กรุงเทพฯ 14 ก.พ.-ธุรกิจไฟฟ้า คึกคัก กฟผ. และ ซีเกท ประเทศไทย มลงนามสัญญาซื้อขายใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน(REC ) ด้านเอ็กโก กรุ๊ป คว้าอันดับ Silver Class เวที S&P Global Sustainability Award ด้าน GPSC ไฟเขียวปันผลปี 64 อัตรา 1.50/หุ้น
นายประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน รองผู้ว่าการพัฒนาโรงไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ ได้ร่วมลงนามกับนางเพียงฤทัย ศิวารัตน์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย และรองประธานฝ่ายปฏิบัติการโรงงานซีเกทโคราช บริษัท ซีเกท เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ในสัญญาซื้อขายใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate: REC) เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน ร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศ โดย ซีเกทรับซื้อ 2.2 ล้าน REC ซึ่ง ณ ปัจจุบัน นับเป็นการซื้อขาย REC ที่มีมูลค่าสัญญาและปริมาณการซื้อขายที่สูงที่สุดในประเทศไทย และกฟผ.เป็นผู้ขาย REC ที่มาจากโรงไฟฟ้าของ กฟผ. และ ให้การรับรอง REC จากโรงไฟฟ้าต่างๆ ในประเทศไทย
ด้านนายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป แจ้งว่า เอ็กโก กรุ๊ป ขึ้นแท่นด้านความยั่งยืนระดับโลก คว้าอันดับ Silver Class และติดอันดับ Top 10 ของโลก ประเภทสาธารณูปโภคไฟฟ้า (Electric Utilities) จากเวที S&P Global Sustainability Award และได้รับคัดเลือกให้อยู่ใน Sustainability Yearbook 2022 จากการประเมินของ S&P Global โดยการทำงานของบริษัทยึดหลัก ESG (Environmental, Social, and Governance) และกำหนดทิศทางในการดำเนินธุรกิจ “Cleaner, Smarter and Stronger to Drive Sustainable Growth” ตั้งเป้าหมายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี 2593 และเป้าหมายลดการปล่อยปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อหน่วยไฟฟ้าที่ผลิตได้ (Carbon Emission Intensity) 10% ภายในปี 2573

นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้า กลุ่ม ปตท.เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานปี 2564 ว่า มีรายได้รวม 74,874 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับปี 2563 ส่วนกำไรสุทธิรวม 7,319 ล้านบาท ลดลง 3% ปัจจัยหลักมาจากราคาเชื้อเพลิงตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาก๊าซธรรมชาติและถ่านหินปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม ทำให้กำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้าผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) ลดลง แม้ปริมาณการขายไฟฟ้าและไอน้ำรวมจะเพิ่มสูงขึ้นก็ตาม อย่างไรก็ตาม ปี 2564 บริษัทฯ รับรู้มูลค่า Synergy จากการควบรวมกิจการสุทธิหลังภาษีจำนวน 1,633 ล้านบาท สูงกว่าแผนที่วางไว้
ส่วนเงินปันผลประจำปี 2564คณะกรรมการบริษัทฯเห็นชอบจ่าย ในอัตราหุ้นละ 1.50 บาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ (หรือ XD วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ) กำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 เมษายนนี้. -สำนักข่าวไทย