ดองกิ (Donki) หรือ ดองกิโฮเต (Don Quijote) บริษัทร้านค้าปลีกสัญชาติญี่ปุ่น ระบุว่า บริษัทได้ตัดสินใจกลับไปใช้ ‘ดองเปง’ (Donpen) มาสคอตเพนกวินตัวสีฟ้าที่สวมหมากแซนต้าที่ใช้มาเป็นเวลานานดังเดิม หลังถูกชาวญี่ปุ่นวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์เรื่องการเปลี่ยนมาสคอต นาโอกิ โยชิดะ ประธานบริษัทร้านค้าปลีกดองกิ ซึ่งมีสาขากว่า 600 แห่งในญี่ปุ่น เผยว่า ดองกิจะยังคงใช้ดองเปงเป็นมาสคอตของร้านดังเดิม หลังได้รับฟังความคิดเห็นของลูกค้าจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ และได้หารือเรื่องดังกล่าวร่วมกับคณะกรรมการบริษัท จนได้ข้อสรุปว่า บริษัทจะใช้ดองเปงเป็นมาสคอตของร้านต่อไป ขณะที่แพน แปซิฟิค อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิงส์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของดองกิ ได้ออกแถลงการณ์ขอโทษลูกค้าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกล่าวขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนให้ใช้ดองเปงเป็นมาสคอตของร้านต่อไป ก่อนหน้านี้ ดองกิ ซึ่งเป็นร้านค้าที่มีชื่อเสียงด้านสินค้าหลากหลายและราคาถูก ได้ประกาศผ่านทวิตเตอร์เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า บริษัทได้ตัดสินใจเปลี่ยนมาสคอตจากดองเปงไปเป็น ‘โดโจ-จัง’ (Dojo-chan) ตัวอักษรคาตาคานะที่อยู่บนพุงของดองเปง โดยไม่ได้เปิดเผยเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ จนทำให้ชาวญี่ปุ่นในโลกออนไลน์ออกมาแสดงความรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก และมีบางคนที่ขู่ว่าจะไม่เข้าไปซื้อของในร้านดองกิอีกต่อไป นอกจากนี้ ยังมีผู้ใช้งานทวิตเตอร์รายหนึ่งตั้งโพลสอบถามความเห็นที่มีผู้เข้าร่วมลงคะแนนกว่า 33,000 ครั้ง โดยที่ร้อยละ 93 ระบุว่าชอบมาสคอตดองเปงมากกว่ามาสคอตโดโจ-จัง ทั้งนี้ […]

“ปูติน” อ้างรัสเซียไม่ผิดเรื่องปัญหาขัดแย้งในยูเครน

มอสโก 22 ธ.ค. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ระบุว่า ปัญหาขัดแย้งในยูเครนไม่ใช่ความผิดของรัสเซียเพียงผู้เดียว แต่ยูเครนก็มีส่วนผิดเช่นเดียวกัน ประธานาธิบดีปูตินกล่าวกับเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของรัสเซีย ซึ่งได้รับการถ่ายทอดผ่านโทรทัศน์ว่า ปัญหาขัดแย้งในยูเครนไม่ใช่ความผิดของรัสเซียเพียงคนเดียว แต่ยูเครนก็มีส่วนผิดเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดี เขายังคงเห็นยูเครนเป็นประเทศพี่น้องกับรัสเซียอยู่เสมอ ปัญหาขัดแย้งที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากนโยบายของกลุ่มประเทศที่สามที่เข้ามาแทรกแซง ทั้งยังอ้างว่า ชาติตะวันตกกำลังใช้วิธีล้างสมองกลุ่มประเทศที่แยกตัวจากสหภาพโซเวียต โดยเริ่มจากยูเครนเป็นประเทศแรก ประธานาธิบดีปูตินยังกล่าวว่า รัสเซียได้พยายามสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับยูเครนมาเป็นเวลานานหลายปี เช่น การเสนอให้กู้ยืมเงินและการขายพลังงานราคาถูก แต่วิธีเหล่านี้ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทหารของรัสเซียระบุว่า กองทัพรัสเซียจะยังคงเดินหน้าใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนต่อไปในปีหน้า บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธกว่า 1,000 ลูก และส่งฝูงโดรนจู่โจมทางอากาศที่ผลิตโดยอิหร่านเข้าไปโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานหลายแห่งของยูเครนตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. จนทำให้มีชาวยูเครนหลายล้านคนต้องใช้ชีวิตท่ามกลางไฟดับในฤดูหนาวที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

