รองปลัด สธ.เผยร่าง พ.ร.บ.ยาฯ ยังต้องหารืออีก

สธ.11 ก.ย.-สธ.รับความเห็นข้อเสนอพยาบาล กรณีเสนอปรับแก้ประเภท จากปัญหาร่าง พ.ร.บ.ยา คาดยังต้องหารือร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง


นพ.โอภาส  การย์กวินพงศ์  รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังจาก สธ.และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)ร่วมหารือกับสภาการพยาบาล สมาคมพยาบาล สมาคมผู้บริหารสภาการพยาบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) สภาพยาบาลวิชาชีพชั้นสูง ผู้ปฏิบัติงานใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ร่วม 10 หน่วยงาน เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ยา ฉบับใหม่ แทน พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 ว่า โดยหลักการในเนื้อหาของร่าง พ.ร.บ.ยานั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องเห็นพ้องกันว่ามีประโยชน์กับประเทศ แต่จะมีประเด็นที่มีความเห็นต่างใน 2 ข้อ คือ 1.ในมาตรา 22(5) ที่กำหนดให้การจ่ายยา ซึ่งขอย้ำว่าการจ่ายยากับการขายยาไม่เหมือนกัน ซึ่งทางพยาบาลเสนอให้มีการอนุญาตให้พยาบาลจ่ายยาได้ด้วย และ 2.การแยกประเภทยา นิยามตามมาตรา 4 ที่เดิมกำหนดให้มี 3 ประเภท แต่พยาบาลเสนอว่าหากจะให้การทำงานของพยาบาลมีความเป็นไปได้ก็ต้องแยกเป็น 4 ประเภท 


นพ.โอภาส กล่าวต่อไปว่า จากการหารือ ตนจะนำเรื่องเสนอและหารือกับผู้บริหารและผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยจะสรุปข้อเสนอเป็น 3 ข้อ คือ 1.ในมาตรา 22(5) 2.มาตรา 4 และ3.ในกรณีเกิดภาวะฉุกเฉินวิกฤติให้พยาบาลสามารถให้ยาเพื่อช่วยชีวิตได้ 


ส่วนที่ความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันกับกลุ่มเภสัชกรที่มีการหารือกันก่อนหน้านี้ ทั้งมาตรา22(5)และเรื่องการแบ่งประเภทยา ทางออกจะต้องทำอย่างไร รองปลัด สธ.กล่าวว่า ขั้นตอนการออกกฎหมายนั้นต้องมีการเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เพื่อเห็นชอบในหลักการ พอครม.เห็นชอบก็จะต้องส่งไปที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งต้องเชิญผู้เกี่ยวข้องไปหารือก่อนส่งเข้าครม.อีกครั้ง ดังนั้นกว่าจะออกออกเป็นกฎหมายต้องใช้เวลาอีกนาน โดยความเห็นที่ต่างกันก็จะต้องเชิญผู้ที่เห็นต่างมาหารือกันเพื่อให้ได้ข้อสรุปก่อนส่ง ครม. อีกครั้งแต่คาดว่าจะต้องหารือกันให้เสร็จภายในสัปดาห์นี้ 

 

ส่วนกรณีสำนักโพลแห่งหนึ่งสำรวจความเห็นประชาชนและพบว่าประชาชนยังมีความมั่นใจให้เภสัชกรจ่ายยาและยังไม่มั่นใจในวิชาชีพอื่นนั้น นพ.โอภาส กล่าวว่า โดยหลักการก็เห็นพ้องกันว่าแต่ละวิชาชีพมีความเชี่ยวชาญต่างกัน แต่ในบริบทความเป็นจริงในสถานการณ์ที่อยู่ชายแดน ยังไม่สามารถหาวิชาชีพไปอยู่ได้ครบ ดังนั้นเพื่อเกิดประโยชน์ก็ให้วิชาชีพอื่นจ่ายแทนได้ ปรับตามสภาพความเป็นจริงซึ่งต้องหารือกัน 

ส่วนการจ่ายยาในภาวะวิกฤติ เช่น ใน รพ.สต.ก็ให้เป็นหน้าที่พยาบาลเพื่อบรรเทาและรักษาให้ผู้ป่วยพ้นภาวะวิกฤติเป็นต้น ซึ่งสิ่งที่พยาบาลต้องการคือมีการคุ้มครองการทำงานให้ถูกต้องปลอดภัยตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

ปิดตำนาน “อาฉี เสียงหล่อ” นักแสดงตลกดัง เสียชีวิตในวัย 57

ปิดตำนาน “อาฉี เสียงหล่อ” หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เสียชีวิตในวัย 57 ปี ญาติและทีมงานทำใจไม่ได้ เผยเตรียมกลับมาในแพลตฟอร์มต่างๆ อีกครั้ง แต่มาเสียชีวิตก่อน

ศาลให้ประกัน “เอกราช ช่างเหลา” คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย ฐานยักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น กว่า 1,200 ล้านบาท ก่อนได้รับการประกันตัวเพื่อสู้คดีต่อในชั้นศาลอุทธรณ์

สอบปากคำแล้ว 117 ปาก เร่งสางคดีตึก สตง.ถล่ม

รองผบช.น. เผย สอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง คดีอาคาร สตง.ถล่มแล้ว 117 ปาก ยังรอสอบบริษัทควบคุมงาน-ออกแบบก่อสร้าง พร้อมนัดสอบ ‘ปฏิวัติ’ CEO กิจการร่วมค้า PKW 21 เม.ย. เร่งรวบรวมหลักฐานเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง

ผบ.ตร.สั่งดำเนินคดีทุกข้อหาชายซิ่งเก๋งชนกระบะ ระบุน่ารังเกียจ-ไร้วุฒิภาวะ

ผบ.ตร.จวกพฤติกรรมชายซิ่ง BMW ชนกระบะ “น่ารังเกียจ-ไร้วุฒิภาวะ” สั่งดำเนินคดีทุกข้อหา แม้เป็นลูกหลานนักการเมืองดังไม่มีละเว้น