นครราชสีมา 1 มี.ค.- “ชัยวัฒน์” ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบุกพิสูจน์พื้นที่กลุ่มทุนอยู่เบื้องหลังการได้เอกสาร ส.ป.ก.4-01 ในพื้นที่เขาใหญ่โดยไม่ชอบ เพื่อให้สังคมเห็นว่า ส.ป.ก.ไม่ได้ออกเอกสารเฉพาะในพื้นที่ตัวเองอย่างที่อ้าง ลั่นถ้ารุกป่าไม่ต้องโทรมาเคลียร์
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการ สำนักอุทยานแห่งชาติ พร้อมด้วยนายชีวะภาพ ชีวธรรม หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำคณะเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชน ลงพื้นที่แปลง ส.ป.ก.1 ใน 8 แปลง ของนายทุนชาวจังหวัดปทุมธานี ที่ครอบครองเนื้อที่รวมเกือบ 90 ไร่ พื้นที่บ้านกุดคล้า หมู่ 5 ตำบลหมูสี จากการตรวจสอบพบว่า ได้เอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 แล้ว 29 ไร่ อยู่ระหว่างการออกเอกสาร ส.ป.ก.อีก 7 แปลง เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่จุดนี้ มาตลอด 1 เดือน พบหมุด ส.ป.ก. 5 หมุด ตามรูปแปลงคร่อมทับลำตะคอง ที่ไหลมาจากน้ำตกเหวสุวัต บนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พบว่า มีการขยายลำคอง นำหินขนาดใหญ่มาวางกั้นเป็นแนวพนัง ซึ่งกรมเจ้าท่า จะแจ้งความดำเนินคดีต่อไป ด้านหลังที่เป็นภูเขาวังหิน ความลาดชันเกิน 35 องศา ที่ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิได้ ก็มีการขึ้นรูปแปลง ส.ป.ก.เช่นกัน ตามต้นไม้ที่เห็นรอยพ่นลูกศรสีแดง เป็นการบอกทิศทางของหมุดต่อไป ดูจากสภาพแล้ว พ่นสีมาไม่เกิน 5-6 เดือน พื้นที่บริเวณนี้ ยังพบการใช้ประโยชน์ของช้างป่าด้วย
สำหรับการบุกตรวจพื้นที่ ส.ป.ก.จุดนี้ เป็นการขยายผลการจับกุมมาจากพื้นที่พิพาทอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เมื่อเดือนสิงหาคม ปีที่แล้ว นายชัยวัฒน์ ยืนยันว่าไม่ได้อยากทำร้ายองค์กรใคร แต่ต้องทำตามหลักฐานข้อเท็จจริงที่ปรากฏ
นายชัยวัฒน์ เปิดเผยกับสื่อมวลชน ว่า มีผู้ใหญ่โทรมาเคลียร์ว่าในวันพรุ่งนี้ ทุกอย่างจะคืนให้กับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พื้นที่ทับซ้อนก็จะจบแบบไม่มีปัญหา ส.ป.ก.จะถอนออกทั้งหมด ซึ่งตนตอบตกลง ถ้าได้ที่คืน เราจบ แต่ถ้ายืนยันตามที่กรมแผนที่ทหารบอก ไม่ต้องโทรมา ตนไม่เคลียร์ ถ้ากรมอุทยานฯ รวมทั้งกรมป่าไม้ ไม่ได้ที่คืน ตนไม่ยอม สำหรับการลงพื้นที่ในวันนี้ ก็เพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐ สื่อมวลชน ตลอดจนสังคม ช่วยกันดูว่าพื้นที่ตรงนี้สามารถออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.ได้หรือไม่ และเป็นไปตามเจ้าหน้าที่บอกหรือไม่ ว่า ส.ป.ก.ออกเอกสารเฉพาะในพื้นที่ของตัวเอง พร้อมสะท้อนให้เห็นว่า การเอารูปแปลงไปกาง โดยไม่ถามหน่วยงานอื่น ถูกต้องหรือไม่ พอมีปัญหาขึ้นมา ก็ให้คนกลางมาตัดสิน ตนจึงต้องให้สังคมช่วยกันตรวจสอบ
ขณะที่นายชีวภาพ บอกว่า พื้นที่คาบเกี่ยวกันของหน่วยงานรัฐด้วยกัน จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องประสานงานก่อนออกเอกสารสิทธิ ซึ่งกฎหมายที่ทำให้พี่น้องประชาชน จะต้องมีมาตรฐานใกล้เคียงกัน ไม่อย่างนั้น จะเกิดปัญหาอยู่อย่างนี้ เพราะวันนี้ เรายังต้องรอวันแมป ที่คาดว่าคงอีกนาน ระหว่างนี้ต้องให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ แม้จะทับซ้อนกันบ้าง แต่จุดไหนที่เป็นป่าก็อย่าไปรังวัด เจ้าหน้าที่ต้องมีจิตสำนึก .-สำนักข่าวไทย