“บิ๊กต่อ“ ทิ้งท้ายเกษียณ ขอตำรวจตั้งใจทำงาน ส่วนตัวขอพักผ่อน

ตร. 30 ก.ย. – “บิ๊กต่อ” ทิ้งท้ายอายุเกษียณราชการ “งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา” จากนี้ขอให้ตำรวจตั้งใจทำงาน ส่วนตนขอพักผ่อน


วันนี้ (30 ก.ย.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดพิธีรับ-ส่งมอบหน้าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่เกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2567 โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้เป็นประธานในพิธีขึ้นแท่นรับความเคารพ จากนั้นได้ตรวจแถวกองเกียรติยศ โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.), พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บังคับบัญชาระดับสูงเข้าร่วมในพิธี ต่อมามีพิธีถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชการที่ 4 บริเวณด้านหน้าอาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จากนั้นมีพิธีถวายราชสักการะพระบรมรูปหล่อ รัชกาลที่ 9 ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และมีพิธีรับ-ส่ง มอบหน้าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ห้องศรียานนท์

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้กล่าวในพิธีรับ-ส่งมอบหน้าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่า รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จเรตำรวจแห่งชาติ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเพื่อนข้าราชการตำรวจที่รักทุกท่าน ผมมีความยินดีและภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ราชการในฐานะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผมขอขอบคุณเพื่อน ข้าราชการตำรวจทุกท่าน ที่ร่วมกันปฏิบัติงานในหน้าที่ตลอดมาอย่างเต็มกำลังความสามารถทุกภาคส่วน ร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท เสียสละ แม้ว่าจะมีสถานการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งเป็นเรื่องปกติของอาชีพตำรวจเรา แต่ด้วยความร่วมมือร่วมใจของทุกคน ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สามารถปฏิบัติภารกิจในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้เกิดความสงบเรียบร้อยในสังคมได้


พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในวันนี้เป็นวันสุดท้าย ที่ผมจะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้ กฎ ก.ตร. ระเบียบ หลักเกณฑ์ ว่าด้วยการแต่งตั้งยังไม่อาจเริ่มกระบวนการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ ประกอบกับมีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 335/2567 ลงวันที่ 26 กันยายน 2567 ให้พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ เป็นผู้รักษาราชการแทนในตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป ผมจึงขอส่งมอบหน้าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้แก่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ณ บัดนี้

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า สุดท้ายนี้ ผมขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก เดชะพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ตลอดจนองค์บูรพกษัตริย์ไทยทุกพระองค์ โปรดปกป้องคุ้มครองท่านทั้งหลาย ให้มีความสุขความเจริญ ปลอดภัยจากภยันตรายทั้งหลายทั้งปวงตลอดไป

ด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะพ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากเกษียณอายุราชการ ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยประมวลระเบียบการ ตำรวจไม่เกี่ยวกับคดีลักษณะที่ 15 การรับส่งงานในหน้าที่ราชการ สำหรับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานฝ่ายอำนวยการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดทำบันทึกการรับส่งงานในหน้าที่ราชการของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตามระเบียบเพื่อประกอบการส่งมอบหน้าที่ราชการในวันนี้


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า กระผมในฐานะรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่มีอาวุโสสูงสุดในขณะนี้เป็นผู้ทำหน้าที่รับมอบงานในหน้าที่ราชการในตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมทั้งบัญชีรายการเอกสารที่เกี่ยวข้องไว้ เพื่อจะได้ดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบต่อไป

สำหรับบรรยากาศหลังพิธีรับ-ส่ง มอบหน้าที่ ได้มีการบันทึกภาพร่วมกันของผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากนั้นข้าราชการตำรวจได้ตั้งแถวมอบดอกกุหลาบให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ โดยตั้งแถวเป็นแนวยาวตั้งแต่หน้าห้องประชุมศรียานนท์ชั้น 2 ลงมาจนถึงด้านหน้าอาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. และผู้บังคับบัญชาระดับสูงรอส่งพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับบ้าน ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐได้พูดคุยกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ นานที่สุด

ก่อนขึ้นรถกลับ ผู้สื่อข่าวได้ถาม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ว่าจะฝากอะไรถึงตำรวจบ้าง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ บอกว่าไม่มีอะไรจะฝาก ให้ทุกคนมุ่งมั่น ตั้งใจทำงานให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนตัวเองก็ถึงเวลาพัก เมื่อถามว่ารู้สึกใจหายหรือไม่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ บอกว่า งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ตนก็เตรียมตัวไว้อยู่แล้ว เมื่อถามต่อว่าเกษียณอายุราชการแล้วหลังจากนี้จะทำอะไร พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยิ้มและตอบว่าพักครับ. -419-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์

มือยิง 3 ศพ ขอโทษ-สำนึกผิด อ้างบันดาลโทสะ

ตำรวจแถลงข่าวจับกุม “สามารถ” ผู้ต้องหายิง 3 ศพ ในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังจากติดต่อมอบตัว พร้อมยอมรับผิด ขอโทษญาติผู้เสียชีวิต อ้างบันดาลโทสะจึงก่อเหตุ และไม่มีอาการคลั่งตามที่เป็นข่าว