“ไบเดน” บอก “เซเลนสกี” ว่าสหรัฐจะไม่ปล่อยให้ยูเครนเดียวดาย

วอชิงตัน 22 ธ.ค. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ กล่าวกับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนว่า สหรัฐจะยังคงให้ความช่วยเหลือยูเครนตราบนานเท่านานในสงครามกับรัสเซีย และยูเครนจะไม่มีวันถูกทอดทิ้งให้โดดเดี่ยวเดียวดาย ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวกับประธานาธิบดีเซเลนสกีในขณะที่ผู้นำยูเครนเดินเยี่ยมชมทำเนียบขาวของสหรัฐว่า ยูเครนจะไม่มีวันถูกทอดทิ้งให้โดดเดี่ยวเดียวดาย พร้อมยืนยันเรื่องที่สหรัฐจะมอบความช่วยเหลือครั้งใหม่มูลค่ากว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 69,308 ล้านบาท) ให้แก่ยูเครนเพื่อนำไปใช้ป้องกันประเทศจากการโจมตีของรัสเซีย และให้สัญญาว่าจะมอบความช่วยเหลืออีกราว 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.56 ล้านล้านบาท) นอกจากนี้ ประธานาธิบดีไบเดนยังกล่าวในงานแถลงข่าวร่วมกับประธานาธิบดีเซเลนสกีว่า เขาไม่ได้รู้สึกวิตกกังวลเลยแม้แต่น้อยเกี่ยวกับการจัดตั้งกลุ่มแนวร่วมนานาชาติที่เป็นพันธมิตรร่วมกันเพื่อช่วยเหลือยูเครน ทั้งยังระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ยังคงไม่มีความคิดที่จะหยุดการทำสงครามอันโหดร้ายในครั้งนี้ ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีเซเลนสกี ได้กล่าวขอบคุณสหรัฐสำหรับการสนับสนุนและความช่วยเหลือแก่ยูเครนในด้านต่าง ๆ และหวังว่ารัฐสภาสหรัฐจะลงมติอนุมัติวงเงินเพิ่มเติม 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในการช่วยเหลือยูเครนเพื่อปกป้องอิสรภาพและดินแดนของยูเครน แม้สหรัฐเพิ่งมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในรัฐสภา แต่เขาเชื่อว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทั้งพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต นอกจากนี้ ผู้นำยูเครนยังกล่าวกับ ส.ส. สหรัฐ ที่อาคารรัฐสภาว่า ยูเครนจะไม่มีวันยอมแพ้ในสงครามครั้งนี้ แต่ต้องการอาวุธเพิ่มมากขึ้นเพื่อนำมาใช้ปกป้องประเทศ พร้อมทั้งมอบธงรบที่มีรายนามของเหล่าทหารผู้พิทักษ์เมืองบัคมุต ซึ่งเป็นเมืองสมรภูมิรบด่านหน้าในแคว้นโดเนตสก์ ทางตะวันออกของยูเครน ให้แก่รัฐสภาสหรัฐ […]

น้ำท่วมหนักในมาเลเซีย เสียชีวิตแล้ว 5 คน

เหตุน้ำท่วมในพื้นที่ทางตอนเหนือของมาเลเซีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน และทำให้ประชาชนกว่า 70,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว

