กรุงเทพฯ 8 ธ.ค.-บล.ธนชาต คาดสภาพคล่องหุ้นไทยจะได้รับผลกระทบในช่วงแรกหลังภาษีหุ้นมีผลบังคับใช้ในปีหน้า แต่หากตลาดโตขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของไทยสวนตลาด ก็คาดว่าภาวะการซื้อขายจะฟื้น คาดผลกำไรบจ.ปี66 ไม่รวมกลุ่มน้ำมันโตร้อยละ 20 ด้าน NOMURAปรับเพิ่มจีดีพีไทยปีหน้า โต 3.8%
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ เปิดตลาดเป็นบวก และเวลา 10.50น. ดัชนีอยู่ที่ 1,616.50 จุด ลบ -5.63 จุด หรือ -0.35% ท่ามกลางกระแส รายย่อยเชินชวนหยุดเทรดเพื่อคัดค้านภาษีขายหุ้น
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ รองกรรมการผู้จัดการ บล.ธนชาต จำกัด (มหาชน) คาดกระแสรายย่อยเชิญชวนหยุดเทรดเพื่อค้านภาษีขายหุ้นที่จะมีผลบังคับใช้ในปี66 นั้น คาดจะทำให้มูลค่าการซื้อขายวันนี้เงียบลงไปอีก จากที่เงียบอยู่แล้วเพราะกังวลเศรษฐกิโลกถดถอย จะส่งผลให้มูลค่าซื้อขายวันนี้ไม่ถึง 5 หมื่นล้านบาท นับเป็นการแสดงออกทางสัญญลักษณ์ ของนักลงทุน ที่คัดค้านภาษีหุ้น เพราะแน่นอนว่าภาษีได้เพิ่มต้นทุน ยิ่งเทรดบ่อยโดยเฉพาะกลุ่มเก็งกำไรย่อมมีการจ่ายภาษีมากขึ้น ซึ่งกลุ่มนี้มีสัดสัดส่วนสูงในตลาด ดังนั้น เมื่อช่วงภาษีเริ่มมีผลบังคับใช้ในช่วงแรกก็จะทำให้กระทบภาวะตลาด แต่เมื่อตลาดปรับตัวตัวได้ มีปริมาณการเงินและตลาดใหญ่ขึ้น ก็จะทำให้ ภาวะตลาดฟื้นกลับขึ้นมาก
สำหรับภาวะตลาดในวันนี้ นักลงทุนยังได้รับผลกระทบจากภาวะต่างประเทศที่กังวลเศรษฐกิจโลกถดถอย รอการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ แก่เงินเฟ้อในวันที่ 13 ธ.ค. และถ้อยแถลงของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด ในวันที่14 ธ.ค. ประเด็นนี้ทำให้บดบังผลบวกจากกรณีจีนผ่อนคลายการควบคุมโควิด-19
อย่างไรก็ตาม จากที่เศรษฐกิจไทยมีหน้ามีแนวโน้มดีขึ้นสวนตลาดโลก ทั้งจากภาคบริโภคในประเทศ การฟื้นตัวจากการท่องเที่ยว และหากจีนเปิดประเทศ นักท่องเที่ยวกลับเข้ามายิ่งเป็นผลดี ประกับกับเงินเฟ้อเริ่มทรงตัว ราคาน้ำมันดิบลดลง เริ่มเห็นเงินบาทแข็งค่าและปีหน้าคาดจะแข็งค่าขึ้นอีก ไทยจะมีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด จึงคาดว่าจะเกิดกระแสเงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้น ประกอบกับคาดว่า บจ.ไทยปีหน้าจะมีกำไรราวโตร้อยละ 7 แต่หากหักกลบกลุ่มพลังงานคาดกำไรโตร้อยละ 20 ก็นับว่าเป็นตลาดที่โดเด่นเมื่อเทียบกับหลายตลาด จึงเป็นโอกาสที่ทยอยสะสมหุ้นไทย โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยว การบริโภค การเปิดเมือง ส่วนกลุ่มพลังงาน เช่น ปตท.ราคาในปัจจุบันถูกกดดันจากการรับรู้เรื่องการอุดหนุนค่าไฟฟ้าปีหน้า 6 พันล้านบาทไปแล้ว ราคาที่ต่ำก็นับเป็นโอกาสที่จะเข้าไปสะสมได้
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า Nomura ออกรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปี 23 ฝั่งเอเชียแม้ประเมินมีความท้าทายจากความเสี่ยงเศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้วถดถอยแต่จะมีแนวโน้มเติบโตดีกว่าประเทศพัฒนาแล้ว หนุนจากการฟื้นตัวของจีน ทั้งนี้ ในส่วนไทย Nomura ปรับเพิ่ม GDP ปี 22-23 ขึ้นเป็น +3.3% และ +3.8% (เดิม +3.3% และ +3.5% ขณะที่ปี 23 สูงกว่าที่ Consensus ประเมินไว้ที่+3.6%) )แรงหนุนจากการท่องเที่ยวสดใส โดยคาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 28 ล้านคน ภายใต้สมมติฐานจีนคลายZero COVID Strategy (ZCS) ตั้งแต่ มี.ค. ปีหน้า บวกต่อดุลบัญชีเดินสะพัด ชดเชย ผลกระทบการส่งออก (คาด-6.0%y-y)
นอกจากนี้ คาดการณ์ค่าเงินบาทไตรมาส 4/22 ปีนี้ ปรับเพิ่มเป็น 35 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ (เดิม 37 บาท) ส่วนสิ้นปีหน้า Nomura ปรับเพิ่มเป็น 32.8 บาท (เดิม 34.6 บาท) ถือเป็นภาพบวกต่อ SET
ทั้งนี้ ครม.ได้เห็นชอบแผนเก็บภาษีขายหุ้น จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ของเดือนที่ 4 นับจากกฎหมายเรื่องนี้มีผลบังคับใช้แล้วหรือ มีระยะเวลาให้ปรับตัว 90 วัน โดยในปีแรกหลังกฎหมายบังคับใช้ จะให้เก็บในอัตราเพียง 0.05% ก่อน จากนั้นจะเก็บในอัตราปกติ 0.1% คาดจะเริ่มเก็บเม.ย. 2566 และข้อกำหนดยกเว้นกองทุนบางกลุ่ม เช่น กองทุนบำนาญ ผู้ดูแลสภาพคล่อง (Market Maker) .-สำนักข่าวไทย
