กรุงเทพฯ 8 มิ.ย. – “บิ๊กโจ๊ก” เผยการอายัดบัญชีกลุ่มสีเทา เพื่อเรียกรับผลประโยชน์ ไม่ได้เกิดขึ้นในพื้นที่ภูธรภาค 1 เท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นในพื้นที่ สน.ทองหล่อ ที่มีการอายัดเงิน 176 ล้านบาท ก่อนเพิกถอน แลกเงินส่วนแบ่ง เตรียมดำเนินการทั้งวินัยและอาญา
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีผู้กำกับพันธุ์ดุ สังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ใต้บังคับบัญชาของ สภ.ดังกล่าวในหลายกรณี เช่น มีการอายัดบัญชีกว่า 900 บัญชี จัดชุดพนักงานสอบสวนชุดเฉพาะ 2-3 คน ให้มาทำเรื่องเกี่ยวกับการอายัดบัญชีของกลุ่มจีนเทาอย่างเดียว
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (7 มิ.ย.66) ตนได้มีคำสั่งโยกย้ายผู้กำกับคนดังกล่าวให้ไปช่วยราชการที่อื่นแทน เพื่อแก้ไขปัญหาและเปิดทางให้ตำรวจเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงได้อย่างเต็มที่ โดยเรื่องดังกล่าวได้ประสาน พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บังคับบัญชาตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งทาง พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ระบุว่า ตนเคยออกใบแดงให้ผู้กำกับคนดังกล่าวไปแล้ว ว่าให้หยุดพฤติกรรมแบบนี้ แต่เมื่อไม่หยุด ก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังระบุอีกว่า ปัญหาลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะตำรวจภูธรภาค 1 แต่ยังเกิดขึ้นในพื้นที่อื่นๆ ด้วย ในกรณีนี้ผู้ใต้บังคับบัญชารู้สึกทนไม่ไหว เพราะพบพฤติกรรมหลายอย่างไม่เหมาะสม เช่น การแต่งตั้งพนักงานสอบสวน 2-3 นาย ขึ้นมาทำการอายัดบัญชีของกลุ่มสีเทา ก่อนเรียกรับผลประโยชน์แลกกับการเพิกถอนอายัด และทำคดีนี้คดีเดียว โดยไม่รับผิดชอบคดีอื่นเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและไม่ควรเกิดขึ้น ซึ่งการอายัดบัญชีสามารถกระทำได้ แต่ไม่ใช่การกลั่นแกล้งเพื่อเรียกรับผลประโยชน์ ดังนั้นจึงต้องดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญา เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อผู้ใต้บังคับบัญชา และตำรวจนายอื่นๆ เช่นเดียวกับเรื่องเงิน 176 ล้านบาท ในพื้นที่ สน.ทองหล่อ ซึ่งได้มีการอายัดไปแล้วก่อนหน้านี้ และมีการเพิกถอนในเวลาต่อมาในลักษณะต่อรองผลประโยชน์ ก็ต้องดำเนินการเป็นเคสต่อไป. – สำนักข่าวไทย