“สี จิ้นผิง” ส่งสารถึงนายกฯ ออสเตรเลีย หนุนสัมพันธ์ยุทธศาสตร์

ปักกิ่ง/ซิดนีย์ 21 ธ.ค. – ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ส่งสารถึงนายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซี ของออสเตรเลีย ว่าเขาจะทำงานเพื่อส่งเสริมความเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมกับออสเตรเลีย เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนกับออสเตรเลีย สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีนรายงานวันนี้ว่า ประธานาธิบดีสีได้ส่งสารถึงนายกรัฐมนตรีอัลบาเนซี ว่าเขาให้ความสำคัญกับการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับออสเตรเลีย และต้องการที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลออสเตรเลียเช่นกัน ขณะที่นายกรัฐมนตรีอัลบาเนซีกล่าวกับผู้สื่อข่าวในนครซิดนีย์ของออสเตรเลียว่า เขาให้ความสำคัญต่อการสานสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับจีน ซึ่งเป็นพันธมิตรทางการค้ารายใหญ่ของโลก พร้อมกล่าวขอบคุณประธานาธิบดีสี สำหรับสารแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตของทั้งสองประเทศ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า สารดังกล่าวของประธานาธิบดีสีมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่นางเพนนี หว่อง รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศออสเตรเลีย จะพบกับนายหวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศจีน เพื่อเปิดการประชุมภายใต้ข้อตกลงการเจรจาเศรษฐกิจเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างจีนกับออสเตรเลียในวันนี้ ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตของทั้งสองประเทศ โดยที่นางหว่องเป็นเจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรีคนแรกของออสเตรเลียที่เดินทางเยือนจีน นับตั้งแต่ปี 2562 หลังจากที่จีนกับออสเตรเลียมีความสัมพันธ์ย่ำแย่ลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เช่น การที่จีนตัดสินใจใช้มาตรการคว่ำบาตรสินค้านำเข้าจากออสเตรเลีย หลังรัฐบาลออสเตรเลียออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานระหว่างประเทศเข้าไปสืบสวนที่มาของโรคโควิด-19 ในจีน.-สำนักข่าวไทย

พบชาวโรฮีนจากว่าร้อยลอยเคว้งในน่านน้ำนอกฝั่งอินเดีย

แหล่งข่าวเผยว่า กองทัพเรืออินเดียพบชาวโรฮีนจากว่า 100 คน อัดแน่นอยู่บนเรือที่ลอยเคว้งกลางน่านน้ำนอกชายฝั่งหมู่เกาะอันดามันของอินเดีย โดยคาดว่าอาจมีชาวโรฮีนจามากถึง 20 คน ที่เสียชีวิตจากภาวะขาดน้ำ หิวโหย หรือจมน้ำ

“เซเลนสกี” จะเยือนสหรัฐหารือ “ไบเดน” วันนี้

วอชิงตัน/เคียฟ 21 ธ.ค. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กำลังเดินทางไปเยือนสหรัฐเพื่อพบกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน และเยี่ยมรัฐสภาสหรัฐในวันนี้ ซึ่งนับเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรกของผู้นำยูเครนนับตั้งแต่ถูกรัสเซียบุกโจมตีเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ประธานาธิบดีเซเลนสกีเผยว่า เขาจะเดินทางไปยังกรุงวอชิงตันของสหรัฐเพื่อหารือกับประธานาธิบดีไบเดนเกี่ยวกับการพัฒนาขีดความสามารถด้านการป้องกันและความยืดหยุ่นให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น รวมถึงการเยี่ยมรัฐสภาสหรัฐ ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐ กล่าวว่า ประธานาธิบดีไบเดนจะประกาศมอบความช่วยเหลือด้านการทหารมูลค่าราว 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 69,590 ล้านบาท) ให้แก่ยูเครนในระหว่างที่ประธานาธิบดีเซเลนสกีเยือนสหรัฐ ซึ่งรวมถึงระบบต่อต้านขีปนาวุธ ‘แพทริออต’ (Patriot) เพื่อให้ยูเครนสามารถป้องกันตนเองจากขีปนาวุธของรัสเซียได้ นอกจากนี้ ประธานาธิบดีเซเลนสกีจะหารือกับประธานาธิบดีไบเดนและเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระดับสูงของสหรัฐที่ทำเนียบขาว แถลงข่าวร่วมกับประธานาธิบดีไบเดน และเดินทางไปยังรัฐสภาสหรัฐเพื่อร่วมประชุมกับสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ คารีน ฌอง-ปิแอร์ โฆษกรัฐบาลสหรัฐ ระบุในแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดีไบเดนได้เชิญประธานาธิบดีเซเลนสกีให้เดินทางเยือนกรุงวอชิงตันเพื่อเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของสหรัฐในการช่วยเหลือยูเครน การเดินทางเยือนสหรัฐของผู้นำยูเครนจะแสดงให้ถึงความแน่วแน่ของสหรัฐในการสนับสนุนยูเครนในด้านต่าง ๆ ตราบนานเท่านานผ่านการช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ มนุษยธรรม และการทหาร. -สำนักข่าวไทย

