กรุงเทพฯ 3 มี.ค. – นายกฯ เรียกประชุมร่วมกระทรวงพลังงานประเมินราคาน้ำมันพุ่งแรง เบรนท์ แตะ 117 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จับตาจะขยับเพดานดูแลดีเซล 30 บาท/ลิตร ขึ้นราคาแอลพีจีหรือไม่ หรือใช้งบฯ กลางร่วมดูแล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานการณ์วิกฤตสงคราม “ยูเครน -รัสเซีย” ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และราคาน้ำมันพลังงานโลกขยับขึ้น ล่าสุดเช้านี้ราคาน้ำมันตลาดเบรนท์เคลื่อนไหวสูงสุดในรอบ 8 ปี ที่ 117 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมรับมือ โดยในส่วนของกระทรวงพลังงาน เตรียมรายงานสถานการณ์บนหลายสมมุติฐาน โดยเฉพาะหากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นถึง 120-130 เหรียญ/บาร์เรล กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จะรับไม่ไหวสภาพคล่องจะหมดลง เงินไหลออกหนัก ซึ่งประเมินราคาน้ำมันดิบดูไบที่ประมาณเกิน 100 เหรียญ/บาร์เรล เงินไหลออก 8 พันล้านบาท/เดือน
ทางด้านกระทรวงพลังงานเสนอทางเลือกในการดูแลราคาพลังงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์ จากที่ขณะนี้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติดูแลราคาดีเซล 30 บาท/ลิตร ราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี ) 318 บาท/ถัง 15 กก. จนถึงสิ้นเดือนมีนาคม โดยเสนอหลายแนวทางเช่น ขยับราคาดูแลดีเซลเกิน 3 0บาท/ลิตร และขยับราคา LPG ตามแผนเดิมคือ 1 บาท/กก. รายไตรมาส เสนอรัฐบาลจะต้องเข้ามาช่วยเหลือเช่น นำงบกลางมาช่วยเหลือผู้เดือดร้อน กลุ่มเปราะบางเป็นกลุ่มๆ โดยเฉพาะ ส่วนกองทุนน้ำมันฯ เสนอกู้เพิ่มจาก 2 หมื่นล้านบาทเป็น 3 หมื่นล้านบาท
สำหรับฐานะกองทุนน้ำมันฯ วันที่ 27 ก.พ. เงินกองทุนติดลบ 21,838 ล้านบาท แยกเป็นบัญชีแอลพีจีติดลบ 26,826 ล้านบาท บัญชีน้ำมันเป็นบวกเพียง 4,988 ล้านบาท โดยเงินกองทุนฯดูแลทั้งตรึงราคาแอลพีจี และดีเซล ในขณะที่ผู้ค้าน้ำมันเอกชนปรับเกิน 30 บาท/ลิตรไปแล้ว วันนี้ขึ้นราคาน้ำมัน 0.30 -1.00 บาท/ลิตร ในวันนี้จับตาดูพีทีทีสเตชันที่ ปตท.ถือหุ้นและบางจากฯ จะประกาศปรับราคาขึ้นมากน้อยเพียงใด
ส่วนราคาปิดตลาดวานนี้ (2 มี.ค.65 )ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 8 ปี ราคาน้ำมันดิบดูไบ ขึ้น 11.38 เหรียญ ปิด 110.20 เหรียญ/บาร์เรล ราคาน้ำมันสำเร็จรูปสิงคโปร์ เบนซินขึ้น 8.37 เหรียญ ปิด 125.71 เหรียญต่อบาร์เรล ดีเซลขึ้น 11.66 เหรียญ ปิดที่ 129.11 เหรียญต่อบาร์เรล (ราว2 บาท/ลิตร ) เบรนท์เพิ่มขึ้น 7.96 เหรียญ ปิด 112.93 เหรียญ/บาร์เรล ตลาดเวสต์เท็กซัส เพิ่ม 7.19 เหรียญ ปิด 110.60 เหรียญ/บาร์เรล
นายสุเชษฐ์ สุขแท้ รองกรรมการผู้จัดการบล. เอเอสเอล กล่าวว่า มีการประเมินสถานการณ์ วิกฤต ยูเครน-รัสเซียอาจยืดเยื้อ จึงไม่แนะนำเพิ่มเงินลงทุนในพอร์ตเพราะมีความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลก โดยในส่วนของราคานำมันดิบประเมินกันว่ารอบนี้อาจขึ้นไปแตะถึง 120 เหรียญต่อบาร์เรล โดย 10 ปีที่แล้ว ราคาน้ำมันเคยขึ้นสูงสุด 130 เหรียญต่อบาร์เรล กระทบเงินเฟ้ออย่างหนัก รอบนี้ จึงขึ้นอยู่กับว่า วิกฤติยูเครนจะจบเร็วมากน้อยเพียงใด ราคาน้ำมันขึ้นเช่นนี้เป็นผลดีต่อหุ้น PTTEP ราคาเป้าหมาย160 บาท ส่วนดัชนีหุ้นไทยแนวต้าน 1720 จุด แนวรับ 1680 จุด -สำนักข่าวไทย