fbpx

ผบ.ตร.สั่งสอบตำรวจ 249 นาย เซ่นบ่อนแพร่โควิด

22 เม.ย.-ผบ.ตร.สั่งสอบกราวรูด ‘พล.ต.ท.-ส.ต.ต.’ 249 นาย บกพร่องปล่อย ‘บ่อนระยอง-ชลบุรี’ แพร่โควิด

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 167/2564 ลงวันที่ 2 เมษายน 2564 เรื่อง เพิ่มเติมคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง คำสั่งระบุว่า ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 3/2564 ลงวันที่ 6 มกราคม 2564 และคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 33/2564 ลงวันที่ 25 มกราคม 2563 แต่งตั้งและเพิ่มเติมคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง พล.ต.ต.ปภัชเดช เกตุพันธ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง กับพวกรวม 7 นาย กรณีปรากฏข้อเท็จจริงต่อสังคมว่ามีการลักลอบเปิดบ่อนการพนันในพื้นที่จังหวัดระยองและจังหวัดชลบุรี เป็นเหตุให้มีการแพร่เชื้อโรคโควิด 19 (COVID-19) ในจังหวัดระยองและกระจายไปยังพื้นที่อื่นๆ ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยปละละเลยให้มีการลักลอบเปิดบ่อนการพนันหรือมีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องเรียกรับผลประโยชน์จากบ่อนการพนันดังกล่าวหรือไม่ อย่างไร เหตุเกิดวันเวลาใดไม่ปรากฏแน่ชัดถึงวันที่ 26 ธันวาคม 2563 บริเวณพื้นที่ใกล้สถานีขนส่ง แห่งที่ 1 (ขนส่งเก่า) ตำบลท่าประดู่ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง และบริเวณหลังร้านนำชัยและร้านเฉลิมกรุง พัทยาเหนือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี นั้น


เนื่องจาก พล.ต.ท.มโนช ตันตระเธียร จเรตำรวจ (สบ 8) ประธานกรรมการ ได้มีหนังสือลงวันที่ 10 มีนาคม 2564 รายงานว่าจากการสืบสวนในเรื่องดังกล่าวข้อเท็จจริงฟังได้ว่าบ่อนการพนันบริเวณพื้นที่หลังสถานีขนส่ง (ขนส่งเก่า) จังหวัดระยอง มีการเริ่มลักลอบเปิดบ่อนการพนันประมาณเดือนมีนาคม 2563 ถึงปลายเดือนธันวาคม 2563 และบ่อนการพนันบริเวณพื้นที่ตลาดนำชัยหรือร้านนำชัย จังหวัดชลบุรี มีการเริ่มลักลอบเปิดบ่อนการพนันประมาณเดือนกรกฎาคม 2563 ถึงปลายเดือนธันวาคม 2563 ซึ่งการลักลอบเปิดบ่อนการพนันในพื้นที่ และในห้วงเวลาดังกล่าวเป็นเหตุให้มีการแพร่เชื้อโรคโควิด 19 (COVID-19) ในจังหวัดระยองและจังหวัดชลบุรีและกระจายไปยังพื้นที่อื่นๆ ทำให้เสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและยังทำให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างรุนแรงในหลากหลายมิติในภาพรวมอีกด้วย

คณะกรรมการสืบสวน พิจารณาพยานหลักฐานในเบื้องต้นแล้ว เห็นว่าการสืบสวนพาดพิงไปถึงข้าราชการตำรวจอื่นว่ามีส่วนร่วม หรือมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องที่สืบสวนนี้อยู่ด้วยประกอบด้วยข้าราชการตำรวจผู้รับผิดชอบพื้นที่ดังกล่าวข้างต้นที่จะต้องถูกพิจารณาความบกพร่องตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 234/2558 ลงวันที่ 27 เมษายน 2558 เรื่อง การพิจารณาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บกพร่องในการป้องกันและปราบปรามอบายมุข ข้อ 5


สำหรับรายชื่อข้าราชการตำรวจที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนครั้งนี้ มีตั้งแต่ระดับผู้บัญชาการ (พล.ต.ท.) ไปจนถึงยศสิบตำรวจตรี จำนวน 249 นาย โดยในคำสั่งมีการเผยแพร่รายชื่อทั้งหมดด้วย

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาแล้วเห็นว่ามีกรณีเป็นที่สงสัยว่าข้าราชการตำรวจดังกล่าวกระทำผิดวินัยตามเสนอประธานกรรมการสืบสวน เพื่อให้ปรากฏรายละเอียดข้อเท็จจริงว่าข้าราชการตำรวจผู้รับผิดชอบพื้นที่ดังกล่าวมีส่วนร่วมหรือมีส่วนเกี่ยวช้องในเรื่องที่สืบสวนดังกล่าวด้วยหรือไม่ อย่างไร

อาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 84 และพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2562 มาตรา 94 ประกอบ กฏ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2556 ข้อ 28 จึงให้คณะกรรมการสืบสวนตามคำสั่งดังกล่าวข้างต้น ดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงกับข้าราชการตำรวจดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดใน กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2556 ให้แล้วเสร็จ แล้วเสนอสำนวนการสืบสวนข้อ เท็จจริงมาเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนข้อความอื่นนอกจากนี้ให้เป็นไปตามคำสั่งเดิม


พลตำรวจตรียิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงว่า คำสั่งนี้เป็นเรื่องปกติของการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง ว่าขณะเกิดเหตุตรวจพบมีการลักลอบเล่นพนันในพื้นที่ ตำรวจที่รับผิดชอบพื้นที่นั้น ๆ ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในส่วนใด มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือปล่อยปละละเลยหรือไม่ ซึ่งยังไม่มีการสรุปว่าตำรวจทั้งหมดมีความผิด จะต้องมีการพิสูจน์ทราบก่อนว่า ผู้ใครมีส่วนเกี่ยวข้องที่แท้จริง เพื่อให้สิ้นข้อสงสัย โดยยังไม่ทราบกรอบระยะการสอบสวน เพราะเป็นเรื่องของคณะกรรมการฯ ส่วนกรณีที่ส่วนตัวมีชื่อถูกตรวจสอบ เนื่องจาก ดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พลตำรวจตรียิ่งยศ ยืนยันว่า กล่าวว่า ส่วนตัวได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่โฆษกสำนักงานอีกหน้าที่หนึ่ง และที่ผ่านมา ก็ปฏิบัติงานตามหน้าที่นี้อย่างต่อเนื่อง หากคณะกรรมการฯ เรียกไปชี้แจงข้อเท็จจริง ก็พร้อมชี้แจงตามพยานหลักฐาน โดยไม่ได้วิตกกังวลแต่อย่างใด .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