จับ 8 วัยรุ่นหญิงแคนาดาใช้มีดแทงคนตาย

โทรอนโต 21 ธ.ค. – ตำรวจแคนาดาจับวัยรุ่นหญิง 8 คนที่ตกเป็นผู้ต้องหาก่อเหตุใช้มีดกระหน่ำแทงชายวัย 59 ปีจนถึงแก่ชีวิตในย่านใจกลางเมืองโทรอนโตของแคนาดา ตำรวจแคนาดาเผยเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า ได้จับกุมวัยรุ่นหญิง 8 คนที่ตกเป็นผู้ต้องหาใช้มีดแทงชายคนหนึ่งที่ศูนย์การค้าใกล้สถานีรถไฟในเมืองโทรอนโต ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของแคนาดา เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ โดยที่มีผู้ต้องหาอายุ 13 ปี 3 คน อายุ 14 ปี 3 คน และอายุ 16 ปี 2 คน เป็นผู้ร่วมกันก่อเหตุ โดยที่ทั้งหมดถูกตั้งข้อหากระทำการฆ่าโดยเจตนาแต่ไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน ส่วนชายที่ถูกทำร้ายจนเสียชีวิตเพิ่งย้ายเข้าไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงคนไร้บ้านของเมืองโทรอนโต หลังเกิดเหตุดังกล่าว เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ทั้งนี้ ตำรวจสามารถตามจับกุมวัยรุ่นหญิงทั้งหมดได้ในละแวกใกล้เคียงหลังสอบปากคำพยานในเหตุการณ์ และสันนิษฐานว่า วัยรุ่นหญิงกลุ่มนี้ได้ทำร้ายและใช้มีดแทงชายคนดังกล่าวหลังเกิดเหตุทะเลาะวิวาทกัน ตำรวจแคนาดายังระบุว่า เจ้าหน้าที่สืบสวนเชื่อว่า วัยรุ่นกลุ่มนี้รู้จักกันผ่านสื่อโซเชียลมีเดียและอาศัยอยู่กันคนละพื้นที่ในเมืองโทรอนโต ตำรวจยังไม่ทราบแน่ชัดว่าทำไมวัยรุ่นกลุ่มนี้จึงนัดพบกันเมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ แต่คาดว่าน่าจะเป็นการรวมกลุ่มกันตามสถานที่ต่าง ๆ ตามปกติ ทั้งนี้ วัยรุ่นหญิงทั้ง 8 คนได้ถูกนำตัวขึ้นศาลเมื่อวันอาทิตย์ และมีกำหนดขึ้นศาลอีกครั้งในวันที่ 29 ธ.ค. นี้. -สำนักข่าวไทย

กลุ่มตาลีบันห้ามผู้หญิงอัฟกานิสถานเรียนมหาวิทยาลัย

คาบูล 21 ธ.ค. – กลุ่มตาลีบันประกาศห้ามผู้หญิงเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยทั่วประเทศของอัฟกานิสถาน ทั้งที่เคยให้สัญญาว่าจะปรับเปลี่ยนข้อบังคับที่เข้มงวดให้น้อยลงหลังยึดอำนาจการปกครองประเทศเมื่อปีก่อน จดหมายที่ลงนามโดยรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการของกลุ่มตอลิบาน ซึ่งส่งถึงมหาวิทยาลัยรัฐและเอกชนทั่วประเทศ ระบุว่า ทุกมหาวิทยาลัยต้องปฏิบัติตามคำสั่งห้ามผู้หญิงเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยในทันทีจนกว่าจะมีคำสั่งแจ้งเปลี่ยนแปลง ขณะที่โฆษกกระทรวงศึกษาธิการยืนยันกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่าประกาศดังกล่าวเป็นความจริง เอเอฟพียังรายงานว่า ก่อนหน้านี้ กลุ่มตาลีบันได้เพิ่มข้อบังคับที่จำกัดการใช้ชีวิตของสตรีในทุกด้าน โดยไม่สนใจกระแสต่อต้านจากนานาชาติ ทั้งที่กลุ่มตาลีบันเคยสัญญาว่าจะปรับเปลี่ยนข้อบังคับที่เข้มงวดให้น้อยลงหลังยึดอำนาจการปกครองประเทศเมื่อปีก่อน ในขณะเดียวกัน นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ ระบุในแถลงการณ์ว่า กลุ่มตาลีบันไม่อาจได้รับการยอมรับให้เป็นสมาชิกของประชาคมระหว่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้จนกว่าจะรู้จักเคารพสิทธิของประชาชนทุกคนในอัฟกานิสถาน ทั้งยังระบุว่า การตัดสินใจดังกล่าวจะทำให้กลุ่มตาลีบันได้รับผลกระทบตามมาอย่างแน่นอน ด้านโฆษกของนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ หรือยูเอ็น กล่าวว่า นายกูเตอร์เรสรู้สึกวิตกกังวลอย่างมากต่อคำสั่งดังกล่าวของกลุ่มตาลีบันที่ไม่ใช่แค่การละเมิดสิทธิที่เท่าเทียมกันของผู้หญิงและเด็กเท่านั้น แต่ยังจะส่งผลกระทบรุนแรงต่ออนาคตของอัฟกานิสถานอีกด้วย ทั้งนี้ คำสั่งห้ามผู้หญิงเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยของกลุ่มตาลีบันมีขึ้นไม่ถึง 3 เดือนหลังจากที่นักเรียนหญิงจำนวนมากเพิ่งเสร็จสิ้นการสอบเข้ามหาวิทยาลัยทั่วประเทศ โดยที่มีนักเรียนหญิงจำนวนมากตั้งใจที่จะเลือกเรียนด้านการสอนหนังสือและการแพทย์.-สำนักข่าวไทย

ดินถล่มจุดตั้งแคมป์ในมาเลเซีย ตายเพิ่มเป็น 25 ราย

กัวลาลัมเปอร์ 21 ธ.ค. – ตำรวจมาเลเซียพบผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 25 รายหลังเกิดเหตุดินถล่มบริเวณสถานที่ตั้งแคมป์แห่งหนึ่งในรัฐสลังงอร์เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว และยังคงเดินหน้าปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหายที่เหลืออีก 8 คนในวันนี้ ตำรวจมาเลเซียเผยวันนี้ว่า พบผู้เสียชีวิตจากเหตุดินถล่มเพิ่มขึ้นอีก 1 รายเมื่อคืนวันอังคาร ผู้เสียชีวิตรายนี้เป็นเด็กหญิงอายุราว 6-10 ขวบ สวมชุดนอนสีชมพู และถูกพบเป็นศพอยู่ใต้กองดินลึก 5 เมตร ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุดินถล่มเพิ่มเป็น 25 ราย ซึ่งมีเด็กรวมอยู่ด้วย 8 ราย ขณะนี้ ยังคงมีผู้สูญหายอีก 8 คนหลังเกิดเหตุดินถล่มบริเวณสถานที่ตั้งแคมป์ในฟาร์มเกษตรอินทรีย์ในเขตบาตังกาลี ทางตอนเหนือของกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อช่วงเช้ามืดของวันศุกร์ ทั้งยังระบุว่า ทางการท้องถิ่นได้สั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานกู้ภัยและดับเพลิง รวมถึงตำรวจ ราว 680 นาย เข้าร่วมปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตในครั้งนี้ ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของทางการท้องถิ่นรัฐสลังงอร์ระบุว่า ขณะเกิดเหตุดินถล่ม มีผู้ตั้งแคมป์กว่า 90 คนที่ส่วนใหญ่กำลังนอนหลับอยู่ในเต็นท์ โดยเจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือผู้รอดชีวิตได้กว่า 60 คนแล้ว ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า ฟาร์มแห่งนี้ไม่มีใบอนุญาตเปิดบริการจุดตั้งแคมป์ในบริเวณดังกล่าว และเจ้าของฟาร์มจะถูกลงโทษ หากผลการสืบสวนพบว่ากระทำผิดตามกฎหมายจริง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า […]

1 13 14 15 16 17 315